18 เม.ย. 2021 เวลา 03:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ
EP4: 3 วิธีหาเงินจาก Cryptocurrency และ
Bitcoin(บิตคอยน์)
ปี 2021 ถือเป็นปีทองของ Cryptocurrency โดยเฉพาะ Bitcoin ซึ่งมีการกล่าวถึงเป็นอย่างมาก และ ราคาของ Bitcoin ก็ปรับขึ้นอย่างแรงทุกเดือนตั้งแต่เดือน มกราคม 2021 จนตอนนี้ราคาแตะ 2,000,000 บาท ไปเรียบร้อยแล้ว (จริงๆแล้วราคา Bitcoin ได้เบรกจุดสูงสุดเดิมที่ทำไว้ในปี 2018 คือ ประมาณ 60,000 บาท ในเดือน ธันวาคม 2020)
ซึ่งนอกเหนือจากการใช้ทำหน้าที่เป็นเงินในการซื้อขายสินค้าและบริการแล้ว Cryptocurrency และ Bitcoin ยังสามารถใช้เก็งกำไร จากการซื้อขายผ่านกระดานเทรดและแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างๆได้อีกด้วย
เราจะหาเงินจาก Cryptocurrency ได้อย่างไรบ้าง MoneyboosterKP ขอแชร์แนวทางต่อไปนี้ครับ
1. Buy and Hold การซื้อและถือในระยะยาว
ถ้าพูดถึงการซื้อถือ เราก็คงเน้นไปที่ Bitcoin(BTC) ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำของ Cryptocurrency และ เริ่มมีนักลงทุนสถาบันและบริษัทต่างๆ เข้ามาเก็บ Bitcoin ไว้เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนของตน ที่ดังๆ เช่น Grayscale, MicroStrategy, Galaxy digital holdings และ Tesla เป็นต้น
เราจะเห็นว่าเกมส์เริ่มเปลี่ยนไปจากเดิมที่จะมีแต่รายย่อยที่ถือครอง Bitcoin มาเป็นนักลงทุนสถาบันหรือบริษัทต่างๆซึ่งเป็นรายใหญ่ที่มีเงินทุนมหาศาล เข้ามาเก็บ Bitcoin มากขึ้น
แต่เนื่องจาก Bitcoin มีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญBitcoin เท่านั้น แสดงว่าซับพลาย มีจำกัด แต่ความต้องการเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลให้ราคา Bitcoin มีโอกาศเพิ่มขึ้นครับ
นอกจากนี้ถ้าเราดูรูปแบบกราฟของ BTC/USD จะเห็นถึงเทรนด์ขาขึ้นอย่างชัดเจนในปี 2013 2017 และ 2021 ซึ่งขาขึ้นดังกล่าวเกิดหลังจากการ Halving ในทุก ๆ 4 ปีของ Bitcoin(ครั้งที่1 ปี 2012, ครั้งที่2 ปี 2016, ครั้งที่3 ปี 2020) ซึ่งถ้าเราจับจังหวะได้ เราก็สามารถหาประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ได้เช่นกัน โดยคุณอาจจะกะจังหวะจาก cycle ของ Bitcoin ว่า 4 ปีเป็นขาขึ้น 1 ครั้ง และระยะเวลาขาขึ้นอาจกินเวลาได้ถึง 1 ปีเต็ม
รูปที่ 1: กราฟของ BTC/USD จากโปรแกรม MT4
2: หาโอกาสลงทุนกับเหรียญอื่น (Altcoin) ที่ถูกใช้งานอย่างต่อเนื่อง
เหรียญ Altcoin หรือ Alternate Coin คือเหรียญ cryptocurrency ทุกๆเหรียญที่ไม่ใช่ Bitcoin
การลงทุนในประเภทนี้จะเป็นการลงทุนในเหรียญที่ถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องและมีระบบของตัวเอง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานในเหรียญดังกล่าวได้รับประโยชน์จากเหรียญ ส่งผลให้มีความต้องการในเหรียญcryptocurrency นั้น ๆ เป็นจำนวนมาก ดังเช่น ETH, XRP, BNB และ ADA
แน่นอนครับว่าเมื่อมีความต้องการมากขึ้นก็จะทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้เหรียญแต่ละเหรียญก็จะมีข่าวหรือ Story ของตัวเองและเป็นแรงผลักดันราคาของเหรียญนั้นๆด้วย
หลักการทำกำไร ของเหรียญประเภทนี้คือ การเข้าซื้อในช่วงราคา “ไซด์เวย์” หรือ “ช่วงพักฐาน“ (ไม่มีการไล่ราคาโดยเด็ดขาด) โดยเราควรเลือกเหรียญcryptocurrency ที่ถูกจัดอยู่ในอันดับ TOP 20 หรือ 50 ของตลาดคริปโต ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
เราควรจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชุมชนของเหรียญนั้น ๆ ซึ่งก็จะช่วยให้เราได้รับข่าวสารที่รวดเร็วและสามารถซื้อเหรียญได้ทันทีก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้น
รูปที่ 2: อันดับเหรียญจากเว็ป https://coinmarketcap.com/
เราควรจะใช้หลักการเดียวกับการเลือกหุ้นในการเลือกเหรียญ Cryptocurrency กล่าวคือ ปัจจัยพื้นฐานหรือข่าวของเหรียญเหล่านั้นควรเป็นไปในทิศทางและลักษณะที่จับต้องได้ เช่นการเปิดตัวสินค้าและบริการใหม่ที่มีแผนงานที่ชัดเจนและเชื่อได้ว่าสามารถใช้งานได้จริง, ไม่ใช่เพียงแค่การประกาศจับมือ หรือร่วมมือกัน แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอย่างชัดเจนว่าการจับมือดังกล่าวนั้นทำไปเพื่ออะไร
ขอเน้นว่าควรเลือกเฉพาะเหรียญในอันดับต้นๆ ของตลาดคริปโต เท่านั้น โดยจะหาจังหวะเข้าซื้อตอนที่ราคาวิ่งลงมาถึงแนวรับสำคัญ หรือ ตอนที่ตลาดนิ่ง ๆ ในช่วง 1-3 สัปดาห์ก่อนเหตุการณ์สำคัญของเหรียญนั้นๆ ซึ่งเราจะรู้เรื่องพวกนี้ก็ต่อเมื่อเราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชุมชนของเหรียญนั้น ๆ นั่นเอง
ข้อควรระวัง คือ หากการพัฒนาเหรียญไม่มีความคืบหน้าตามที่ประกาศไว้ ราคาของเหรียญอาจไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ส่งผลให้เงินของเราจมอยู่กับเหรียญนั้นได้
3: เหรียญที่ไม่มีพื้นฐานรองรับ (เหรียญปั่น)
เหรียญประเภทนี้มีผันผวนสูงมาก เหมาะกับผู้เล่นที่มีประสบการณ์ และมีวินัยที่จะทำตามระบบเทรดที่กำหนดไว้
คุณอาจทำกำไรได้ 100% หรือ 1,000% แต่ขณะเดียวกันก็อาจขาดทุนจนหมดตัวก็เป็นได้
เหรียญประเภทนี้ได้แก่ XRP, DOGE, BNB และ KCS เป็นต้น
Money management และ จังหวะการเข้าซื้อ นับว่าเป็นเรื่องสำคัญในการเทรด คุณต้องคำนวณให้ดีว่าถ้าเกิดราคาสวนทางกับ Position ของคุณแล้วจะไม่ทำให้ Port ของคุณเสียหาย โดยคุณต้องมีความสามารถที่จะหาจุด Stop loss ได้เอง และ คำนวนให้ได้ว่า คุณสามารถลงเงินได้เท่าไหร่ที่ไม่ทำให้ Port พังเมื่อคุณจำเป็นต้อง Cut loss และ การเข้าซื้อควรเข้าเมื่อราคาของเหรียญเกิดการไซด์เวย์และราคาคงที่อยู่นานพอสมควร (เรื่อง Money Management ขอยกไปกล่าวโดยละเอียดในบทความต่อๆไปนะครับ)
วิธีการสังเกตเหรียญประเภทปั่นราคานั้นสังเกตได้ง่าย ๆ จากกราฟ โดยลักษณะของกราฟราคานั้นมักจะเป็น sideway เป็นเส้นตรงเป็นเวลานานๆ และราคาจะพุ่งแรง แต่ก็ร่วงกลับมาจุดเดิมอย่างรวดเร็ว (คล้ายกับหุ้นปั่นบ้านเรา)
รูปที่ 3: กราฟเหรียญ XRP จากเว็ป https://coinmarketcap.com/
รูปที่ 4: กราฟเหรียญ BNB จากเว็ป https://coinmarketcap.com/
เหรียญปั่นไม่ใช่ไม่ดีนะครับ มันสามารถกำไรได้อย่างมหาศาลและรวดเร็ว แต่มันมีความผันผวนของราคาค่อนข้างสูง ซึ่งอาจจะทำให้คุณตกใจกระโดดออกมาก่อนทั้งๆที่คุณเลือกทิศทางถูกแล้ว หรืออาจสูญเสียเงินต้นทั้งหมดของตัวเองได้เลยทีเดียว
ดังนั้นสิ่งสำคัญคือระบบเทรด การรักษาวินัยในการเทรด และที่สำคัญคือ คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังเล่นอยู่กับอะไรครับ
จำไว้ครับ เหรียญปั่นไม่มีการถือยาว ไม่มีการไล่ราคาเด็ดขาด ถ้าได้แล้วอย่ากลับเข้าไปพัวพันอีก Money Management ต้องชัดเจน และต้อง Cut loss เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำ
สุดท้ายก็คงต้องขอเตือนว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องมีความรู้และวางแผนการลงทุนที่ชัดเจนทุกครั้งครับ
บอกกับตัวเองให้ได้ครับว่า คุณจะขายตอนไหน แล้วคุณสนุกไปกับการเทรดครับ
ขอให้ทุกท่านเทรดอย่างระมัดระวังนะครับ เพราะการตัดสินใจเป็นของท่านและเงินก็เป็นของท่าน
ช่วยกดแชร์กดติดตามเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา