9 เม.ย. 2021 เวลา 01:45 • ความคิดเห็น
ข้าวไทยทำไมแพ้เวียดนาม
เมื่อก่อนเคยคิดว่าเมืองไทยเรามีการส่งออกข้าวมากเรียกได้ว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเอเชียเลยที่เดียว แต่เดี๋ยวนี้ชาวนาปลูกข้าวน้อยลง ข้าวหอมมะลิที่เคยดัง ก็ไม่เป็นที่นิยมเหมือนเมื่อก่อน ข้าวไทยเรากำลังจะไปไม่ถึงฝัน และอีกไม่นานที่จะตามมาก็คือทุเรียนเมืองไทย ที่ตอนนี้ใครๆ ก็ปลูกทุเรียนได้ แต่ได้แต่ปริมาณขาดคุณภาพ
ปี2563 ที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกข้าวได้เพียง 5.72 ล้านตัน เรียกว่าต่ำสุดในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว อันดับหนึ่งคืออินเดีย 13.64 ล้านตัน อันดับสองคือเวียดนาม 5.96 ล้านตัน
1
ย้อนกลับไปเมื่อก่อนที่บ้านผมก็มีนา แต่ก็ไม่ได้ทำการปลูกข้าวเอง เพียงแต่ให้คนอื่นปลูก ขอไม่เรียกว่าจ้างเขาปลูกก็แล้วกัน เพราะว่าที่บ้านไม่ได้รับเงินค่าเช่าที่ แต่เราเรียกเป็นข้าวสาร แบบว่า ปลูกข้าวได้สิบกระสอบ ทางผมจะเอาไว้กระสอบหนึ่ง มีข้าวเอาไว้เก็บไว้ในยุ้งฉางสำหรับเอาไว้ทุงกินเท่านั้น
หลายปีมานี้รับรู้ได้ถึงผลผลิตที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะข้าวไม่ได้มากเหมือนเคย แถมบางครั้งคนที่ทำนาในที่นา ยังมาขอลดส่วนแบ่งข้าว แต่ละปีก็มากขึ้นเรื่อยๆ บอกตามตรงว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจเท่าไรนัก เพราะการทำนาสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน
การทำนาสมัยก่อนใช้ความสามัคคีกัน หรือเรียกว่าลงแขก เพื่อนช่วยเพื่อน บ้านใครมีที่นา ปลูกข้าวออกรวงได้แล้ว ก็มาช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าว แต่ตอนนี้นิยมใช้รถเกี่ยวข้าวมากกว่า เพราะรวดเร็วกว่า ไม่ต้องจ้างคนมาเกี่ยวข้าวใช้รถคันเดียวก็เกี่ยวข้าวได้ทั้งหมด ไม่ต้องเสียเวลา แต่ว่ามันก็มีข้อเสีย
รถเกี่ยวข้าวมันไม่ได้เลือกได้ว่าอันไหนข้าวอันไหนหญ้า มันปั้นเข้ามาที่เครื่องหมด เพราะฉะนั้น ผลผลิตที่ได้ จะมีทั้งเมล็ดข้าวปนมากับหญ้า ทำให้ต้องเสียเวลามาแยกในภายหลัง ชาวนารุ่นใหม่สมัยนี้ก็ไม่ดูแล ปล่อยให้ข้าวปลูกมาปนกับหญ้า อาจเพราะเป็นนาหว่านไม่ได้เป็นนาดำ ที่อาศัยดำนา ปลูกข้าวที่ละต้น แยกกัน ทำให้ข้าวเจริญเติบไตได้ดี ไม่แย่งอาหารกันเอง เมื่อมีวัชพืชขึ้นก็ดูแลง่าย เพราะมันก็จะขึ้นห่างกับต้นข้าว ถอนออกหรือตัดออกได้ง่าย แต่ถ้าเป็นนาหว่าน ต้นข้าวก็ขึ้นไม่เป็นระเบียบการทำการถอนแยกหญ้ากับต้นข้าวทำได้อยาก (อันที่จริงข้าวก็เป็นพืชตะกูลหญ้าประเภทหนึ่ง เพียงแต่มันให้ผลผลิตเป็นเมล็ดข้าวเท่านั้นเอง)
5
ชาวนาสมัยนี้ก็ไม่รอให้รวงข้าวแห้ง เหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อน จำได้ว่าตอนผมเด็กๆ ยังเห็นชาวนาเอาข้าวมาฟาดกับกระดานที่ด้านล่างปูด้วยผ้าใบสีฟ้าๆ ได้อยู่ เมื่อฟาดเสร็จแล้วก็ได้เมล็ดข้าวและซังข้าว แยกกัน ซังข้าวก็เอาไปให้วัวให้ควายกิน (ตอนนี้แต่ละบ้านยังเลี้ยงควายอยู่นะ แม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้เอาไว้ไถน่า เพราะใช้ควายเหล็ก หรือรถไถนาเดินตามกันหมดแล้ว แต่ก็ยังเอาไว้ลากจูงอยู่ ) สมัยนี้ใช้เครื่อง ก็จะได้เป็นฟางละเอียดพ่นออกมา ก็เอาเป็นอาหารสัตว์ได้อยู่ แต่ว่ามันไม่เรียบร้อย ขนก็ยาก คนส่วนใหญ่มักจะเผาพร้อมกับตอซักข้าวที่เหลือในแปลงนา
1
เมื่อข้าวไม่แห้ง จะเก็บเอาไว้นานไม่ได้ ข้าวก็จะงอก ดังนี้นต้องเอาข้าวไปตาก ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขารอข้าวแห้ง(เพราะถ้าข้าวไม่แห้งพาดกับกระดาน เมล็ดข้าวจะไม่ค่อยออก) ข้าวก็เก็บไว้ในยุ้งข้าวได้นาน ไม่ต้องมาตาก แต่สมัยนี้ใช้เครื่องเกี่ยวข้าวรอไม่ได้ เพราะรอบไม่พอ รถเกี่ยวข้าวต้องไปหลายที่ ถ้าไม่เกี่ยวข้าวตอนนี้รถก็ไม่ได้คิว เขาก็จะไม่มา ทำให้ไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต
2
เมื่อต้องตากข้าว ก็ต้องมีที่ตากข้าว แล้วจะเอาพื้นที่ไหนตากข้าว เพราะลานตากข้าวก็มีน้อย จะมาตากข้าวในบ้านพื้นที่ก็ไม่พอ ตากข้าวที่วัด ก็มีคนจับจองพื้นที่แล้ว การตากข้าวจะมากองเอาไว้ก็ไม่ได้ เพราะข้าวแห้งช้า หรือบางทีไม่แห้ง โรงสีก็ไม่รับซื้อ หรือซื้อก็ให้ราคาไม่ดี เลยเป็นปัญหา ต้องหาลานตาก นึกได้ก็เอามาตากหน้าบ้านตรง ถนน งานนี้ก็เดือดร้อน คนใช้รถใช้ถนนอีก
เพราะจริงๆ ก็เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เอาข้าวมาตากกีดขวางทางจราจรได้อย่างไร ชาวนาพวกนี้ก็เรียกร้องแต่ความเห็นใจบอกว่า ปีนึงตากครั้งเดียว ไม่ตากก็ไม่มีกิน พอเขาขับรถทับข้าว ข้าวแตกเสียหายก็มาโทษกัน คนขับรถใช้ถนนก็เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากข้าวทำให้ถนนลื่น จะเอาผิดใคร ก็คนที่มาตากนะสิ
ต้นเหตุของปัญหาก็คือการจัดการเรื่องการทำนา ปลูกข้าวที่ไม่ดี สมัยก่อนเรื่องแบบนี้ไม่เห็นมี อยากมากก็เกิดน้ำท่วมทำให้ต้องเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด ถึงเอาข้าวมาตากกัน ตอนนี้เรียกได้ว่าใครปลูกข้าว ทุกคนต้องหาที่ตากข้าว
ปัญหาเรื่องที่ตากข้าวทำยังไงก็ไม่หมด มันเป็นปัญหาปลายเหตุ พรุ่งนี้ เดือนหน้าหรือ ปีหน้า ปัญหานี้ก็มาอีก จะบอกว่าจะหาลานตากให้ชาวนา ขอโทษที จะหาลานตากให้ชาวนาได้ที่ไหน เพราะคนปลูกเยอะ ข้าวเกวียนหนึ่งต้องหาที่ตากขนาดไหน แล้วชาวนาปลูกตั้งหลายไร่ แถมปลูกกันทั้งหมดหมู่บ้าน ลานวัดไม่พอหรอกครับ ลานโรงเรียนก็คงไม่ได้ เด็กๆ ต้องใช้ทำกิจกรรม
1
แนวทางแก้ไขคือกลับไปปลูกข้าวแบบนาดำ เหมือนที่เคยทำ และเกี่ยวข้าวแบบที่เราเกี่ยว แต่ถ้าทำไม่ได้ แนะนำ ให้ใช้เครื่องจักร แบบประเทศญี่ปุ่น คือใช้เครื่องปลูกข้าว เพราะว่ามันเท่มาก คือเราสามารถใช้เจ้าเครื่องปลูกข้าวนี้ดำนา (ปลูกข้าวที่ละต้น ) แต่นาเราต้องเป็นพื้นที่แปลงขนาดใหญ่หน่อยนะ แล้วเราจะได้ข้าวที่โตเร็วและอยู่ห่างกัน และเราก็ดูแลเกี่ยวกับวัชพืชได้ง่าย คราวนี้ใช้เครื่องเกี่ยวข้าวก็ไม่ต้องกลัวมีหญ้ามาปน ก็ได้ข้าวเต็มที่ เต็มเมล็ด นอกจากนี้ต้องอย่างใจร้อน ให้รอข้าวสุกงอม แห้ง จะได้ไม่ต้องตากอีก เกี่ยวแล้วเก็บเข้ายุ้งข้าวได้เลย จะใช้เครื่องเกี่ยวข้าวก็ไม่มีปัญหา
1
เทคโนโลยีช่วยได้ทางแก้พอมี อยู่ที่ทางราชการจะสนับสนุนไหม ช่วยเหลือจริงจังไหม ไม่งั้นข้าวเราก็ส่งออกแพ้เวียดนาม ข้าวหอมมะลิไทยไม่ได้เกิด และสุดท้าย ข้าวไทยก็หายไปจากตลาด แล้วเราจะบอกว่าชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติได้ยังไง นอกจากจะแพ้เวียดนาม แพ้ข้าวจากอินเดีย แล้วเราจะมองหน้าบรรพบุรุษที่สร้างชื่อเสียงไว้อย่างไรดี
1
โฆษณา