17 เม.ย. 2021 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
*** กระต่าย ไข่ และเทศกาลอีสเตอร์ ***
เมื่อกล่าวถึงเทศกาลอีสเตอร์ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงกระต่ายกับไข่ช็อกโกแลตห่อด้วยฟอยล์หลากสี ...แต่ไข่กับกระต่ายนั้นเกี่ยวข้องกันอย่างไร? กระต่ายไม่ได้ออกลูกเป็นไข่สักหน่อย!?
และแท้จริงเนื้อหาของเทศกาลนี้เป็นการเฉลิมฉลองการคืนชีพของพระเยซู ซึ่งก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับของในย่อหน้าที่แล้ว แต่ทำไมสัญลักษณ์ของอีสเตอร์จึงยังเป็นกระต่ายกับไข่เล่า?
เรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? เกิดขึ้นตอนไหน? คำว่า Easter Egg กลายเป็นคำศัพท์ในเกมส์ได้ด้วยเหตุใด? เรามาหาคำตอบกันนะครับ
::: ::: :::
เทศกาลอีสเตอร์ มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ปัสกา” เป็นเทศกาลที่ชาวคริสต์ฉลองให้กับการที่พระเยซูฟื้นจากความตาย หลังโดนตรึงกางเขนสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปให้มวลมนุษย์
โดยเทศกาลนี้เกิดขึ้นหลังเทศกาลมหาพรตซึ่งชาวคริสต์จะสำรวมกายใจ ลดปริมาณ และประเภทอาหารที่ทาน เพื่อรำลึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซู เป็นเวลา 40 วัน
ซึ่งตอนแรกไม่มีการกำหนดวันเทศกาลอีสเตอร์แน่นอน เพิ่งมากำหนดในช่วงยุคโรมันว่า วันอีสเตอร์ควรตรงกับ "วันอาทิตย์ ถัดจากวันพระจันทร์เต็มดวงที่เกิดขึ้นพร้อมกัน หรือหลังวันวสันตวิษุวัต (วันวิษุวัตเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ หมายถึงวันที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากัน ปีหนึ่งมีสองครั้งคือวสันตวิษุวัตในเดือนมีนาคม และศารทวิษุวัตในเดือนกันยายน คนมักถือวันวสันตวิษุวัตเป็นวันเริ่มฤดูใบไม้ผลิ) "
...ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วส่วนใหญ่วันอีสเตอร์จะอยู่ในเดือนเมษายน โดยมีการนับแตกต่างกันระหว่างชาวคริสต์แต่ละนิกาย
::: ::: :::
เชื่อว่า "ไข่อีสเตอร์" นั้น เริ่มมีขึ้นเมื่อศาสนาคริสต์เผยแพร่สู่ยุโรป และเข้าไปผสานกับความเชื่อท้องถิ่น ที่มองว่าไข่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตและการเกิดใหม่
ในลักษณะนี้ชาวบ้านเลยยึดถือไข่เป็นสัญลักษณ์การคืนชีพของพระเยซูไปด้วย ...ความหมายอีกนัยหนึ่งคือเมื่อตอกไข่แล้ว จะเหลือเปลือกว่างเปล่า เช่นเดียวกับหลุมศพของพระเยซูที่ไม่มีร่างอยู่ในนั้น
สำหรับประเพณีการทาสีไข่นั้น เชื่อว่ามาจากการที่ชาวคริสต์ในอดีตชุบไข่ด้วยสีแดง เพื่อแทนเลือดของพระเยซู ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 13 เกิดประเพณีว่าชาวคริสต์จะไม่รับประทานไข่ระหว่างถือศีลอดในเทศกาลมหาพรต 40 วัน ทำให้เมื่อไก่ออกไข่ คนก็จะนำมาระบายสีเป็นของประดับตกแต่ง แล้วค่อยกินทีเดียวตอนเฉลิมฉลองในวันอีสเตอร์นั่นเอง
::: ::: :::
สำหรับไข่ช็อกโกแลตนั้นเพิ่งมามีในยุคศตวรรษที่ 19 โดยเริ่มต้นในหมู่ชาวฝรั่งเศสและเยอรมันซึ่งชื่นชอบการทำขนมหวาน
พวกเขาทดลองทำไข่ช็อกโกแลตเวอร์ชันแรกจากการหยอดช็อกโกแลตลงในเปลือกไข่เปล่า ซึ่งตอนแรกยังผลิตได้ช้า ทำได้คราวละน้อยๆ
อุตสาหกรรมไข่ช็อกโกแลตพึ่งมาสำเร็จ สามารถผลิตได้คราวละมากๆ เมื่อพี่น้องแคดเบอรีชาวอังกฤษผสานเทคโนโลยีหลายประการ จนสามารถแยกเนยโกโก้มาหล่อเป็นไข่ที่กลมเกลี้ยงน่ารับประทานสำเร็จ
...นับแต่นั้นไข่อีสเตอร์ ก็กลายเป็นไข่ช็อกโกแลต และไข่ช็อกโกแลตของแคดเบอรีก็ได้รับความนิยมมาก เป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์อื่นๆ ทำตาม ทำให้ขนมประเภทนี้รุ่งเรืองจนปัจจุบัน
::: ::: :::
สำหรับกระต่ายนั้น มันเป็นสัตว์ที่ร่วมเพศเก่ง มีลูกดก ทำให้คนสมัยก่อนถือมันเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ และเป็นสัตว์พาหนะของออสเตร (Eostre) เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิในความเชื่อชาวแซ็กซอนโบราณ
ออสเตรนั้นยังมีอีกตำแหน่งเป็นตัวแทนของการเกิดใหม่ เพราะต้นไม้จะผลิดอกออกผลอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ หลังจากที่แห้งเหี่ยวมาตลอดฤดูหนาว
...ซึ่งมันคล้ายกับการที่ชาวคริสต์ต้องลดอาหารนานถึง 40 วันในเทศกาลมหาพรต และเฉลิมฉลองอย่างรื่นเริงในเทศกาลปัสกา
ดังนั้นชาวคริสต์ในยุโรปเลยนำกระต่ายจากความเชื่อดั้งเดิมมาเชื่อมโยงกับเรื่องราวของพระเยซู และพลอยเรียกเทศกาลปัสกาว่า "อีสเตอร์" ตามชื่อของออสเตรไปด้วย
สุดท้ายทั้งไข่ กระต่าย และพระเยซู จึงเกี่ยวข้องกันด้วยธีม "การเกิดใหม่"
::: ::: :::
ว่ากันว่าเมื่อชาวเยอรมันอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกาในช่วงศตวรรษที่ 18 พวกเขาได้นำเรื่องเล่าเกี่ยวกับออสเตอร์แฮร์ (Osterhare) หรือ "กระต่ายอีสเตอร์" มาด้วย
เรื่องนั้นเพี้ยนไปว่ามันเป็นกระต่ายที่ออกไข่เป็นสีสันสดใส เด็กๆ จึงต้องทำรังให้มัน จะได้มาเก็บไข่ได้
ในลักษณะนี้ประเพณีไข่อีสเตอร์เลยแพร่ไปทั่วอเมริกา ซึ่งภายหลังมีการเปลี่ยนไข่จริงเป็นไข่ช็อกโกแลต และให้มีเกมส์ค้นหาไข่อีสเตอร์ซึ่งซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ โดยผู้ที่พบไข่มากที่สุดจะได้รับรางวัล ...กลายเป็นที่มาของศัพท์ "Easter Egg" หรือลูกเล่นแปลกๆ ที่ซ่อนอยู่ในภาพยนต์ หรือเกมส์คอมพิวเตอร์นั่นเอง
แต่ยังมีที่หนึ่งในอเมริกาที่ฉลองอีสเตอร์ด้วยไข่จริง คือในทำเนียบขาว
ทุกวันจันทร์หลังอีสเตอร์จะมีธรรมเนียมกลิ้งไข่ไปตามสนามหญ้า (เป็นไข่ต้มสุกแล้ว) โดยถือว่าไข่ที่กลิ้งไปเป็นเสมือนหินปิดหลุมศพที่เคลื่อนเปิดให้พระเยซูสามารถออกมาได้
...และนี่เองจึงเป็นที่มาของเทศกาลทางศาสนา ที่ถูกประยุกต์ให้มีความร่วมสมัย เป็นกิจกรรมอันสนุกสนานสำหรับทุกเพศทุกวัยจนปัจจุบัน
อ้างอิง
อ้างอิง
chocolatetradingco com/magazine/features/history-chocolate-easter-eggs
bbc co uk/newsround/17597617
history com/topics/holidays/easter-symbols
กระต่ายอีสเตอร์
ไข่อีสเตอร์ช็อกโกแลตของแคดเบอรี
พระเยซูฟื้นคืนชีพจากหลุมศพ
ออสเตร เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ และกระต่ายของเธอ
:: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
โฆษณา