8 เม.ย. 2021 เวลา 02:14 • ปรัชญา
นรกคือเราหรือคนอื่น?
หากเราคิดภาพนรกโลกันต์ ภาพคงไม่น่าคิดถึงสักเท่าไหร่ใช่มั้ยครับ เสียงร้องโหยหวน อากาศที่ร้อนระอุ หรือ บางศาสนา ความเชื่อของนรกนั้นก็ต่างกันไป แต่นรกที่ผมจะพูดถึงในครั้งนี้คือนรกที่อยู่ในใจเรา อาจจะร้อนรุ่มไม่เท่ากระทะทองแดง เจ็บปวดไม่เท่าปีนต้นงิ้ว แต่เป็นนรกทางจิตใจที่บางครั้งนั้นทำให้คุณร้อนรนไม่ต่างจากไฟ
ในตำนานเทพกรีกมีเรื่องเกี่ยวบุคคลๆ หนึ่งที่โดนสาปและผมคิดว่ามันจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเรื่องที่ผมพูดถึง
มีกษัตริย์องค์หนึ่งชื่อ Sisyphus ในตำนานเทพ Greek ที่โดนสาปให้แบกหินขึ้นไปบนยอดเขาแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาจะถึงยอด หินจะตกและกลิ้งลงมาใหม่ทำให้เขาต้องเริ่มใหม่แบบนี้ไปตลอดกาล ความผิดที่เขาก่อขึ้นก็คือการโกงความตายครับ เมื่อเขาตายเขาวางแผนกลอุบาย ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด เขาหลอกล่อเทพ และ ใช้กลอุบายเพื่อที่จะให้ตัวเองได้กลับไปอยู่ในโลกมนุษย์อีกครั้ง เขาทำสำเร็จถึงสองครั้งจนกระทั่ง Zeus ผู้ที่เป็นบิดาแห่งเทพทั้งปวงลงมือสาปเขาด้วยตัวเอง เพราะจะได้เป็นตัวอย่างว่ามนุษย์นั้นไม่ควรท้าทายพระเจ้า เรื่องนี้ผิวเผินแล้วอาจมองได้ว่าเป็นคำสอนว่าอย่าท้าทายกับพระเจ้าไม่งั้นจะโดนลงโทษ แต่เมื่อมองไปที่มองบทลงโทษที่เขาสาปให้ทำสิ่งที่ยากลำบากเดิมๆ ซ้ำๆ อย่างนี้ไปตลอด มันอาจจะทรมานยิ่งกว่าตกนรกอีกใช่มั้ยครับ? เพราะว่าเขาเองต้องเหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก อย่างไม่มีจุดสิ้นสุด หากตกนรกไปเลยอาจจะยังดีเสียกว่าเพราะสุดท้ายคุณรู้ว่ามันจะจบลงเมื่อคุณชดใช้ความผิดที่คุณทำได้หมดลงแล้ว
เมื่ออ่านเรื่องนี้แล้วผมก็คิดว่า สรุปแล้วคำว่านรกคือเราหรือผู้อื่น? มันน่าคิดเหมือนกันใช่มั้ยครับ? ว่าสถานการณ์ของ Sisyphus นั้นใครเป็นคนทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้? แน่นอนว่าตัวของเขาเองที่ทำความผิดจึงโดนลงโทษ แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เขาสามารถทำให้เขาอยู่กับบทลงโทษนี้ได้ต่างหากที่น่าพูดถึง
เทพซุสเป็นคนมอบนรกนี้ให้ซิซิฟัส หรือ ในมุมมองหนึ่งนรกเท่ากับคนอื่น หากเขาคิดเช่นนี้ ชีวิตต่อไปนี้ที่ไม่รื่นรมย์อยู่แล้วคงแย่หนักเข้าไปอีกใช่มั้ยครับ? เพราะระหว่างทางที่ยกหินขึ้นไปเขาคงอดไม่ได้ที่จะก่นด่าซุสในใจที่ต้องทำให้เขามาลำบากแบบนี้่ อยากจะด่าออกเสียงก็ไม่ได้ เพราะไม่แน่ว่าถ้าซุสได้ยินเขาอาจจะเพิ่มหินให้อีกก้อนนึงจะลำบากกว่าเดิม ชีวิตช่างเก็บกดยิ่งนัก ได้แแต่โทษนู่นโทษนี่ว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้จึงเกิดขึ้นกับตัวเอง
แต่ถ้าซิซิฟัสมีความเข้าใจว่านรกคือเราเอง เขาคงจะแบ่งเบาภาระทางจิตใจไปได้ไม่น้อย เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องภาระด้านร่างกาย มันย่อมต้องเหนื่อยเหงื่อไหลเป็นสายเลือดอยู่แล้วเพราะว่าต้องแบกหินไปทั้งชีวิต แต่ไม่ว่าร่างกายจะเหนื่อยล้าเพียงใด หากมีจิตใจที่แข็งแกร่งเราย่อมต้องผ่านมันไ้ปได้ เมื่อจิตใจแข็งแกร่งเขาก็อาจจะเข้าใจได้ว่าที่เขาทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้เพราะเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจหลีกหนีได้ และ เมื่อไม่อาจหนีพ้นการอยู่กับสถานการณ์นั้นอย่างสบายใจเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ถ้าเขาเข้าใจแบบนั้นระหว่างทางที่ยกหินลูกเดิม ขึ้นไปบนเส้นทางเดิมๆ ภูเขาลูกเดิมๆ เขาก็อาจจะแต่งกลอน ร้องเพลง ไปด้วย พอวันใหม่มาถึงก็ชมนกตัวใหม่ที่อาจจะไม่เคยบินมาทางนี้ ชมต้นไม้ต้นใหม่ที่เพิ่งขึ้นมา สบายใจยิ่ง
Hell is other people - Jean-Paul Sartre
คำพูดของของ ซาท นั้นก็คือ นรกคือผู้อื่น ในความเข้าใจของผมคือผู้อื่นมาทำให้คุณเหมือนตกนรก นั่นคือคุณเป็นเหยื่อ เช่น หลังจากวันหยุดยาวคุณมีความสุขมากเกินไปหน่อยทำให้น้ำหนักของคุณขึ้นมา 3 กิโลกรัม ไม่น่าเชื่อ 3 กิโลเพียงเท่านั้นกลับทำให้คุณดูอ้วนขึ้นจนเห็นได้ชัด เมื่อกลับไปทำงาน คำแรกที่เพื่อนที่งานทักว่า “โห หยุดยาวมาอ้วนขึ้นเยอะเลยนะ” เมื่อได้ยินแบบนั้นคุณก็รู้สึกเสียหน้าก่อนเป็นอันดับแรก และ ความเสียใจก็ตามมา เรื่องนี้ส่งผลให้คุณไม่มีความสุขอยากจะกินอะไรก็ไม่กล้ากิน ต้องอดอาหารเพื่อที่จะให้ผู้อื่นที่ไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตคุณมาบอกว่าคุณผอมลงเพื่อที่จะสบายใจขึ้น หารู้ไม่ การอดอาหารไม่ใช่วิธีที่ดีในการลดน้ำหนัก คุณกลับโหยกินเยอะกว่าเดิมน้ำหนักที่อยากลดก็ไม่ลงเสียแล้ว ไม่น่าเชื่อนรกที่ผู้อื่นสร้างจะส่งผลให้คุณขนาดนี้ หากเปลี่ยนมุมมองสักนิด คุณก็จะเข้าใจได้ว่าถึงคุณอ้วนขึ้นก็ไม่เห็นเป็นอะไรเพราะคุณเพิ่งใช้ชีวิตอย่างมีความสุข กินอะไรที่อยากจะกิน ถ้าเกิดว่าคุณเริ่มรู้สึกว่าเนื้อตัวอึดอัดขยับไปไหนไม่ค่อยถนัดคุณจึงเริ่มมีความคิดที่จะลดน้ำหนักเพื่อตัวเอง และ เมื่อคุณเข้าใจว่าน้ำหนักมันขึ้นได้ลงได้ คุณก็จะเริ่มศึกษาหาความรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะลดอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นี่คือการกระทำของคนที่ไม่ยอมให้ผุ้อื่นมาเป็นตรกของตน มันคือการเข้าใจตัวเองอย่างหนึ่ง ทุกคนมีสิ่งที่เรียกว่า insecurity ความไม่มั่นใจ หรือ ปมด้อย แต่ถ้าเราไม่ยอมให้มันเป็นปมด้อย และ พยายามหาคำตอบว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้จึงเกิดกับเรา หรือ หาวิธีที่จะอยู่กับปัญหาที่ไม่อาจหลีกหนีได้ เพราะคุณคงไม่อาจหนีเพื่อนร่วมงานคนนั้นได้เพราะยังคงต้องทำงานด้วยกัน แต่คุณหาวิธีอยู่กับคนแบบนั้นได้ ด้วยการฝึกจิตใจ และ จัดระบบความคิดของตัวเองได้
เราไม่ควรยอมให้ความคิดเห็นหรือการกระทำของผู้อื่นมาส่งผลกับชีวิตของเรามากนัก ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยนำคำพูดของผู้อื่นมาใส่ใจแล้ว พวกท่านคงไม่ได้มีความสุขมากนัก ผมจึงอยากขอเสนอวิธีใหม่คือ วิเคราะห์สักหน่อยว่าสิ่งที่เขาพูดกับเราเป็นการวิจารย์ในทางที่ดีหรือเป็นคำพูดขยะที่ไม่ควรรับฟัง เพราะบางครั้งมีการกระทำที่หวังดีอยู่ด้วย และ มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราที่เวลาโดนติเตียนแล้วจะมีอารมณ์โมโห แต่หากเราเป็นคนรับฟังและพร้อมแก้ไข เราก็จะพัฒนาตนให้ดีขึ้นได้
สามารถอ่านเรื่องเต็มๆ ของ Sisyphus ได้ที่ลิ้งค์นี้เลยครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา