เคยเจอสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ไม่รู้จะตัดสินใจทางไหนมั้ยครับ ถ้ายังไม่เคย Ned คือ Case Study ที่ถือว่าซวยมากๆคนนึง คนที่เหมือนจะมาเป็นตัวเอกใน Season แรกแต่ทำไมเค้าถึงไปไม่รอดถึงแม้จะรอบคอบแค่ไหนก็ตาม เรามาย้อนดูกันดีกว่าว่าชีวิตของ Ned เคยถูกโยนไปรับเผือกร้อนพร้อมปัญหาแบบนี้มาแล้วกี่ครั้ง
*** Ned เป็นตัวละครที่ผมชอบที่สุดของเรื่องนี้เลยนะครับ เป็นคนที่แอร์ไทม์น้อยแต่ impact กับเรื่องหนักมาก เหตุผลต่างๆก็อยู่ในเรื่องที่ผมจะเล่านี่แหละ 🤓
👦🏻 - ลูกชายคนกลางของตระกูล Stark ที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ
สำหรับใครที่ยังไม่ทราบ Ned นั้นเป็นลูกชายคนที่สองของ Lord Rickard Stark โดยมีพี่ชายคนโตคือ Brandon และมีน้องอีกสองคน Benjen (ที่ไปอยู่กับ Nightwatch) และ Lyanna (น้องสาวซึ่งเป็นคู่หมั้นของ Robert แต่ถูก Rhaegar ลักพาตัวไป)
แต่สุดท้ายตอนจบของทั้งสองคนกลับเหมือนกัน คือ Ned ต้องรับหน้าที่ Lord of Winterfell แทนพี่ชายที่ตายไป (ตายเพราะอะไร อยู่ในตอนถัดไปครับ) และรับตำแหน่ง Hand of the King ให้เพื่อนสนิท ส่วน Bran ในตอนจบของซีรี่ส์ก็ก้าวกระโดดไปเป็น King Bran ที่ถือตำแหน่งใหญ่กว่าพ่อซะอีก
👨🏻 อยู่ๆก็มาเป็น Lord of Winterfell , Warden of the North (เผือกร้อนที่ 1)
อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า Ned มีพี่ชายที่ชื่อ Brandon แล้วเหตุการณ์มันเป็นมาอย่างไร ทำไมตำแหน่ง Lord ถึงตกมาเป็นของ Ned
ด้วยความเป็นลูกคนรอง Ned ได้ถูกส่งไปอยู่ที่ Eyrie ภายใต้การดูแล (Foster) ของ Jon Arryn ที่นั่นเองที่เค้าได้เจอกับ Robert ทายาทคนโตของตระกูล Baratheon เรียนรู้ฝึกฝนอยู่ด้วยกันหลายปีจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน และทั้งคู่ก็รัก Jon Arryn เหมือนพ่อเนื่องจาก Jon เองก็ไม่มีลูกเช่นกัน
*** ตอนนั้น Jon ยังไม่ได้แต่งงานกับ Lysa และภรรยาคนก่อนก็ไม่มีลูก
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดปัญหาระหว่างตระกูลตามมาอีกมากมาย และแน่นอนต้องเกี่ยวพันกับ Stark เพราะดันไปเป็นคู่กรณีแบบชัดเจน ทำให้ Brandon โมโหและบุกเข้าไปหาเรื่องถึง King’s Landing แต่ก็ถูก Mad King จับเข้าคุกในข้อหาที่มาว่าร้าย Crowned Prince และเรียก Lord Rickard ผู้เป็นพ่อเข้ามาเพื่อรับฟังความผิดของลูกชาย
Rickard เห็นท่าไม่ดี จึงพาทหารไป 200 คน เมื่อไปถึง Mad King ก็ให้โอกาสพิสูจน์ความผิดของ Brandon โดยการประลอง (Trial by Combat) Lord Rickard จึงรับคำท้าและเข้าประลองด้วยตัวเอง
แต่ก็ต้องเจอกับความพ่ายแพ้ เพราะ Mad King มันบ้ามันเลือกใช้เพลิงเป็นตัวแทนของตน เพราะสัญลักษณ์ของ Targaryen คือมังกร ทำให้ Lord Rickard ถูกเผาทั้งเป็น ส่วน Brandon ที่ยืนดูอยุ่นั่นก็ถูกล่ามโซ่ที่คอไว้ พอเห็นพ่อทรมานก็พยายามดิ้นรนออกไปช่วย แต่ก็ถูกโซ่ที่คอรั้งไว้จนขาดอากาศหายใจตายไปด้วยกัน
ภาพ fanart ของเหตุการณ์ในวันนั้น
ดังนั้นนั่นหมายความว่า Ned ได้ขึ้นมาเป็น Lord of Winterfell ทันทีที่พ่อและพี่ชายของเค้าตายแบบกะทันหัน ต้องรับเผือกร้อนในตำแหน่งที่ตนไม่เคยคิดว่าจะต้องเขามารับผิดชอบมาก่อนในชีวิต
⚔️ - เข้าสู่สงคราม Robert Rebellion
ต่อมาเมื่อ Mad King จัดการคู่พ่อลูกได้เสี้ยนหนามต่อไปคือ Ned กับ Robert ที่ยังไงต้องมาแก้แค้นแน่ๆ คนนึงในเหตุผลที่คุณไปฆ่าพ่อและพี่ชายแถมยังลักพาตัวน้องสาว ส่วนอีกคนก็จะแก้แค้นที่ถูกลักพาตัวคู่หมั้นไป Mad King จึงส่งจดหมายไปหา Jon Arryn ให้ส่งหัวของ Ned และ Robert มาที่ King’s Landing
ด้วยความผูกพันและความสนิทกันเหมือนพ่อลูก Jon Arryn ที่พ่วงตำแหน่ง Lord of Eyrie, Warden of the East ก็ตัดสินใจ Raise the banner เพื่อจะโค่น Targaryen ลงเพราะรับกับความบ้าของ Mad King ไม่ไหว
เมื่อรวมกับ Bannermen ของ Ned ที่ตอนนี้เป็น Lord of Winterfell, Warden of the North และ Robert ที่เป็น Lord of Stormend, Lord Paramount of Stormland นั่นหมายความว่าตอนนี้ 3 จาก 7 อาณาจักรได้ลุกขึ้นต่อต้านอำนาจของ Targaryens
ซึ่งสงครามก็จบลงด้วยชัยชนะของฝั่ง Jon, Ned, Robert และ Robert คือผู้ที่มีสายเลือดกษัตริย์มากที่สุดในสามคนนี้เพราะมีย่าเป็นสายเลือด Targaryen จึงถูกยกให้เป็น King Robert Baratheon และมี Jon Arryn เป้า Hand of the King ส่วน Ned นั้นก็กลับไปปกครองภาคเหนือแทนพ่อและพี่ชายต่อไป
👰🏻♀️ - เจ้าสาวที่ไม่คาดฝัน (เผือกร้อนที่ 2)
ภรรยาที่อยู่กินและรักกันมาจนต้องมาจบชีวิตลงทั้งคู่อย่าง Catelyn Tully นั้นก็ไม่ใช่คู่หมั้นหมายของ Ned เช่นกัน เพราะ Catelyn ถูกหมั้นหมายไว้กับ Brandon พี่ชายของ Ned มาก่อน (รวมถึงเป็นคนรักของ Petyr Baelish, Littlefinger ที่ถูกเลี้ยงไว้ที่ Riverrun ด้วย)
เมื่อ Brandon ถูกประหารด้วยวิธีพิสดาร การหมั้นหมายก็จบลง แต่ทางตระกูล Tully นั้นก็ยังอยากสานสัมพันธ์กับ Stark จึงได้เปลี่ยนให้ Catelyn มาแต่งงานกับ Ned แทน ส่วน Lysa น้องสาวก็ถูกจับแต่งงานกับ Jon Arryn (การแต่งงานเกิดขึ้นก่อนสงคราม Robert’s Rebellion เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนของตระกูล Tully)
หลังจากที่ Robert เอาชนะ Prince Rhaegar ได้ใน Battle of the Trident สงครามก็แทบจะจบลงแล้วเพราะฝ่าย Targaryens แทบไม่เหลืออะไรจะสู้ ในระหว่างที่ Robert พักรักษาตัวอยู่นั้น Ned รับหน้าที่เป็นทัพหน้าบุกเข้าไปยัง King’s Landing
สิ่งแรกที่ Ned ทำคือรีบเข้าไปยัง Red Keep เพื่อจับตัว Aerys แต่กลับพบว่า Mad King นั้นถูก Jaime Lannister สังหารไปเรียบร้อย และ Jaime ก็ขึ้นไปนั่งรออยู่บน Iron Throne เสียเอง และทิ้งประโยคเด็ดว่า “ไม่ต้องกลัวหรอกสตาร์ค ฉันแค่อุ่นเก้าอี้ไว้ให้โรเบิร์ตเท่านั้นเอง แต่บอกไว้ก่อนนะว่ามันไม่ได้นั่งสบาย / Have no fear, Stark. I was only keep it warm for our friend Robert. It’s not a very comfortable seat, I afraid.”
Ned พร้อมพวกอีก 6 คน มุ่งหน้าไปยัง Tower of Joy สถานที่โปรดของ Rhaegar ที่ Ned เชื่อว่า Lyanna จะถูกซ่อนอยู่ที่นี่
Ned กับพวกบุกไปที่ Tower of Joy
เมื่อไปถึงก็ได้พบกับ Kingguards ถึง 3 คนคอยปกป้องหอคอยนี้อยู่ (จึงเป็นที่มาของทฤษฎี R + L = J เพราะคนอ่านทุกคนคิดว่าหอคอยนี้ต้องมีอะไรที่สำคัญกว่า King Aerys และ Prince Viserys ที่มี Kingsguard คอยปกป้องอยู่แค่ที่ละคน และในซีรี่ย์ก็เฉลยออกมาแล้วว่าในหอคอยนั้นมี Lyanna ที่กำลังจะคลอดทายาทคนใหม่ของ Targaryens ซึ่งก็คือ Jon นั่นเอง)
ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต่อสู้กัน จนผลออกมาว่าฝ่าย Ned ที่มีคนมากกว่าก็สามารถเอาชนะไปได้ แต่ก็เหลือผู้รอดชีวิตเพียงสองคนคือ Ned และ Holland Reed (พ่อของ Meera และ Jojen)
เมื่อเข้าไปในหอคอยก็ตามซีรี่ส์คือเจอ Lyanna ที่ฝากฝังลูกชายเอาไว้ Ned ตอบตกลงว่าจะปกป้องเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งในหนังสือ Ned จะนึกย้อนถึงคำสาบานตรงนี้บ่อยมากแต่ไม่ได้เฉลยออกมาว่าเป็นเรื่องอะไร
Ned & Lyanna & Jon
ซึ่งเมื่อ Ned พา Jon กลับไปยัง Winterfell ก็ได้บอกทุกคนว่า Jon เป็นลูกนอกสมรสของเค้า (Bastard) เพื่อปกป้องตัวตนที่แท้จริงของ Jon อย่าลืมว่า Robert กษัตริย์คนใหม่นั้นเป็นคู่หมั้นเก่าของ Lyanna และเกลียด Rhaegar เข้าไส้ ถ้ารู้ว่า Jon เป็นลูกของใครจะต้องไม่เก็บไว้แน่ Ned จึงจำเป็นต้องโกหกเพราะกลัวว่าเค้าจะไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้กับน้องสาวไว้ได้
แน่นอนว่าทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาทันที เพราะ Catelyn ไม่พอใจอย่างมากที่ Ned นอกใจไปมีอะไรกับคนอื่น แล้วยังเอาลูกกลับมาเยาะเย้ยเธอถึงบ้าน จุดนี้ Ned เองก็ตัดสินใจที่จะไม่บอกความจริงกับ Catelyn และแบกรับความจริงทุกอย่างไว้คนเดียวตลอด 10 กว่าปี ส่งผลให้ Jon เองก็ต้องเติบโตมาแบบที่ถูกแม่เลี้ยงเกลียดชังตลอดด้วยเช่นกัน
✋🏻 - Hand of the King ตำแหน่งที่นำมาสู่มหากาพย์แห่งความขัดแย้ง (เผือกร้อนที่ 4)
อันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนทราบกันอยู่แล้ว นั่นคือเมื่อ Jon Arryn เสียชีวิตลง Robert ก็มาขอร้องให้ Ned ไปช่วยบริหารงานแทน ตัว Ned เองไม่ได้อยากไปเพราะพ่อและพี่ชายของเค้าก็ไปที่ King’s Landing แล้วไม่เคยได้กลับมาอีกเลย
แต่สุดท้ายก็จำใจรับหน้าที่ตรงนี้ เพราะถ้าไม่รับ Robert ก็ขู่จะเอาคนอื่นที่ไม่โอเคมาแทน ถ้าจำไม่ผิดน่าจะขู่เป็น Jaime 😂😂
ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าคนที่มีเอี่ยวกับการตายของ Ned นั้นคือ Jaime ที่ทำให้ Ned ได้รับบาดเจ็บที่ขา และ Littlefinger ที่มาหักหลังในตอนท้ายสุด ซึ่งทั้งสองคนนี้คือคนที่เคยมีประวัติกับ Ned ทั้งคู่จากเหตุการณ์ก่อนๆที่เล่าไป
จะเห็นได้ว่า Ned ถูกพาเข้าไปอยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ตลอดเวลา เรื่องที่เป็นเรื่องทุกข์ใจที่สุดคือประเด็นของ Jon Snow ซึ่งทำให้เค้าเข้าไปอยู่ตรงกลางของความขัดแย้งของทั้ง 4 ตระกูลนั่นคือ Tully, Baratheon, Targaryen และ Stark
การที่เค้าตัดสินใจแบบในเนื้อเรื่องคือการรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับน้องสาวที่ตายไปแล้วเพื่อปกป้อง Jon แต่กลับต้องโกหกทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลก โดยเฉพาะ Catelyn ที่ต้องมีชีวิตคู่แบบที่เข้าใจไปเองว่าไม่สมบูรณ์ จนกระทั่งตายไปใน Season 3 ก็ยังไม่รู้ความจริงใดๆ
ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ Honorable Eddard Stark ไม่มีทางทำอย่างแน่นอน
และนี่คือชีวิตของตัวละครที่ผมชอบมากที่สุดอีกตัวนึงจากซีรี่ส์ Game of Thrones หรือ A Song of Ice and Fire ครับ เป็นตัวละครที่มีมิติมากๆเท่าที่ผมเคยเจอมาเลย แม้ Airtime จะน้อยเพราะตายเร็ว แต่ลึกๆแล้ว Impact ของเค้าเยอะมาก