16 เม.ย. 2021 เวลา 02:09 • ปรัชญา
7 วิธีกู้ตัวเองจากความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในชีวิต
สู้ ๆ นะครับทุกคน
พอได้อ่านบทความ “How to Recover from a Major Life Setback” ของ ‘Cyrus Vanover’ ผมก็อดที่จะนำเรื่องราวดี ๆ นี้มาแบ่งปันไม่ได้
“A major life setback doesn't have to be the end of the world”
“ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นจุดจบของโลก”
ดังนั้นอย่าปล่อยให้ความล้มเหลวที่ไม่ว่าจะใหญ่มากขนาดไหนมาฉุดให้คุณล้มลง แล้วไม่คิดที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง
1
เมื่อชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บางครั้งสิ่งต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว และป้องกัน อาจจะเป็นการสูญเสียทางหน้าที่การงาน ความล้มเหลวทางธุรกิจ การยุติความสัมพันธ์กับคนรัก หรืออีกมากมายความเลวร้าย ไม่ว่าสถานการณ์เหล่านั้นจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าความเสียใจนี้ย่อมสร้างความเสียหายอย่างมากต่อความมั่นใจ และความนับถือตนเองของคุณมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทุกคนล้วนแต่เคยพ่ายแพ้มาแล้วทั้งนั้น
เพราะความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นจุดจบของทุกเรื่องราว
การฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในชีวิตนั้นเป็นไปได้อย่างแน่นอน แต่ต้องใช้ความคิดที่ถูกต้องในการทำให้มันเกิดขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่คุณจะฟื้นตัวจากสถานการณ์ที่เลวร้ายได้เท่านั้น แต่หากคุณทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เมื่อโอกาสดี ๆ ในชีวิตมาถึง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่คุณจะคว้ามันเอาไว้ได้อีกครั้ง
2
1. ยอมรับสิ่งที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ (Accept What You Can’t Change)
5
รู้ว่าเสียใจ แต่ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้
ขั้นแรกนั่นคือคุณต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อน ว่าคุณไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้ ต้องเข้าใจ เพื่อที่คุณจะได้ไม่เสียเวลาอันมีค่า ในการพยายามพลิกสถานการณ์นั้น เพราะพลังงานชีวิตของคุณหมดลงอย่างรวดเร็ว นำไปสู่อารมณ์เชิงลบมากมายที่จะตามมา
1
คุณต้องก้าวต่อไป อย่าคิดว่านี่เป็นการยอมรับความล้มเหลวอย่างไร้ทางสู้ แต่การถอยหลังออกมาจากสถานการณ์อันเลวร้าย จะทำให้คุณมีมุมมองที่แตกต่างออกไป เพราะคุณจะสามารถมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้รอบด้าน และดีกว่าเดิมด้วยการใช้สติ
2. ให้เวลาตัวเองได้เสียใจ (Give Yourself Time to Grieve)
1
ร้องไห้บ้างก็ได้นะ แต่อย่านาน
การเสียใจกับการสูญเสียใด ๆ ในชีวิตไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ในความเป็นจริงแล้ว มันสามารถบำบัดได้ดีมากต่างหากล่ะ ความเศร้าโศกเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ ที่จะช่วยให้คุณฟื้นตัวจากเหตุการณ์เชิงลบได้ดีอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
1
แต่ทั้งนี้ต้องใช้เวลาในการเสียใจอย่างเหมาะสมด้วยนะ และคุณควรยอมรับตัวเองตลอดเวลาที่ต้องทำตามขั้นตอนนี้ เพื่อเข้าสู่ผลลัพธ์สุดท้ายนั่นก็คือการยอมรับ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้คุณสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้นั่นเอง
3. ให้อภัย (Forgive)
1
รู้ว่ายาก แต่ถึงเวลาต้องให้อภัยแล้วล่ะ
บางครั้งอาจมีความสับสนเกี่ยวกับความหมายของการให้อภัย
การให้อภัยไม่ได้หมายความว่าคุณจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้นนะ นอกจากนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องปล่อยให้ใครบางคนกลับเข้ามาในชีวิตของคุณ ทั้งที่เคยทำให้เสียใจ
แต่การให้อภัยนั้นเป็นทางเลือก หมายความว่าคุณจะไม่เก็บความเสียใจอยู่กับตัวอีกต่อไป ท้ายที่สุดแล้วการให้อภัยคือสิ่งที่คุณทำเพื่อตัวเอง ปลดปล่อยจิตใจจากความคิด และอารมณ์เชิงลบเกี่ยวกับสถานการณ์นั้น ๆ ได้นั่นเอง
4. อย่าปล่อยให้ความสงสัยในตนเองควบคุมคุณ (Don’t Let Self-Doubt Control You)
ได้โปรดอย่าสงสัยในตนเอง
ความสงสัยในตัวเองด้วยการโทษอดีตซ้ำแล้วซ้ำเล่า การทำอย่างนี้มันเหมือนกับว่าเรากำลังวนเวียนอยู่กับความคิดเดิม ๆ หาทางออกไม่ได้สักที
1
ซึ่งสัจธรรมข้อหนึ่งที่เรารู้กันดีนั่นก็คือ เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่เราสามารถเลือกทำให้อนาคตดีกว่าเดิมได้ เพราะฉะนั้นเลิกโทษตัวเองในเรื่องราวที่ผ่านมา และนำมันมาเป็นบทเรียนเพื่อเปลี่ยนอนาคตให้ดีกว่าเดิมให้ได้
1
5. พยายามเรียนรู้จากประสบการณ์ (Try to Learn From the Experience)
เชื่อสิ แม้ในความเลวร้ายก็มีความดีงามซ่อนอยู่
ลองทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเราสามารถเรียนรู้อะไรจากมันได้บ้าง ลองมองหาข้อดีที่ซ่อนอยู่ ซึ่งมีอยู่แน่ ๆ อย่าไปมองว่าอดีตที่เลวร้ายเป็นความบกพร่องของเราเสมอไป เพราะมันส่งผลให้เราไม่กล้าทำสิ่งใหม่ในอนาคตเลย และความสามารถในการเรียนรู้จากสถานการณ์นี้นี่เองที่จะทำให้คุณมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในอนาคต
6. กำหนดแผนใหม่ (Formulate a New Plan)
เริ่มคิดได้แล้ว ว่าจะเริ่มต้นยังไงต่อ
หลายครั้งที่ความสำเร็จเกิดขึ้นจากการดำเนินตามแผนที่ดี และไม่มีเวลาใดที่จะเหมาะสมไปกว่าการวางแผนชีวิตของคุณใหม่ทันที หลังจากความล้มเหลวในชีวิตครั้งใหญ่ได้ผ่านไปแล้ว
เมื่อกำหนดแผนอย่าลืมพิจารณาความฝัน และเป้าหมายในชีวิตของคุณ คุณต้องการประสบความสำเร็จอะไรในชีวิต? ความต้องการของคุณคืออะไร? ฯลฯ
กล่าวคือคุณสามารถฝันให้ยิ่งใหญ่ได้ตราบเท่าที่แผนการของคุณมีพื้นฐานมาจากความเป็นจริง
7. ดำเนินการด้วยความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ (Take Action with a Determination to Succeed)
ลงมือทำได้เลยครับ ว่าแต่หิวข้าวมันไก่ขึ้นมาเลยทีเดียว
ขั้นตอนสุดท้ายคือการดำเนินการนั่นเอง ได้เวลาที่เราจะเคลื่อนไหวแล้วครับ
ความคิดดี ๆ ในหัวจะสูญเปล่าทันที ถ้าเราไม่เริ่มลงมือทำสักที อย่างน้อยที่สุดก็ควรเริ่มต้นทำในสิ่งที่เล็กน้อยก่อน และจากนั้นขั้นต่อไปก็จะตามมาเอง
1
จำไว้ว่าความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นจุดจบของทุกอย่าง ด้วยมุมมองทัศนคติ และแผนที่ถูกต้องคุณจะมีอนาคตที่สดใสได้อย่างแน่นอน ขออวยพรครับ
1
ทั้งนี้ยืนยันว่าบทความของผมไม่ใช่คำตอบ หรือบทสรุปที่ดีที่สุด ทุกท่านควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการรับข้อมูลด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกการตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นการติดตาม ไลค์ คอมเมนท์ หรือว่าแชร์ ทุกกำลังใจสำคัญสำหรับผมเสมอ
ขอบคุณครับ
2
แล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้า
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่มา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา