เรื่องเล่าจากเมียนมา: เมื่อการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตคือยุทธการสำคัญ
ตั้งแต่วันแรกที่เราได้ยินข่าวรัฐประหารจากเมียนมา ก่อนที่จะรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งแรกที่กองทัพเมียนมาทำ คือการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และนับจาก 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ช่วงเวลาให้ใช้สัญญาณก็จำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงเมื่อวานที่มีคำสั่งให้จำกัดต่อไป
นักข่าวเมียนมาที่เขียวข่าวรายวันให้ Thai PBS World จากย่างกุ้งบอกฉันว่า ถ้าตัดแบบไม่กำหนดวันกลับมาจริงๆ ทางเดียวที่จะยังเป็นตัวช่วยได้คือใยแก้ว FTTH เขาบอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่ใช้ และเขาพยายามแล้ว ไม่สำเร็จ
ในขณะที่การใช้งานอินเตอร์เน็ตยากเย็นขึ้นเรื่อยๆ เฟซบุ๊กประกาศฟีเจอร์ความปลอดภัยตัวใหม่ ที่จะให้ผู้ใช้ “ล๊อก” บัญชีผู้ใช้ของตัวเองได้ ซึ่งระหว่างที่ล๊อกนี้ คนที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีเพื่อน จะไม่สามารถเห็นรูป เห็นโพสต์ใดๆ ไม่สามารุดาวน์โหลดรูปโปรไฟล์หรือรูปปกไปใช้ได้
โครงสร้างพื้นฐานของเมียนมาไม่ได้ก้าวหน้าเกินเพื่อนบ้าน แต่ฐานการใช้อินเตอร์เน็ตโมบายล์นั้นขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนคนส่วนใหญ่และธุรกิจจำนวนมากพึ่งพาอินเตอร์เน็ตจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นหลัก พูดได้ว่าอินเตอร์เน็ตจากโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นที่นิยมและราคาถูก
ชายหนุ่มอายุ 21 ปีที่เดวิดสัมภาษณ์ เล่าว่าเขาออกไปประท้วงทุกวัน และสัญญาณอินเตอร์เน็ตเหมือนเป็นเส้นชีวิตของเขา มีหลายครั้งที่เขาติดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เขาโชคดีที่สามารถสื่อสารกับคนข้างนอกที่จะยอมเสี่ยงพาเขาออกไปได้
เมื่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกรัฐบาลสั่งตัด ทางเลือกต่อมาคืออินเตอร์เน็ตไวไฟ ราคาไม่แพง แต่สัญญาณช้ามาก
แต่ถึงวันนี้ อินเตอร์เน็ตไวไฟ ก็ถูกระงับเช่นกัน ทางเลือกสุดท้ายคือใยแก้ว ซึ่งมีคนไม่มากนักที่ติดตั้งอินเตอร์เน็ตใยแก้วในเมียนมา เนื่องจากราคาโดยรวมแพงกว่าบริการอินเตอร์เน็ตอย่างอื่น แต่เมื่อใยแก้วเป็นทางเลือกเดียวที่มี ตอนนี้ คนส่วนใหญ่ที่ติดตั้งใยแก้วที่บ้าน ก็มักปลดล๊อกให้คนที่อยู่ใกล้ๆ หรือผ่านไปมา ได้ใช้อินเตอร์เน็ตด้วย
เมื่ออินเตอร์เน็ตกลายเป็นสิ่งที่ถูกจำกัด ตอนนี้ผู้ประท้วงต้องพึ่งพาการส่งข้อความ SMS เป็นช่องทางหลัก แต่ก็ยังต้องใช้ด้วยความระแวงว่าจะมีการดักสัญญาณ
ภาพจาก AFP
-- เติมเชื้อความกลัว –
นักวิชาการด้านการสื่อสารของเมียนมา Zaw กล่าวว่าทหารกำลังใช้กลยุทธ “แบ่งแยกแล้วปกครอง” (divide and conquer) ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้มาเป็นทศวรรษ
ในช่วงที่มีการปราบปรามในแต่ละพื้นที่ Zaw กล่าวว่าจะเห็นได้ชัดว่าการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตมีผลขนาดไหน คนรุ่นที่อายุมากกว่า ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ มักจะมีความกลัวมาก “ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราก็กลัวเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ เรารู้ว่าจะหาและทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องได้อย่างไร”
Zaw ระบุว่า เมื่อเฟซบุ๊กเป็นสิ่งที่นิยมใช้กันมากๆ คนรุ่นเก่าก็นิยมใช้กันมากด้วย แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามีข้อมูลผิดๆ เผยแพร่อยู่บนเฟซบุ๊กมากมายแค่ไหน ซึ่งคนรุ่นนี้ “อ่อนไหวต่อข่าวลวง ข่าวอคติ และการชี้นำอื่นๆ” เขาเห็นคนแก่ฟังคำสั่งจากหน่วยความมั่นคง และ “โหมดเพื่อความอยู่รอด” แบบเมื่อก่อนก็เริ่มทำงาน และสถานการณ์แย่ลงเมื่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกตัด พร้อมกับที่หนังสือพิมพ์เอกชนถูกทางการสั่งปิด
ตอนนี้ จะเห็นคนรุ่นใหม่ เด็กวัยรุ่น เที่ยวไปเรียกร้องคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ หวังว่าจะให้พวกเขาโกรธและออกมาร่วมประท้วงด้วย “แต่พวกเขากลัวเกินไป” Zaw มองว่าต้องมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ที่จะผลักดันให้คนทั่วประเทืศออกมาประท้วงมากขึ้น เขามองว่ายุทธวิธี “แบ่งแยกแล้วปกครอง” กำลังได้ผล และทั้งหมดก็เริ่มต้นที่การตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต
แต่ถ้าคุณถามผู้สูงอายุบางคน คำตอบของเขาไม่ใช่ความกลัว คุณยายวัย 83 กล่าวว่า เธอแก่แล้ว และแก่เกินกว่าที่จะกังวลเรื่องความตาย แต่เธอกลัวแทนหลานๆ เธอเข้าใจความรู้สึกของคนรุ่นใหม่ “แต่เรากำลังต่อสู้กับสัตว์ติดอาวุธ คนถูกฆ่า แม้ว่าออกไปประท้วงอย่างสันติ” เธอกล่าวว่า ความเห็นของเธอคือ ถ้าพวกผู้ประท้วงมีเครื่องไม้เครื่องมือที่จะทำความเสียหายให้ฝ่ายความมั่นคงได้ ก็ออกไปทำเลย แต่ถ้าไม่อย่างนั้น ก็อย่าทำ
ภาพจาก AFP
- 48
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
