8 เม.ย. 2021 เวลา 16:10 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⛔️[MUST READ]⛔️ Grab เตรียมเข้าตลาดสหรัฐผ่าน SPAC ด้วยมูลค่าบริษัทเกินกว่า 1 ล้านล้านบาท ! Grab น่ะเรารู้จักกันดี แต่ SPAC น่ะมันคืออะไรหว่า ? และมันคือ "วิกฤต" หรือ "โอกาส" กันแน่ ?!?
1
วันนี้ง่วงๆหน่อย แอดจึงจะขอลองมาอัพเดทแบบภาษาบ้านๆแบบกันเองบ้าง ใครชอบเวอร์ชั่นนี้หรือแบบธรรมดามากกว่ากันก็ลองคอมเม้นท์เข้ามาได้ครับ
📌 ตามที่ทางเพจได้เคยอัพเดทไปเลยนะครับว่า Grab บริษัท Start up สัญชาติสิงคโปร์กำลังจะเตรียม IPO เข้าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาแล้วในเร็วๆนี้ แต่วันนี้มีเรื่องที่ #น่าสนใจมาก กว่านั้นจึงอยากจะมาอัพเดทให้ทราบกันว่า
3
1️⃣ มูลค่าบริษัทของ Grab โดนตีอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 1.1 ล้านล้านบาท !
3
Grab บริษัทที่เรารู้จักกันอย่างดี โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่กรุงเทพกำลังกลับมา Lock Down อีกครั้ง และ Grab กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในการสั่งอาหารเข้ามาทานที่บ้าน วันนี้แอดได้สั่งซื้อไป 3 รายการก็โดนยกเลิกซะเละไปหมด ชี้ให้เห็นเลยว่าทำไมมูลค่าบริษัท Grab ถึงโดนตีไว้สูงขนาดนี้เพราะคนกำลังชินกับความสบายในการสั่งอาหารและเรียกรถมารับกันแล้ว
4
2️⃣ ถามว่ามูลค่าบริษัทจะโตไปมากกว่านี้ไหม ?
ใครอยากลองลงทุนดูก็เชิญนะครับ ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าทาง Grab คงขยายธุรกิจได้อีกเยอะ แต่ส่วนตัวแล้วแอดคงไม่เสียเวลาไปเสี่ยงลงทุนด้วย เพราะถึงแม้ธุรกิจของ Grab จะถึงว่าเป็นธุรกิจใหม่แต่จริงๆแล้วเร็วๆนี้กำลังอาจจะโดน Disrupt ได้เช่นเดียวกัน
Grab เติบโตขึ้นมาในสมัยที่การค้ากำลังแข่งกันด้วย Platform แต่หลังจาก 2-3 ปีนี้ เมื่อไหร่ที่ทาง Tesla สามารถสร้างระบบขับรถอัตโนมัติออกมาได้ ภาคขนส่งและโดยสารของโลกเราก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ธุรกิจ Flatform กำลังจะต้องหันสู้กันโดยใช้เทคโนโลยี AI แทน มากกว่าแค่การใช้ Software มาชนแล้ว
3
ถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน แต่เชื่อว่ายุคหลังจากการมีระบบ Full Self Driving หรือระบบขับรถอัตโนมัตินี้ออกมาจริงๆ "อนาคตของ Grab ก็กำลังจะเปลี่ยนไป" ทางบริษัทคงเข้าใจดีจึงรีบออกมาขายหุ้นเข้าตลาดนั้นเอง
3
3️⃣ เรารู้กันดีว่า Grab จะเข้าตลาด แต่การเข้าครั้งนี้คือผ่าน SPAC ไม่ใช่ IPO !
4
แล้ว SPAC มันคืออะไรหว่า ? ได้ยินนักลงทุนในสหรัฐพูดถึงบ่อยๆว่ามันเป็นการลงทุนที่กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ ? ได้ยิน KP อธิบายมาทีสองทีละแต่ยังไม่เข้าใจ ไปอ่านจากที่อื่นยิ่งงงใหญ่ ?
2
4️⃣ วันนี้ KP จะมาอธิบาย SPAC แบบง่วงๆให้เข้าใจชัดเจนกันไปเลย
2
"SPAC (Special Purpose Acquisition Company) คือบริษัทที่สร้างขึ้นมาเพื่อระดมเงินทุนไปซื้อบริษัทอื่น จะบอกว่า SPAC เป็นเพียงบริษัท ‘เปลือก’ ก็ได้ เพราะภายในบริษัทนั้นไม่ได้ทำกิจการอะไรเหมือนบริษัททั่วไป ไม่ได้ขายสินค้า ขายบริการ หรือขายอะไรทั้งสิ้น สินทรัพย์เพียงอย่างเดียวของ SPAC ก็คือเงินระดมทุนที่ได้จากการ IPO ตัวมันเองเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วราคา IPO จะอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ต่อหุ้น...." 😴... หาว...
6
#ล้อเล่นครับ.. ! นั้นเป็นข้อความที่ยืมมาจาก The Standard ใครอ่านด้านบนแล้วยังไม่เข้าใจหรือยิ่งง่วงขึ้น ทางเราจะมาอธิบายให้ฟังกันใหม่แบบภาษาบ้านๆ
1
5️⃣ โดยปกติเวลาบริษัทจะเข้าตลาดหุ้นเขาจะทำการ IPO กันใช่ไหมครับ ? แต่ระบบและขั้นตอนในการทำ IPO นั้นมันซับซ้อนและใช้เวลามาก ! ไม่ว่าจะเป็นการทำเอกสาร การตรวจสอบธุรกิจ การทำบัญชีย้อนหลัง การจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน อะไรก็ไม่รู้ต่างๆมากมาย
2
ทำให้นักลงทุนหัวแหลมในสหรัฐกำลังใช้ SPAC นี้มาเป็น #ทางลัดในการเข้าตลาดหุ้น
โดยนักลงทุนหรือกลุ่มคนกลุ่มนึงจะตั้งบริษัทที่เป็นบริษัทปล่าวๆขึ้นมาและนำบริษัทนี้เข้าไปจดทะเบียนในตลาด เนื่องจากบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ว่างปล่าวจึงเข้าไปจดทะเบียนในตลาดได้อย่างง่ายดาย เพราะว่ายังไม่มีธุรกิจอะไรซับซ้อนให้ตรวจสอบ ก็เลยผ่านได้ฉลุย
5
6️⃣ แต่คำถามต่อมาคือ... อ้าว ? แล้วถ้ามันเป็นบริษัทเปล่าๆใครจะมาซื้อหว่า ?!?!
แน่นอนถ้าเป็นแอดไปตั้งบริษัทเปล่าๆขึ้นมาคงไม่มีใครซื้อแน่ๆ 🤣 ... แต่บุคคลที่ไปตั้งบริษัท SPAC เหล่านี้เขาใช่คนธรรมดาที่ไหน ส่วนมากจะเป็นเหล่านักลงทุนชื่อดังที่มีความน่าเชื่อถืออย่าง Chamath Palihapitiya, Bill Ackman, Richard Branson อะไรแบบนี้
3
โดยนักลงทุนที่น่าเชื่อถือเหล่านี้จะเรียกตัวเองว่าเป็น #สปอนเซอร์ (sponsor) ของ SPAC และพวกเขาจะเป็นคนสัญญากับนักลงทุนที่จะมาซื้อบริษัทเปล่าๆของเขาโดยการกล่าวว่า
1
"เฮ้ย ! ไม่ต้องห่วงนะ เชื่ออั๋วเถอะ เอาเงินลื้อมาซื้อบริษัทอั๋วไว้ก่อนได้เลย ! เดี๋ยวถึงเวลาอั๋วจะไปหาซื้อบริษัทดีๆ อนาคตไกลๆเข้ามาเป็นธุรกิจหลัดของบริษัทเรา และเมื่อถึงเวลานั้นราคาหุ้นบริษัทเปล่าของเรานี้จะพุ่งขึ้นแน่นอน เพราะฉะนั้นรีบมาจับจองไว้ก่อนได้เลย"
1
7️⃣ นี่คือสิ่งที่สปอนเซอร์เหล่านี้จะกล่าวไว้กับนักลงทุนล่วงหน้าไว้ก่อน ทำให้เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าราคาหุ้นของบริษัทปล่าวๆอย่าง SPAC นี้ จะขยับแรงๆ ได้เป็น 2 จังหวะ
1
7.1) ราคา SPAC #ก่อน ที่จะประกาศว่าจะเข้าไปซื้อธุรกิจบริษัทใด
ช่วงนี้ราคาหุ้น SPAC จะขยับตามชื่อเสียงของนักลงทุนผู้เป็นสปอนเซอร์เลย ใครเก่งกว่า ใครมีผลงานในอดีตที่ดีกว่า ผู้คนก็พร้อมที่จะจ่ายเงินแพงๆให้กับ SPAC นี้ เพราะเชื่อว่าจะได้เป็นเจ้าของธุรกิจที่ดีในอนาคตแน่ๆ
7.2) ราคา SPAC #หลัง การประกาศว่าจะเข้าไปซื้อธุรกิจบริษัทใดแล้ว
3
เมื่อไหร่ก็ตามที่สปอนเซอร์รายงานว่าจะเข้าไปซื้อบริษัทอะไร (อย่างในเคสนี้สปอนเซอร์รายนี้เลือกที่จะไปซื้อหุ้น Grab) ราคาของหุ้นจะเริ่มขึ้นลงตามสภาพของธุรกิจนั้นจริงๆแล้ว
1
เพราะตอนนี้นักลงทุนเริ่มมีข้อมูลของบริษัทให้ออกมาวิเคราะห์ได้ ในขณะที่ก่อนหน้านั้นจะยังไม่มีข้อมูลอะไรเลย ซื้อตามความเชื่อเพียงอย่างเดียว ความเชื่อในฝีมือของสปอนเซอร์ล้วนๆ (ความเชื่อที่อาจที่ทำให้หลายคนรวยหรือจนมามากมายแล้ว)
8
8️⃣ เฮ้ยแอด ! แบบนี้ระบบนี้ก็ดีสิ ! มันทำให้เราเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทที่ดีได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้ามาซื้อหุ้นตอนมาควบรวมกว่าตลาดแล้วราคาจะพุ่งขึ้นไปหลายเท่าแล้วใช่ไหม ?
2
"คบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล"
1
ใช่แล้วครับ นี่เป็นคำอธิบาย SPAC ได้ดีที่สุด ถ้าคุณได้สปอนเซอร์ที่ดีพวกเขาจะพาคุณไปหาบริษัทที่ดีแน่ๆ และถ้าคุณลงทุนตั้งแต่เนิ่นๆและเขาหาบริษัทที่ดีมาได้จริงๆ คุณจะได้กำไรตั้งแต่การเข้าซื้อ SPAC ตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่ามาซื้อทีหลังแน่ๆ
#แต่ ! ถ้าคุณได้สปอนเซอร์ที่ไม่ดีผลอาจจะตรงกันข้ามกันได้ เราต้องอย่าลืมว่าสปอนเซอร์จะหักเงินค่าธรรมเนียมจากเราไป 20%
1
เช่นถ้าเราซื้อหุ้น SPAC 100 บาท ทางบริษัท SPAC จะนำเงินของเราไปเป็นทุนในการซื้อหุ้น Grab แค่ 80 บาท อีก 20 บาททางสปอนเซอร์จะเก็บเข้ากระเป๋าตัวเองไป และเราไม่รู้เลยว่าจะมีสปอนเซอร์บางคนที่อาจจะหาบริษัทชุ่ยๆมาให้เรา #เพียงเพราะอยากกินเงินค่าธรรมเรียมหรือไม่ ?!?!
9️⃣ เฮ้ย ! เก็บ 20% แบบนี้สปอนเซอร์กินง่ายๆเลยหรือป่าว ?!?! ทำไมเอาเปรียบแบบนี้
1
ถ้ามองในมุมนั้นก็ใช่ครับ สปอนเซอร์กินเงินง่ายๆจริงๆ 20% แต่อย่างไรก็ตามมันก็พอมีข้อดีอยู่บ้างถ้าคุณได้สปอนเซอร์ที่ดี
1
สปอนเซอร์ที่ดีจะสามารถหาหุ้นที่มีมูลค่าเติบโตเกิน +20% ได้ง่ายๆอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหากเราเชื่อในตัวสปอนเซอร์สุดท้ายแล้วเงินที่เสียไปก็จะคุ้มค่า เพราะเราจะไม่มีโอกาสซื้อหุ้นดีๆเหล่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆถ้าไม่ผ่านการเจรจาและโน้มน้าวเจ้าของบริษัทจากพวกเขา
2
อีกทั้งก่อนหน้าที่ SPAC จะดังขึ้นมา หากเราต้องการซื้อบริษัทดีๆแบบนี้ก่อนพวกเขาเข้าตลาดเราก็ต้องซื้อผ่าน Privae Equity ซึ่งบางทีพวกเขา Charge เงินค่าะรรมเนียมเกิน 30% เสียอีก !
1
เรื่อง Fees 20% ของ SPAC จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับแอด
🔟 แต่สิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับแอดก็คือหลังๆนี้ SPAC #เริ่มเลอะเทอะใหญ่ละ !!
เนื่องจาก SPAC ในเบื้องต้นนั้นราคาจะวันกันที่ความเชื่อมั่นในตัวสปอนเซอร์อย่างเดียวเท่านั้น ทำให้สปอนเซอร์หลายรายเริ่มทำการดึงตัวบุคคลดังเหล่าเซเลบเข้ามาร่วมวงด้วย เพื่อพยายามปั่นความนิยม
นักกีฬาชื่อดังอย่าง Serena William, Shaquille O’Neal และ Stephen Curry ต่างก็โดนพยายามดึงให้มาช่วยโปรโมท SPAC ในช่วงหลังๆนี้
2
ทำให้แอดเริ่มมีความรู้สึกว่าสปอนเซอร์หลายรายเริ่มไม่ได้ให้น้ำหนักตัวธุรกิจจริงๆ แต่พยายามดึงเงินนักลงทุนรุ่มใหม่มาด้วยคะแนนความนิยมและเก็บ Fees 20% และหายตัวไป
1
1️⃣1️⃣ #จุดที่อันตรายที่สุด ของ SPAC !!!
เนื่องจากบริษัทที่ SPAC เข้าไปซื้อหุ้น IPO อีกทีมจะไม่ต้องผ่านกรรมวิธีในการเข้าตลาดหุ้นแบบ IPO ทำให้การตรวจสอบตัวธุรกิจนั้นอาจหละหลวมกว่า และอย่างที่บอกไปว่ามันเป็น #ทางลัดในการเข้าตลาดหุ้น
ทำให้เราเห็นการต้มตุ๋นจากสปอนเซอร์ SPAC มาหลายครั้งแล้วที่เอาบริษัทห่วยๆเข้ามาหลอกนักลงทุน โดยเคสที่ดังที่สุดที่ทางเพจเขียนไปคือเรื่องของบริษัท Nikola บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำท่าว่าจะมาแข่งกับ Tesla (ถุย... แบบสุภาพ) จนกลายเป็นการโกหกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Wall Street ทีเดียว
4
ใครสนใจเรื่องนี้และถ้าแอดยังไม่หลับจะมาแปะลิ้งบทความก่อนไว้ให้นะครับ มีคนแชร์กันไปหลายพันคนทีเดียว ต้องขอบคุณทุกคนมากๆครับ
และอีกจุดนึงที่แอดต้องบอกคือส่วนมากบริษัท SPAC จะเป็นบริษัทที่ยังไม่มีกำไรในเวลานี้แต่เป็นเทรนด์ธุรกิจที่ดูดี ทำให้หลายครัั้งสปอนเซอร์อาจจะมาพยายามปั่นและขายอนาคตได้ เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อ SPAC เราควรต้องศึกษาสปอนเซอร์ของเราและตัวธุรกิจให้ดี (ถ้าประกาศออกมาแล้ว)
5
📊 เขียนไปเขียนมาเริ่มยาวละ... ขอ #สรุป เลยละกัน
1
ใครอ่านบทความนี้แล้วเข้าใจ SPAC อย่างชัดเจน ทางแอดขอความกรุณาช่วบแชร์ให้เพื่อนๆของเรากันต่อด้วยนะครับ 🙏 แอดจะขอบคุณมาก หรือคอมเมนท์มาได้เลยว่าชอบให้เขียนแนวนี้ไหม
❤️ #ทันโลกกับTraderKP
โฆษณา