18 เม.ย. 2021 เวลา 13:48 • นิยาย เรื่องสั้น
#จันทร์เจ้าขาตอนพิเศษ,
#ที่มาตัวละครสมิงไพรหนุ่ม และมะตีฮะ
(18/4/2021)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
1
ผมกลับมาจากวันหยุดยาว แล้วครับ 🏄🏻‍♂️🚣‍♀️❤️
1
ในคืนนี้..เลยขอส่งตอนพิเศษของมะตีฮะ และสมิงไพรหนุ่ม ให้เพื่อนๆได้อ่านกันอย่างเพลิดเพลินนะครับ❤️🎶💙🎵
สุขสันต์อาทิตย์นะครับ ทุกคน ❤️🎹🎶🎵
..
..
ความเดิมตอนที่แล้ว:
นัตมินคยีผู้พี่ ได้สั่งการให้นัตมหาคีรี เร่งติดตามบดขยี้สมิงไพรหนุ่ม และมะตีฮะน้อย ก่อนที่ทั้งสองจะหวนกลับมาสมทบกับเหล่าผู้อพยพชาวมอญ และกองทหารอาทมาฏ..
1
ในขณะที่นัตมินคยีเอง ก็รีบรุดมายังสนามรบบริเวณช่องแคบ.. เพื่อหาทางแก้ไข บ่วงสัญญาโลหิตที่นัตมินเล น้องของตนได้ทำไว้กับผู้กองหนุ่มในร่างของออกหลวงพจน์ประภาพ ..
บทที่ 2 ตอนที่ 8 ผู้กองหนุ่ม นายแพทย์ชอว์ สมิงไพรหนุ่มมะตีฮะ และคุณหนูน้อยซ์ (12)
#ราว๒๕เส้น(ราว๑กิโลเมตร)
ห่างจากเหล่าทัพอสูรของนัตมหาคีรี,
สมิงไพรหนุ่มเร่งควบม้าให้เร็วขึ้น..จากนั้นจึงเอียงศีรษะ หันมาพูดกับมะตีฮะ อีกครั้งว่า..
“มะตีฮะ..อาจารย์กำลังจะสอนบทเรียนสำคัญทางด้านกลศึกของเหล่าทหารม้า และทหารราบ ในคราวเดียวกัน..
ขอเจ้าจงเฝ้าระวังจดจำคำสั่ง ของอาจารย์ให้ดีเถิด
เมื่อเราวิ่งพ้นแนวต้นสะเดาดง ตรงด้านขวานั้นแล้ว..
1
ขอเจ้าจงบังคับเหล่าหุ่นพยนต์ให้แยกตั้งแถวซ้ายขวา วิ่งเรียงหน้ากระดาน และรอฟัง คำสั่งอาจารย์ต่อจากนั้นให้จงดี..
แล้วเราจะแคล้วคลาดจากการโจมตีของเหล่าทัพอสูร ที่กำลัง
จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้..”
..
..
สิ้นเสียงกำชับจากสมิงไพรหนุ่ม ราวครึ่งธูปไหม้..
1
ทุกสรรพสิ่งก็ยังเป็นปกติไม่เปลี่ยนแปลง..
เหล่าหุ่นพยนต์ยังคงวิ่งร่าเริงตามม้าของสมิงไพรหนุ่ม..
พร้อมกับ ส่งเสียงร้อง
เจี๊ยกๆ เจี๊ยวจ๊าว ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา..
1
สมิงไพรหนุ่มจึงเหลียวหลังหันมองลูกศิษย์รัก อย่างสงสัย..
ภาพที่ปรากฏในขณะนี้ คือ มะตีฮะกำลังนั่งก้มหน้านิ่งพึมพำ พร่ำบ่น อยู่คนเดียว
1
.. นิ้วมือข้างหนึ่ง จิ้มที่แก้ม และใบหน้าซีกหนึ่ง พลางวาดนิ้ววนๆ ไปมา..พร้อมกับรำพึง ว่า
“หน้า..”
“แยก”
..ส่วนนิ้วมืออีกข้างก็กำลังวาดรูปบางอย่างอยู่บนแผ่นหลังของอาจารย์ตน
พร้อมกับริมฝีปาก ที่เอ่ยพูดวนซ้ำไปมา ว่า..
“กระดาน..”
“หน้า..แยก..หน้า..กระดาน”
3
จากนั้นมะตีฮะก็ค่อยๆเงยหน้า ขึ้นมาอย่างช้าๆ ตาแดงๆ คิ้วขมวดยุ่ง.. จ้องอาจารย์สมิงไพรหนุ่ม..พลางเอ่ย ด้วยเสียงสั่นเครือ ว่า..
1
“อา..จารย์... “
..
..
สมิงไพรหนุ่มพยักหน้ายิ้ม อย่างเข้าใจ ..ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ และพูดขึ้นว่า..
2
“ฮื่อ!! ..อาจารย์ผิดเอง..
อาจารย์ผิดเอง..
1
อาจารย์ยังสอนเจ้าไม่ถึงคำว่า หน้ากระดาน..นี่เอง
1
ไม่เป็นไรดอก มะตีฮะ..
ไม่เป็นไร..นิ่งเสียเถิด..
เอาใหม่ เอาใหม่..”
1
คราวนี้ สมิงไพรหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก พลางหันหน้ากลับไปมอง..ภาพของเหล่าทัพอสูรของนัตมหาคีรี ด้านหน้าราว 25 เส้น..ที่กำลัง ตั้งเรียงแถว ตามหมากกลศึกของพม่า และประชิดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ..
จากนั้นสมิงไพรหนุ่ม จึงตะโกนโพล่งออกมาว่า
“มะตีฮะ เอ๋ย..
จงกางแขนของเจ้าออก ราววิหคกำลังโบยบิน..
แล้วจงสั่งให้หุ่นพยนต์ของเจ้า ทำตนดั่งปีก ซ้าย ขวา ..
ที่เจ้าจะพาพวกมัน บินฝ่าเข้าไปยังเหล่าอสูร..
ด้วยมนต์แห่ง พฤกษาวิหค ..เถิด”
..
..
“เจ้าค่ะ..อาจารย์”
มะตีฮะยิ้มกว้าง พูดตอบสมิงไพรหนุ่ม..ขณะที่มือทั้งสอง ล้วงหยิบแท่งอาคม ออกมาจากย่าม นำขึ้นมาตี ไปมา จนเกิดประกายไฟวูบวาบ..
ต่อจากนั้น มะตีฮะจึงกางแขนทั้งสองของตนออกกว้าง พร้อมกับทำท่าขยับแขนขึ้นลง..ราวกับปีกที่กำลังบิน ..
ขณะเดียวกัน ริมฝีปากบางของมะตีฮะ ก็ร่ายพระเวทย์อาคม กำกับหุ่นพยนต์หนึ่งจบ และร้องขึ้นอีกครั้งว่า..
“จงบินไปกับข้าเถิด เหล่าพฤกษาวิหค...”
“เพลิง!!!”
1
ทันใดนั้นเอง เหล่าหุ่นพยนต์ของมะตีฮะ ต่างก็มีเพลิงอัคคี ลุกไหม้ขึ้น ..
“ ฟึ่บบบ.. ฟึ่บบบๆๆๆๆ”
2
และส่งเสียงร้องพร้อมกันอย่างฮึกเหิม ดังลั่น ว่า..
“จิ๊บบบ... จิ๊บๆๆๆๆ..”
2
สมิงไพรหนุ่มยิ้มอย่างหมั่นเขี้ยว..เมื่อได้ยินเสียงร้องของเหล่าหุ่นพยนต์ ..
1
จากนั้นจึงกำหมัดขวาชูขึ้นให้สัญญาณ รอฟังคำสั่ง..
..
..
..
“หึหึ หึ..” นัตมหาคีรี แยกเขี้ยวยิ้ม หัวเราะเบาๆ และตะโกนบอกเหล่านายกองอสูรทั้งหลาย..เมื่อเห็นสมิงไพรหนุ่ม เร่งควบม้าพุ่งเข้ามาหา..
“มีแต่พวก โง่ บ้า มุทะลุ ไม่เคยเรียนกลศึกสงคราม เท่านั้น ถึงได้ขี่ม้า ทะเล่อทะล่า พุ่งเข้ามาหาริ้วขบวนทัพ ปาทังคพยุหะ (รูปเท้ากา) ของกระบวนทัพนัตมหาคีรีเช่นนี้ หึหึ หึ..
ริ้วขบวนทัพปาทังคพยุหะ
จงสั่งให้ทัพอสูร หยุดเคลื่อนทัพ เตรียมรับมือขุนศึกโง่ กับม้าของมัน
และเปลี่ยนริ้วขบวนให้เป็น ปาสะหะพยุหะ (ดุจจอมปราสาท)
โดยเสริมแถวหน้า..ให้แถวพลหอกขยับขึ้นตั้งแถวหน้ากระดานยาว.. สองแถวซ้อนกันเป็นกำแพงหอก บนล่าง แทน เหล่าอสูรประจัญบานทหารราบ.. บัดเดี๋ยวนี้..
เพื่อว่าให้ ม้าเฒ่า และเหล่าตุ๊กตาดินประหลาดของพวกมัน..ลิ้มรสความตายจาก กำแพงหอกของทัพนัตมหาคีรี หึหึ หึ..”
สิ้นเสียงสั่งของนัตมหาคีรี.. พลหอกอสูร ก็คำรามกึกก้อง และเคลื่อนออกมาตั้งแถวหน้ากระดานยาว ซ้อนกันสองชั้น เป็น กำแพงหอกตามคำสั่ง..
ส่วนแถวของเหล่าทหารอสูรประจัญบานก็ก้าวถอย หลังมาตั้งแถวหน้ากระดาน ชั้นที่สาม ..
ริ้วขบวนทัพ ปาสะหะพยุหะ
ความเป็นระเบียบ และน่าเกรงขามของเหล่าพลหอก ทำให้ นัตมหาคีรี อ้าปากยิ้มกว้าง และอดจะกล่าวชื่นชมตนเองไม่ได้..
“หึหึ หึ.. ข้านี่อยากให้ นัตมินคยี ได้อยู่ที่นี่ เสียจริงๆ จะได้เห็นหมากศึกอันงดงามที่ข้า วางไว้ เพื่อใช้บดขยี้ แม่ทัพปริศนาแห่งอยุธยาคนนี้.. หึหึ หึ..
ทีนี้ นัตมินคยี จะได้หายข้องใจ ในสติปัญญาของนัตมหาคีรี เสียที ฮ่ะฮ่ะ ฮ่ะ คิกคิกคิก ติ๊กติ๊กติ๊ก“
นัตมหาคีรี หัวเราะด้วยเสียงอันดัง ขณะที่ใช้มือลูบม้วนปอยผมหย่อมหนึ่ง บนศีรษะที่ล้านเลี่ยนแวววาว ของตนไปมา อย่างสบอารมณ์..
..
..
#ราว๒๐เส้น(ราว๘๐๐เมตร)ก่อนถึงทัพอสูร
1
เมื่อสมิงไพรหนุ่มเห็นภาพการตั้งแถวพลหอกของนัตมหาคีรี เปลี่ยนกลศึกริ้วขบวนเป็นปาสะหะพยุหะ.. ก็เผลอยิ้ม ด้วยประกายตาลิงโลด ซุกซน พลางเร่งควบม้าให้เร็วขึ้นอีก..แล้วจึงพูดสั่งมะตีฮะ เบาๆ ว่า..
1
“จงเร่งเหล่าหุ่นพยนต์ ให้เร็วขึ้นอีกเถิด มะตีฮะ..
กลศึกแรกที่อาจารย์จะสอนเจ้า คือ การพุ่งตรงเข้าหาข้าศึกด้วย กลศึกแนวปีกกาขนาบ*..โดยเร่งเร็วขึ้น เพื่อให้ศัตรูสังเกตเห็นกระบวนทัพของเราชัดเจนขึ้น..
จนเมื่อถึงระยะห่างราว ๕ เส้น อาจารย์จะให้สัญญาณเจ้าอีกครั้งหนึ่ง..”
มะตีฮะ พยักหน้ายิ้มตอบอาจารย์ของตนครั้งหนึ่ง .. ก่อนที่จะกางแขนออกให้กว้างขึ้น จัดแถวของหุ่นพยนต์ตามคำสั่ง..
..
..
#ระยะห่างราว๑๐เส้น
(ราว๔๐๐เมตร)ก่อนเข้าระยะรบพุ่ง,
“หึหึ หึ..” นัตมหาคีรี แยกเขี้ยวยิ้ม หัวเราะเบาๆ อีกครั้ง อย่างรู้สึกสนุก เมื่อเห็น รูปกระบวนทัพ แนวปีกกา* ของสมิงไพรหนุ่ม ที่เร่งพุ่งเข้ามาหมายจะเข้าปะทะ
นัตมหาคีรี จึงตะโกนสั่งเหล่านายกองอสูรทั้งหลาย..ว่า..
“แม่ทัพคนนี้ นอกจากโง่ แล้ว..ยัง บ้าระห่ำ และมุทะลุจัดทัพแนวปีกกา หมายพุ่งปะทะกับทัพของพวกเราอีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
ริ้วขบวนจัดทัพก้ามแมงป่อง
จงแปรริ้วขบวนทัพ ปาสะหัพยุหะ อีกครั้ง..ให้แถวเหล่าอสูรประจัญบานทหารราบ ..เข้าไปยืนประชิดแถวกำลังพลหอก เพื่อเสริมกำลัง เตรียมรับมือการพุ่งชนของแม่ทัพโง่ ผู้นี้ ในบัดเดี๋ยวนี้..คิกคิกคิก ...
ติ๊กติ๊กติ๊ก ..”
สิ้นเสียงคำสั่ง เหล่าอสูรทหารราบก็ขยับเดินเข้าไปจัดแถวชิดกับพลหอก ..
พร้อมกับเสียงคำราม โห่ร้อง ข่มขวัญจากเหล่าอสูรทหารราบ ดังขึ้นยาวนาน ต่อเนื่อง..
..
..
#ระยะ๕เส้น(ราว๒๐๐เมตร)ก่อนถึงระยะรบพุ่ง,
1
เมื่อสมิงไพรหนุ่มได้ยินเสียงตะโกนข่มขวัญจากเหล่าอสูรทหารราบ และเห็นการปรับริ้วขบวนอีกครั้งสุดท้ายนัตมหาคีรี..
สมิงไพรก็เผลอยิ้มสนุก และหันไปกระซิบสั่งมะตีฮะ ศิษย์รักว่า..
“จงสั่งหุ่นพยนต์ที่เสมือนปีกซ้ายให้หุบปีกลงลง วิ่งตามหลังม้าของเรา เป็นแถวยาว
ส่วนหุ่นพยนต์ที่เป็นเสมือนปีกขวา ยังคงกางปีกไว้รักษาระยะวิ่งให้เสมอกันกับม้าของเรา..
อาจารย์กำลังจะสอนกลศึก ที่ 2 กับเจ้าในครานี้แล้ว
นี่คือ กลศึกจั๊กจั่นลอกคราบ (จินฉานทวอเชี่ยว) ..
“เจ้าค่ะ อาจารย์” มะตีฮะ เอ่ยตอบสมิงไพรหนุ่ม พร้อมรอยยิ้มกว้าง..พลางจัดแถวหุ่นพยนต์ตามคำสั่งของสมิงไพรหนุ่ม อย่างเคร่งครัด..
..
..
#ระยะ๗๕วา(ราว150เมตร)ก่อนถึงระยะประจัญบาน
นายกองอสูรตนนึงรู้สึกสงสัยกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า กับการเปลี่ยนแปลงของริ้วขบวนปีกซ้ายของสมิงไพรหนุ่ม จึงเอ่ยถามกับนัตมหาคีรี ว่า..
“ท่านแม่ทัพขอรับ..ทำไม จู่ๆ ริ้วขบวนปีกซ้ายของมัน ก็วิ่งไปอยู่ด้านหลังม้า และปล่อยให้ปีกขวายังคงกางอยู่เช่นนั้นล่ะขอรับ..”
นัตมหาคีรี ได้ยินคำถามนั้น ก็หัวเราะคำรามเบาๆ และตอบว่า..
“ฮะฮะ ฮ่า.. กลศึกของมันช่างอ่านได้อย่าง ง่ายดายนัก..
มันกำลังจะแปรริ้วขบวนหุบปีกกาทั้งสองเข้ามา เปลี่ยนเป็นริ้วขบวนลูกศร ให้เข้าปะทะ ณ.จุดเดียว เพื่อเกิดพลังปะทะที่รุนแรง..
ฮะฮะ ฮ่า แต่ข้ากลับมองเห็น ริ้วขบวนของมัน เป็นเพียงนกปีกหักที่กำลัง โซซัดโซเซ หลงบินตรงเข้ามาเสียบกับขบวนหอกของเรา ราวกับโดนปิ้งย่าง เท่านั้นเอง.. ฮ่ะฮ่ะ ฮ่าา..
เหล่าทหารอสูรทั้งหลาย จงปักหลักตั้งมั่น เตรียมรับการปะทะของข้าศึกให้จงดี”
นัตมหาคีรี ระเบิดเสียงหัวเราะ ดังออกมาด้วยความหมั่นเขี้ยว สะใจ และขบขัน ยาวนาน..
ในขณะที่พลหอกทั้งสองแถว รวมถึงพลทหารประจัญบาน ..พากัน แปลงสภาพขาและเท้าของตนให้กลายเป็นรากไม้ยาว หยั่งลึกลงไปยึดเกาะ ใต้ดิน เพื่อปักหลักตั้งมั่นรอรับการปะทะ ของสมิงไพรหนุ่มและเหล่าหุ่นพยนต์..
..
..
#ระยะ๕๐วา(ราว 100 เมตร) ก่อนถึงระยะประจัญบาน,
ยิ่งสมิงไพรหนุ่มเร่งฝีเท้าม้า เข้าใกล้ระยะประชิด แถวอสูรพลหอก..
สมิงไพรหนุ่ม ก็ยิ่งเหยียดแขนขวาให้สูงขึ้น ..และกระตุกมือซ้ายบังคับม้าของตนให้ม้าวิ่งเร็วขึ้นอีก
“มะตีฮะ บัดนี้ จงสั่งหุ่นพยนต์ที่เป็นเสมือนปีกขวา..
ให้หุบปีกขวาลงเช่นเดียวกับปีกซ้าย แล้ววิ่งตามหลังม้าของเรา ..ให้เป็นแถวยาว
ราวกับลูกศรที่กำลังพุ่งเข้าหาเป้าหมาย..
แล้วจงรอฟังสัญญาณ กลศึกต่อไปของอาจารย์เถิด..”
“เจ้าค่ะ.. อาจารย์” มะตีฮะเอ่ยตอบสมิงไพรหนุ่ม พลางขมวดคิ้ว และเอ่ยพระคาถากำกับเหล่าหุ่นพยนต์อีกครั้ง..
..
..
..
และในทันที ที่สมิงไพรหนุ่มเปลี่ยนริ้วกระบวนทัพ แนวปีกกา เป็นริ้วกระบวนลูกศร
นัตมหาคีรี เหล่านาย
กองอสูร พลหอก และเหล่าทหารประจัญบาญก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น ให้กับภาพเบื้องหน้า ที่เป็นดังการคาดการณ์ของนัตมหาคีรี..แม่ทัพของตน
..
..
..
#ระยะ๑๐วา(ราว 20 เมตร)ก่อนเข้าประจัญบาน
จนเมื่อม้าของสมิงไพรหนุ่มกำลังล่วงใกล้เข้าระยะประจัญบาน ราว ๑๐วา..
สมิงไพรหนุ่ม ก็หัวเราะเบาๆ และเอียงศีรษะ พูดเบากับมะตีฮะอีกครั้งว่า..
“มะตีฮะ กลศึกต่อไป นั้นมีชื่อว่า ปิงฝ่าหยวนจีได้..”
มะตีฮะได้ฟังแล้ว ก็ทำตาโต แล้วเอ่ยถามอาจารย์ของตนว่า..
“มันคือ กลศึกอะไร นะเจ้าคะ..ต้องทำเช่นไรกันหรือเจ้าคะ อาจารย์..”
สมิงไพรหนุ่มเพ่งจ้องมองตรงไปยังดวงตาโตของนัตมหาคีรี พร้อมพูดตอบมะตีฮะ ด้วยเสียงอันดัง ว่า..
“จงฟังไว้..หัวใจของกลศึก ปิงฝ่าหยวนจีได้..”
“คือ..แข็งพึงเลี่ยงเสีย”
..
..
“หรือ หนี คือ สุดยอดกลยุทธ์ นั่นเอง ฮะฮะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
มะตีฮะ เบิ่งตาโต อ้าปากกว้าง เมื่อได้ฟังคำตอบ..
ขณะเดียวกัน มือของสมิงไพรหนุ่ม ก็ลดระดับลงและเหยียดชี้ไปทางซ้าย พร้อมกับเสียงคำสั่งที่ดังตาม ต่อมา ว่า..
“มะตีฮะ ..จงสั่งให้เหล่าหุ่นพยนต์ปีกซ้ายและ ขวาของเจ้า..เลี้ยวซ้าย ตามม้าของเรา ณ.บัดนี้..
และจงวิ่งตามม้าของเราให้ทันด้วยนะ ฮะฮะ ฮะ ..”
มะตีฮะน้อย ร้องเสียงหลงขณะบังคับเหล่า หุ่นพยนต์ให้เคลื่อนที่เลี้ยวซ้ายอย่างกระทันหันตามทิศทางที่สมิงไพรหนุ่มสั่ง..
“อา.. จ๋านนนน ใครสอนกลศึก..หนีคือสุดยอดกลยุทธ์ให้อาจารย์ กันนะเจ้าคะะ”
“ฮะฮะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า..
ท่านพี่โบตูระ.. บิดาของเจ้านั่นแหละ ที่เป็นคนสอนข้า..
ฮะฮะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า..”
สมิงไพรหนุ่ม เอ่ยตอบลูกศิษย์รัก พร้อมกับกุมบังเหียนบังคับม้าให้เลี้ยวซ้ายในทันที..
จากนั้นจึงระเบิดเสียงหัวเราะดังยาวนาน กลบเสียงหัวเราะของทัพอสูร ..
ที่บัดนี้ .. กำลังอ้าปาก ตกตะลึงกับภาพที่เห็น..
ด้วยว่า..เมื่อหุ่นพยนต์เหล่านั้น ตีวงเลี้ยวซ้ายตามมา อย่างกระทันหัน..ก็ทำให้ร่างของหุ่นพยนต์ฝั่งปีกขวา ชนกระทบ และกระแทกกับร่างของหุ่นพยนต์ปีกซ้าย อย่างแรง..
จนคล้ายกับการตีหินไฟ ..
ที่ทำให้เกิดเปลวเพลิงอาคมที่อยู่บนร่างของหุ่นพยนต์ ยิ่งลุกโชน ..
และเกิดสะเก็ดไฟอาคมกระเด็นตามลม ปลิวลอยตามแรงกระแทก และแรงส่ง ..ของการตีวงเลี้ยวซ้าย
คล้ายกับลูกเห็บเพลิง พุ่งเข้าหาแถวพลหอก ..ในทันที..
และยังต่อเนื่อง ลุกลาม ไปทั่วทั้งแถวพลหอกทั้งสองแถว และพลทหารราบ ที่ได้ฝังรากยึดติดกับพื้น..
ไฟอาคมที่ลุกลามนั้น ได้แผดเผาทำลายเหล่าทหารอสูร จำนวนมาก และยังลุกโชนเกิดควันไฟบดบัง การมองเห็นของนัตมหาคีรี และเหล่านายกอง..
อีกด้วย..
นัตมหาคีรี อ้าปากค้าง มองภาพความหายนะที่ปรากฏขึ้นตรงหน้า อย่างไม่เชื่อสายตา..
ควันไฟ และความวุ่นวายของทหารอสูรที่ถูกแผดเผา ทำลายลง ..ส่งเสียงหวีดร้อง โหยหวน ยิ่งทำให้นัตมหาคีรีโกรธ และรู้สึกเจ็บแค้น อับอาย อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน..
นัตมหาคีรีจึงลุกขึ้นยืน และแผดเสียงตะโกน ว่า..
“จงเปิดทางให้ข้า และทัพหลักออกไป จัดการกับพวกมันบัดเดี๋ยวนี้..”
..
..
..
สมิงไพรหนุ่มบังคับม้าของตนให้เลี้ยวขวาอีกครั้งเมื่อ สิ้นสุดแถวพลหอก..โดยห่างออกไปจากนัตมหาคีรี ราว ๒๐ เส้น..และห่างจากประตูเมืองบังบดเพียง ๔๐ เส้น
ในขณะที่เหล่าหุ่นพยนต์ ก็วิ่งเร็วตามติด และส่งเสียงร้องจิ๊บ จ๊าบ ดังระงม..อย่างสนุกสนาน เมื่อไฟบนตัวของตนค่อยๆมอดดับลง..
สมิงไพรหนุ่มหันกลับไปมองเปลวเพลิงที่กำลังโหมลุกโชน ..รุนแรงเผาผลาญกองทัพอสูร ..อยู่เบื้องหลัง
พลางชะลอฝีเท้าม้าให้ช้าลง และ เอ่ยสอนมะตีฮะ ถึงกลศึกต่อจากนี้ ว่า..
“กลศึกจากนี้ มีชื่อว่า ล่อช้างป่า..ราชปัญญา..
ผี้ศึกมาคะคึก..ศึกครั้นหนีทีไล่..บ่ค่อยไต่ค่อยตาม..
1
ลามปามแล่นไล่มา ให้แทงหาขุมขวาก..พากที่เหวที่ตม.. แต่งให้ล้มหลุมขุม..”
สมิงไพรหนุ่ม กล่าวจบ ก็ได้ประนมมือตั้งจิต กล่าวสวดอัญเชิญ ปัญจสิขเทพบุตร ..อีกครั้ง..
จนร่างของ ปัญจสิขเทพบุตร ค่อยๆปรากฏอย่างช้าๆ บนหลังม้าของสมิงไพรหนุ่ม..
ปัญจสิขเทพบุตร ลืมตาขึ้นมองสมิงไพรหนุ่มและมะตีฮะ ด้วยสีหน้าอึดอัด มึนตึงก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วพูด ว่า..
“โอยยย อย่าให้ข้าต้องมาข้องเกี่ยว กับการศึกสงครามเช่นนี้ได้หรือไม่ สมิงไพรหนุ่ม..
ข้า คือ เทพคนธรรพ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรี ไม่ใช่เทพสงคราม นะ..เจ้าลืมแล้วหรือ อย่างไร? ”
สมิงไพรหนุ่ม ยกมือขึ้นไหว้ปัญจสิขเทพบุตร ครั้งหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยตอบ พร้อมกับชี้มือไปทางประตูเมืองบังบด..
“มิได้ขอรับ ..กระผม มิได้จะให้ท่านปัญจสิขเทพบุตร มาช่วยร่วมรบ ในศึกครั้งนี้เลยจริงๆนะขอรับ..
กระผม เพียงแต่อยากขอให้ท่านปัญจสิขเทพบุตร ช่วยพาลูกศิษย์ของกระผม ผ่านเข้าประตูเมืองลับแลตรงโน้น เพื่อไปพบมารดาของนาง เพียงเท่านั้นเองขอรับ..”
ปัญจสิขเทพบุตร ส่ายหน้า และเอ่ยตอบสมิงไพรหนุ่มในทันที..
“แหม่ แหม่ แหมมม.. กำนัลข้าด้วยหน่อมะกลีผล เล็กๆ เพียงหน่อเดียว ก็ใช้ข้า เสียคุ้มเลยนะ เจ้าสมิงไพรหนุ่ม
1
พอแล้ว ข้าไม่ขอเอาตัวมาเสี่ยง กับเจ้าอีกแล้ว.. ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว..”
สมิงไพรหนุ่มพยักหน้ายิ้ม อย่างเข้าใจ และค่อยๆดึงย่ามอาคมของตน ออกจากคอ แล้วยื่นส่งให้ปัญจสิขเทพบุตร อีกครั้ง..
“กระผมเข้าใจเลยขอรับ
มักกลีผลหน่อเล็กๆเพียงหน่อเดียว มันไม่คุ้มจริงๆ ขอรับ..
1
แต่ถ้าของถวาย คือ เมล็ดมักกลีผล สองกำมือ หน่อมักกลีผลอีก 10 หน่อ และมักกลีผลแห้ง 1 นาง ละขอรับ..
1
พอจะช่วยทำให้ท่าน พาเด็กตาดำๆ ให้ไปพบมารดาของนางที่ประตูบังบดอีกฝั่ง และพานางกลับคืนสู่ยุคสมัยปัจจุบันของนางอย่างปลอดภัย ได้หรือไม่นะขอรับ..”
เมื่อปัญจสิขเทพบุตร หยิบย่ามนั้นเปิดออก ถึงกับต้องชะงักตกตะลึงกับของกำนัลถวายที่ปรากฏในย่ามนั้น..
จนต้องรีบปิดย่ามนั้นเสีย แล้วเงยหน้ากลับมามองสมิงไพรหนุ่ม แล้วพูดตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า..
“การช่วยพาบุตรน้อยที่หลงหายพลัดพราก.. กลับไปพบมารดา นั้น.. นับเป็นกุศลและบารมี ที่ควรสะสมยิ่ง..
2
ดังนั้น ข้ายินดีจะช่วยเจ้าอีกครั้งในเรื่องนี้นะ เจ้าสมิงไพรหนุ่ม..
ข้า ปัญจสิขเทพบุตร ขอให้คำมั่นสัญญากับเจ้าว่า..
จะพาลูกศิษย์ของเจ้าผ่านประตูเมืองบังบดไปพบกับมารดาของนาง และพานางกลับสู่ยุคสมัยปัจจุบันของนางอย่างปลอดภัย”
..
..
..
“ไม่นะเจ้าคะ “
..
“อาจารย์ อย่าทำเช่นนี้เลยนะเจ้าคะ.. ข้าขออยู่ช่วยสู้ศึกนี้ต่อกับอาจารย์เจ้าค่ะ..”
เสียงแหลมใสของมะตีฮะ เอ่ยดังขึ้น ขัดจังหวะการสนทนาของสมิงไพรหนุ่ม..
สมิงไพรหนุ่มเอียงศีรษะ หันมองดวงตาแดงคู่นั้นของมะตีฮะ แล้วพูดขึ้นว่า..
“มะตีฮะ.. ขอเจ้าจงอย่าให้อาจารย์ต้องลำบากใจ และเป็นผู้ผิดคำสัญญาเลย..
บัดนี้ อาจารย์ได้พาเจ้ามาจนเกือบจะได้พบมารดาของเจ้าตามสัญญาที่อาจารย์ได้ให้ไว้กับพี่โบตูระ และเจ้าแล้ว ..
แต่เนื่องด้วยอสูรร้ายหัวล้านเลี่ยนผู้เป็นแม่ทัพของเหล่าอสูรผู้นี้ .. ย่อมมิยอมตัดใจเลิกราการติดตามอาจารย์โดยง่าย..
มันคงจะตามติดเราเช่นนี้ต่อไป เรื่อยๆ เป็นแน่..
ดังนั้น หากอาจารย์พาเจ้าไปพบมารดาที่ฟากโน้นต่อด้วยตัวเองอีก..ก็เกรงว่าอาจจะนำภัยไปสู่พี่มะซานดา ตัวเจ้าและเหล่าชาวมอญอพยพอีก..
อาจารย์จึงได้อัญเชิญท่านเทพปัญจสิขเทพบุตร และถวายเครื่องบูชา ขอท่านเทพ ให้สัญญากับอาจารย์ ว่าจะเป็นผู้พาเจ้า ไปพบพี่มะซานดา..จนถึงนำเจ้ากลับคืนในสมัยปัจจุบัน..
อันสัจจะ สัญญาของเหล่าคนธรรพ์นั้น เทียบเท่ากับคำสัญญาของครุฑและยังนับว่าสูงกว่าคำสาบานของเหล่านาคอีกด้วย..
1
เช่นนั้นแล้ว ขอเจ้าจงไปกับ ท่านปัญจสิขเทพบุตร เพื่อพบพี่มะซานดา โดยเร็วเถิด
เพื่อข้าจะได้สำเร็จตามคำสัญญา..”
..
..
มะตีฮะ ยกแขนเสื้อขึ้นปาดน้ำตาแล้วพูดตอบ ว่า..
“อาจารย์.. สัญญากับข้าเรื่องนึงก่อน..นะเจ้าคะ
ข้าถึงจะยอมไปกับท่านเทพปัญจสิขเทพบุตร..
ข้ารู้ว่า อาจารย์ของข้าเป็นคนรักษาสัญญาอย่างที่สุด..
ดังนั้นอาจารย์ต้องสัญญากับข้านะเจ้าคะ ว่า..
อาจารย์..ต้องห้ามตาย..นะเจ้าคะ..”
สมิงไพรหนุ่มหยิบปืนคู่ใจขึ้นมาตั้งประทับท่ายิง ..เมื่อสังเกตเห็นนัตมหาคีรี และทัพหลัก ย่างเท้าก้าวออกมาจากกองเพลิง..
พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดู และตอบศิษย์รัก ว่า..
“ฮะฮะ ฮะ ทุกคนเกิดมา ล้วนต้องตาย ไม่มีใครหลีกพ้นได้ .. ถ้าเช่นนั้นแล้ว ข้าคงจะสัญญากับเจ้าในเรื่องนี้ ไม่ได้ดอก มะตีฮะ ..”
มะตีฮะพยายามกลั้นน้ำตาอย่างที่สุด แล้วยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตาอีกครั้ง ก่อนที่จะเอ่ยขออาจารย์ อีกครั้งว่า
“ฮึก ฮึก.. ถ้าเช่นนั้น อาจารย์ต้องสัญญากับข้า ..นะเจ้าคะ
ว่า อาจารย์จะต้องรักษาชีวิต ไม่บ้าระห่ำสู้จนตัวตาย และต้องรอดจากทัพอสูรในครั้งนี้ และ..และ..ต้องกลับไปพบข้าอีกครั้ง .. นะเจ้าคะ
อาจารย์สัญญา กับข้านะ เจ้า คะ..ฮึก ฮึก..ฮึก..”
1
สมิงไพรหนุ่ม พยักหน้าตอบรับมะตีฮะ โดยไม่ละสายตาจากเป้าที่เล็งไว้..
..
..
“ฮือ ฮือ อาจารย์ พูดสัญญากับข้าก่อน ..สิเจ้าคะ”
มะตีฮะ ร้องสะอื้นขอ พลางยกมือขวาขึ้นปาดน้ำตา และยกนิ้วก้อยขึ้นชูตรงหน้าไปทางสมิงไพรหนุ่ม..
..
..
“ฮื่อ .. ข้าสัญญา..”
สมิงไพรหนุ่มพูดตอบมะตีฮะเบาๆ พร้อมยกนิ้วก้อยขวา ขึ้นตอบ ให้ลูกศิษย์รักได้เห็น..
ในขณะที่ค่อยๆใช้นิ้วชี้เหนี่ยวไก ยิง .. ยิงเข้าที่ศีรษะอันล้านเลี่ยนของนัตมหาคีรี..
1
“จงรีบไปกันได้แล้ว มะตีฮะ..
แล้วจงไปรอพบอาจารย์ ที่ประตูเมืองบังบดเขตป่าเมืองลำพูน.. อาจารย์ให้คำสัญญาเจ้าแล้ว..”
..
..
ท่านปัญจสิขเทพบุตร โอบแขนอุ้มมะตีฮะ ที่กำลังเช็ดน้ำตาและก้มเขียนมนต์อาคมลงบนฝ่ามือ สั่งเหล่าหุ่นพยนต์..
มะตีฮะเงยหน้าขึ้น และกางนิ้วมือขวา ให้สมิงไพรหนุ่มเห็นอักษรเขียนกลับด้านคำว่า
“ ร อ “ บนฝ่ามือ..
1
จากนั้นก็เอาฝ่ามือซ้าย มากางชิดกับมือขวา
ทำให้อ่านรวมกันได้ว่า
“ ร อ..ด”
1
ขณะที่หุ่นพยนต์ทั้งหลายต่างก็ชูมือ ตอบรับคำสัญญากับมะตีฮะ และส่งเสียงแหลมเล็กร้องพร้อมกันว่า..
“ร๊..อ..ดๆๆๆๆๆๆ”
..
..
“ต้องมีชีวิตรอด กลับไปเจอข้าอีก นะเจ้าคะ อาจารย์..”
มะตีฮะ โบกมือทั้งสองข้างให้สมิงไพร และตะโกนพูดทั้งน้ำตา ในขณะที่ท่านเทพปัญจสิขเทพบุตร ค่อยๆพาบินลอยห่างออกไป..
..
..
จบบทที่ 2ตอนที่ 8
..
..
#เกร็ดเพิ่มเติม
#ยุทธวิธีแนวปีกกา
ยุทธวิธีแนวปีกกาเป็นยุทธวิธีของเหล่าทหารม้าของพระยาตากที่ใช้ตีทัพพม่าที่ไล่ติดตามมา ในวันอาทิตย์ เดือนยี่ ขึ้นห้าค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๘ ปีจอ..
โดยวางกำลังพลเหมือนนกกาที่กำลังบิน โดยปีกสองข้างจะโอบเข้าหาข้าศึก ตรงกลางส่วนหัวของนกกา จะเป็นทหารม้า๔ ม้าของพระเจ้าตาก.. ซึ่งผลของชัยชนะครั้งนี้ จึงได้ตั้งชื่อคลองว่า “คลองชนะ”
สำหรับกลศึกอื่นๆที่ปรากฏในตอนนี้ ขอยกไปเล่าในเรื่องเก่าเล่าสนุกในตอนต่อๆไปนะครับ..
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
18/4/2021
..
..

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา