9 เม.ย. 2021 เวลา 10:36 • ครอบครัว & เด็ก
เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างไรให้สำเร็จ Journey สายใยความอาทรจากแม่สู่ลูก
ให้นมแม่ครั้งแรก
คุณผู้อ่านที่รัก
จากบทความที่แล้วที่เขียนเล่าถึงเรื่องลูกวัยรุ่น วันนี้ก็เลยติดพันอยากเล่าเรื่อง Journey ระหว่างฉันกับลูกอีก
โดยปกติแล้วคนท้องใกล้คลอด เขาจะต้องเตรียมตัว เตรียมข้าวของเครื่องใช้สำหรับลูกน้อยเกิดใหม่ใช่ไหมคะ ? อาจจะเป็นสิ่งของประเภท ผ้าอ้อม เครื่องนอน เปล ชุดขวดนม ก็แล้วแต่จะนึกออกกัน
สำหรับฉัน นอกจากผ้าอ้อมที่เป็นผ้าสาลูเนื้อนุ่ม (ไม่ใช่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป) แล้ว ยังมีอีก 2 สิ่งที่ฉันได้เตรียมไว้คือ ถุงเก็บน้ำนมและตู้เย็นแบบฟรีสเซอร์แช่แข็ง
ด้วยความตั้งใจว่าจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ระหว่างท้องก็ศึกษาหาความรู้มาบ้าง และคิดว่า นอกจากลูกจะดูดนมจากเต้าแล้ว เราคงจะต้องบีบน้ำนมใส่ถุงเก็บน้ำนมและจัดเก็บนมในช่องแช่แข็ง เอาไว้สำรองในยามจำเป็นที่แม่ไม่สามารถให้นมลูกได้ และจะต้องใช้ตู้เย็นแบบแช่แข็ง เพื่อที่จะสามารถรักษาคุณภาพน้ำนมได้ยาวนานขึ้น
แต่ผลที่เกิดขึ้นก็คือ ไม่เคยได้ใช้ ทั้งถุง และ ตู้เย็น !!
ถุงเก็บนมแม่
เด็กชายมัชชี่ (ชื่อน่ารักมั้ยคะ ☺️) เป็นเด็กดูดนมจากเต้า ชอบดูด ขยันดูด และกลายเป็นเด็กติดเต้าไปในที่สุด จนมีชื่อเล่นที่เราเรียกกันในครอบครัวว่า ซักกิ้ง (Sucking) แปลว่า นักดูด
1
ตัวฉันเองก็กลายเป็นแม่ติดลูก ติดให้นมลูก มีความสุขทุกครั้งที่ลูกดูดนมจากเต้าหนึ่ง มือกุมอีกเต้าหนึ่งไว้ ประมาณว่า นี่อาหารของข้าใครอย่ามาแตะ ส่วนเท้าเล็ก ๆ ก็ยกขึ้นมาเขี่ยหน้าแม่เล่น (หลัง ๆ เริ่มแรงขึ้นกลายจนเป็นถีบ โอ้ย !)
แต่กว่าจะมีภาพแบบนี้ขึ้นมาได้มันก็ไม่ง่ายนะเออ ก็เกือบจะไม่สำเร็จนั่นแหละ เพราะอะไรไปดูกัน
ในตอนแรก ทันทีที่คลอดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ฉันวาดภาพจินตนาการไปตามที่เคยอ่านพบในนิตยสารเกี่ยวกับแม่และเด็ก ว่าคุณหมอจะส่งตัวเด็กน้อยมาสู่อ้อมกอดและดูดนมฉัน ภาพมิวสิควิดีโอเพลงอิ่มอุ่นของพี่ศุ บุญเลี้ยง โดยมีฉันและลูกเป็นผู้แสดงลอยขึ้นมาในหัวเป็นภาพชัด
1
แต่ความจริงกับภาพมิวสิควิดีโอมันหนังคนละม้วนกันโดยสิ้นเชิงเลยคุณเอ๊ย (จินตนาการภาพลูกโป่งฝันถูกยิงแตกดังโป๊ะ)
ตัดภาพมาที่ความจริง ลูกโดนแยกตัวออกไปในทันทีที่คลอด และถูกจับยัดนมขวดให้ในทันที เหตุผลที่พยาบาลบอกมาก็คือ เพื่อคุณแม่จะได้พักผ่อน ตอนนั้นก็งง ๆ พูดอะไรไม่ออก ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า "เธอถามฉันบ้างม้ายยยยย...ฉันไม่ได้เหนื่อยอะไรซะหน่อย"
1
ฝันหวานสลายไปกลางอากาศ กลายเป็นฝันสยองแทน ตลอด 3 วันที่อยู่โรงพยาบาล ฉันได้เจอลูก 3 ครั้งต่อวัน ในสภาพอิ่มแปร้มาแล้ว และเมื่อมาถึงลูกก็ไม่ยอมดูดนม เอาแต่หลับ พยาบาลก็หัวเราะคริ ๆ บอกว่า "แหม...ขี้เซาจริงนะพ่อหนุ่มน้อย" เออ...จะดูดได้ยังไง อิ่มแปร้มาซะขนาดนั้น เฮ้อ ! (นึกในใจพร้อมแบะปากมองบน)
พอถึงวันที่ได้กลับบ้าน ปรากฏว่า แม่ไม่มีน้ำนมน่ะสิคะ และลูกก็ดูดไม่เป็น แต่ยังโชคดีอยู่ที่บ้านไม่มีอุปกรณ์เสริมใด ๆ (หมายถึงขวดนมและนมผง) เฮ้ยย ยังไงนะ ??
จริง ๆ ค่ะต้องบอกว่าโชคดีมากที่ฉันไม่ได้เตรียมอุปกรณ์เสริมใด ๆ เอาไว้เลย มีแค่ 2 เต้าเท่านั้น ลูกก็ร้องไปดูดนมไป หลับได้แป๊บ ๆ เดี๋ยวก็ตื่นขึ้นมาร้องแว้ก ๆ อีก ก็จับเต้ายัดปากกันไปอีก เป็นแบบนี้อยู่ 3 วัน จนเพื่อนบ้านกุมขมับว่า จะต้องฟังไอ้เด็กนี่แหกปากไปทั้งปีกระมัง
แต่ไม่หรอก พอเข้าวันที่ 4 เท่านั้นแหละ (เท่ากับลูกมีอายุ 7 วัน) ความพยายามของเราก็เป็นผล น้ำนมแม่เริ่มมาแล้วจ้า จากนั้นก็ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเด็กชายคนนี้อีกเลย
ตั้งแต่นั้นมา เราแม่ลูกก็อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชม. ต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์ ไม่เคยห่างกันเลย พอหิวก็เปิดเต้าเหมือนเปิดตู้เย็น เหมือนเปิดก๊อกน้ำประปา เปิดปุ๊บไหลปั๊บ
 
และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันจึงไม่ได้บีบน้ำนมเก็บไว้ ก็มันไม่มีเวลาไงคะ ทั้งวันวุ่นอยู่แต่กับการอุ้มลูกให้นม ปล่อยถุงน้ำนมและตู้เย็นว่างเปล่ามาจนถึงทุกวันนี้
เพิ่งกินนมเสร็จ
ภายหลังได้ทราบจากคุณหมอที่สมาคมนมแม่แห่งประเทศไทย ท่านได้นำเคสของเรานี้ไปเป็นตัวอย่างว่า การจะให้นมแม่ให้สำเร็จ เคล็ดลับอยู่ที่ไม่ต้องคิดมาก และไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม อดทนดูดกันไปนี่แหละ เป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าในวันนั้นลูกได้นมผงเสริม มีหวังอดนมแม่ตลอดชีวิตแน่ ๆ
และเราก็ได้เป็นพรีเซนเตอร์นมแม่ เป็นแม่ลูกอาสาอบรมเรื่องนมแม่ และเลือกดับอนาคตในวงการบันเทิงด้วยการปฏิเสธการถ่ายแบบโฆษณานมผงที่มีผู้ติดต่อมา
ลูกเป็นเด็กนมแม่ล้วน 5 เดือนครึ่ง หลังจากนั้นก็ได้น้ำและอาหารเสริมตามลำดับ จนอายุ 1 ปี 10 เดือน เป็นวันแรกที่เราแยกจากกัน ลูกต้องแยกจากเต้า แม่ไปคอร์สนั่งสมาธิหนึ่งวัน เพียง 1 วันนั้นเท่านั้นที่ลูกอยู่บ้านกับพ่อและกินนมกล่องยี่ห้อจิตรลดา
เรา 2 แม่ลูก ไปไหนไปกัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ลูกเริ่มเดินทางต่างประเทศครั้งแรกตอนอายุ 3 เดือน โดยพกอาหารจานโปรดติดเต้าแม่ไปด้วย ไม่ต้องแบกอาหารอื่นให้เป็นภาระวุ่นวาย เหมือนพกข้าวกล่องไป หิวเมื่อไหร่ก็เปิดกินได้ทันที ง่ายและเร็วกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เป็นปกติของเด็ก เวลาเล่นขายของ เล่นตุ๊กตา หรือเล่นเกมพ่อแม่ลูก เด็ก ๆ ก็จะเล่นเลียนแบบพฤติกรรมที่ตัวเองเคยเห็นในชีวิตประจำวัน ลูกของฉันก็เหมือนกัน จึงมีบ่อย ๆ ที่ฉันเห็นลูกเล่นเป็นพ่อ มีตุ๊กตาเป็นลูก แล้วเปิดเสื้อตัวเองให้น้องตุ๊กตาดูดนม พร้อมทำเสียงกล่อม เอ่….เอ๊….
เราย้ายจากเมืองไทยไปอยู่ออสเตรเลียตอนลูกอายุ 2 ปีเต็ม และหย่าเต้าไปในอีก 5 เดือนต่อมา ด้วยเหตุผลที่แม่เริ่มต้องเริ่มทำงานแล้ว ซึ่งลูกจะต้องไปอยู่บ้านย่าครั้งละ 3 วันบ้าง 5 วันบ้าง จึงไม่สะดวกที่จะให้ลูกดูดเต้าอีกต่อไป เพราะแม่เจ็บนม คัดนมมาก ตู้ใส่กับข้าวจานโปรดจึงถูกปิดไปตั้งแต่ตอนนั้น
ไปใส่บาตรคุณยายจ๋า อายุ 5 เดือนตัวอ้วนปั๊ก / พบคุณยายจ๋าอีกครั้งตอนอายุ 14
แต่จนถึงทุกวันนี้ ลูกก็ยังบ่นอยู่บ่อย ๆ ว่า แม่ไม่ยุติธรรมที่ให้เลิกนมโดยไม่ได้ถามความสมัครใจ แม่ควรให้สิทธิลูกเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะกินนมแม่จนถึงเมื่อไหร่ และยังบอกอีกว่า ถ้าเขามีลูก ลูกของเขาจะได้กินนมแม่จนอายุ 10 ปี (นี่คิดจะถามเมียมั่งมั้ยว่าเขาจะเอาด้วยรึเปล่า ฮ่า ๆ ๆ)
1
ถุงเก็บน้ำนมนี้ หมดอายุไปนานแล้ว ตู้เย็นที่ทิ้งไว้ที่บ้านที่เมืองไทยก็น่าจะพังไปแล้ว แต่ความทรงจำของเราแม่ลูก และเรื่องราวของนมจากเต้านั้น พวกเรายังไม่เคยลืม...เป็นเจอนี่ที่เราผจญร่วมกันมา เส้นทางของอาหารจานโปรด พร้อมปรุงพร้อมเสิร์ฟ ที่เป็นอาหารของความห่วงหาอาทรอย่างแท้จริง
ผู้เขียน
1
การศึกษา : ปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต ภาควิชาภาษาไทย
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ประสบการณ์ : เขียนบทความ สารคดี บทละคร บทวิทยุ - โทรทัศน์
เรียนและรักษ์ภาษาไทย ชอบออกไปดู ไปดม ไปชมโลกด้วยความหลงใหลแล้วนำกลับมาเล่า
ฝากผลงาน E-Book เที่ยวเมลเบิร์นด้วยตัวเองไปกับรถรางสาย 35
โฆษณา