9 เม.ย. 2021 เวลา 01:09 • ปรัชญา
แว่นตาแห่งความเกลียดชัง
หากเราใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความเกลียดชัง ชีวิตจะหาความสุขได้อย่างไร
“Don’t hold grudges”
“อย่าถือความขุ่นแค้นใจไว้”
ชีวิตไม่วายมีเรื่องให้กังวลใจ คนนู้นนี้มาทำให้เราเจ็บช้ำบ่อยครั้ง
หากทุกครั้งเราไม่เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง เราจะมีความสุขอย่างไร
หากเราประมาทกับความเกลียดชัง มันจะติดตัวกลายเป็นดั่งแว่น
แว่นที่ทำให้คุณมองเห็นความเกลียดชังง่ายขึ้น เมื่อคุณใช้มันมองสิ่งใด
คุณก็จะมองเห็นมันเป็นสิ่งแรก บดบังวิวที่สวยงามเสียหมด
เด็กคนหนึ่งเกลียดพ่อตัวเองมาก เพราะความไม่รู้ ไม่ว่าพ่อของเขาจะทำอะไรเขาก็ไม่ชอบ
พ่อของเขาจนไม่เหมือนพ่อเพื่อนคนอื่น เขารู้ได้เพราะเพื่อนที่โรงเรียนนำของเล่นหุ่นยนต์ตัวใหม่มา
แล้วเล่าให้ฟังว่าพ่อของเขาซื้อให้ เด็กคนนั้นกลับบ้านไปจึงขอพ่อบ้าง พ่อกลับบอกว่ารอก่อนนะลูก
บางครั้งต้องรอจนหุ่นยนต์เลิกฮิต เพื่อนไปเล่นของเล่นอย่างอื่นกันหมดแล้ว พ่อจึงซื้อมาให้
ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่เข้าใจสถานการณ์ของผู้ใหญ่รู้แต่เพียงว่าพ่อของตัวเองไม่ยอมซื้อของเล่นให้
จึงเกลียดพ่อตัวเอง กลับบ้านมากลิ่นเหล้าก็เหม็นหึ่ง กลิ่นบุหรี่ก็เหม็นคลุ้ง แล้วยังจะมากอดมาหอม
ลูกรักสวมแว่นตาแห่งความเกลียดชังมองพ่อในแง่ลบตลอดเวลา แต่พ่อรักลูกยิ่งสิ่งใดยังคงใช้ชีวิตเพื่อลูกน้อย
เวลาผ่านไปจนลูกเติบใหญ่จึงเริ่มเข้าใจว่าค่าใช้จ่ายในบ้านเยอะแยะเพียงใดไม่สามารถนำเงินมาฟุ่มเฟือยได้
เหล้าหรือบุหรี่เขาก็ไม่ชอบ แต่บางครั้งเขาต้องไปกินเลี้ยงกับที่ทำงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ให้งานก้าวหน้า
ตนนึกเสียใจแว่นตาแห่งความเกลียดชังที่ใส่ไว้ พอถอดออกก็แสบตากับความจริงน้ำตาไหลนอง
แต่ก็สายไปเสียแล้วเพราะพ่อที่เขาจากไปในที่ๆ แสนไกล ไม่อาจเอื้อมถึง
บางครั้งคนที่โกรธแค้นเขานอนหลับกินอิ่มสบายดี กลับเป็นเราที่ไม่มีความสุข
สิ่งนี้ต้องฝึกฝน ฝึกที่จะไม่โกรธ ไม่เกลียด
พูดนั้นง่ายดาย แต่ลงมือทำเองนั้นแสนยาก แต่สิ่งใดได้มากง่ายๆ นั้น ย่อมไม่จีรัง
หากแต่ว่าเราต้องสู้ฝ่าฝันเพื่อได้มา ความสุขของเราก็เช่นกัน หากไม่ลงมือทำจะมีความสุขได้อย่างไร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา