29 เม.ย. 2021 เวลา 03:43 • ความคิดเห็น
ชีวิตเลือกได้
2
หากเรารู้ว่ามันเลือกได้
2
ไม่จำเป็นต้องทำตามใคร
Photo by Laker from Pexels
วิธีการแก้กรรรมที่ตัดตรงเข้าไปที่การพ้นทุกข์
คือ การปฏิบัติตามข้อปฏิบัติเพื่อให้ถึงซึ่งทางสายกลาง
นั่นคือ อริยมรรคมีองค์แปด
เป็นเส้นทางเดินเฉพาะบุคคล
ไม่มีซ้ำกันเลย
จับหลักให้แม่น แล้วเดินตรงไปเอง
หลากหลายบทเรียนของแต่ละบุคคล
ย่อมสอนใจแต่ละดวง
ให้เกิดการเรียนรู้ที่แตกต่างกันไป
2
อย่าให้มีคำว่า "ใคร ๆ ก็เป็นกัน" โผล่ขึ้นมา
เพราะนั่นคือ เครื่องหมายของการปลอบใจตัวเอง
ใครจะเป็นยังไง เป็นเรื่องของใคร ๆ
และใคร ๆ ที่อ้างถึง
ส่วนใหญ่ คือ ปุถุชนที่หนาไปด้วยกิเลส
ยังจมอยู่กับความทุกข์ร้อนใจ
2
ให้รู้ตัวเองให้มาก
รู้ถึงต้นสายปลายเหตุในทุก ๆ การกระทำของตัวเอง
1
ในเมื่อทุก ๆ การกระทำ
ย่อมส่งผลกระทบอะไรบางอย่าง
1
การกระทำนั้น ๆ จึงต้องประกอบด้วยสติ สัมปชัญญะ
เพื่อไม่ให้กลายเป็นการกระทำที่มัวเมา
แล้วต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
คอยแก้ไข แก้กรรม หรือ รอเวลาเยียวยา
1
จิตที่ยังประกอบด้วย โลภะ โทสะ โมหะ
ส่งผลให้ทุก ๆ การกระทำ
ก่อให้เกิดความทุกข์ใจ
จึงมี "ความรู้สึก" ว่ากำลัง ก่อกรรมทำเข็ญ
สร้างภพ สร้างชาติ
จิตที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ
การกระทำนั้น ๆ จะสะอาดบริสุทธิ์
ไม่ก่อให้เกิดความทุกข์ใจ
จึงไม่มี "ความรู้สึก" ว่าต้องรับกรรมอะไร
ดังนั้น
การฟอกจิต
ทำจิตให้ผ่องใส
อบรมบ่มเพาะ ศีล สมาธิ ปัญญา
จึงทำให้จิตใจขาวรอบ บริสุทธิ์ผุดผ่อง
พ้นไปจากทุกข์ทั้งปวงได้
จิตวางจิต นั่นคือ ขั้นสุดท้ายแล้ว
ก่อนหน้านั้น ก็จะมีความรู้สึกว่ามีจิตอยู่
ใช้จิตนี้แหละ ในการเรียนรู้ตัวเอง ชำระตัวเอง
ในยุคปัจจุบัน
ที่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
การเข้าหาครูบาอาจารย์ อริยบุคคล
ที่ท่านเคยผ่านเส้นทางเดินแห่งการพ้นทุกข์มาแล้ว
จึงสามารถชี้แนะ
จุดที่ควรระวัง จุดที่เกิดข้อผิดพลาดได้บ่อย ๆ
เพราะ การจะเดินออกจากความเคยชินเดิม ๆ
ไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่าย
เราจะเคยชินในการทำแต่เรื่องเดิม ๆ
ไม่กล้าทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกเดิม ๆ ที่สะสมไว้
เนื่องจากสวนทางกับสังคมส่วนใหญ่
จะเกิดความลังเลสงสัย
มันคือ ทางที่ใช่ จริงมั้ย
จะเกิดความพ้นทุกข์ได้จริง ๆ หรอ ฯลฯ
ต่อเมื่อเริ่มปฏิบัติเอง
เริ่มเห็นผลแห่งการปฏิบัติ
ทุกข์น้อยลงไปทุกที
และได้รับคำชี้แนะ คำสอน คำบอกเล่า ประสบการณ์
ของผู้ที่เคยเดินผ่านไปแล้ว
จะเสริมสร้างกำลังใจ
ความมั่นใจ
ว่า ปลายทาง คือ ความพ้นทุกข์ จริง ๆ
ครูบาอาจารย์ท่านมักจะพูดถึงแก่นเป็นเสียงเดียวกัน
แม้จะอยู่กันคนละที่ คนละเวลา
แตกต่างกันเพียงเรื่องราว
เรื่องเล่า ที่ไม่มีซ้ำกันเลย
ธรรมะ คือ ทางรอดเพียงทางเดียว
ในการพ้นทุกข์
หลักธรรม คือ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ประสบการณ์ต่าง ๆ จากครูบาอาจารย์
เป็นตัวส่งเสริม
สุดท้ายแล้ว
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คือ สิ่งเดียวกัน
เมื่อครั้งที่เข้าสู่การปฏิบัติธรรม แรก ๆ
มันเหมือนก้าวเข้าสู่การเรียนรู้ครั้งใหม่
มีแต่เรื่องที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยได้ยินได้ฟัง
ทุกสิ่งแปลกใหม่ไปหมด
บางครั้งก็มีความรู้สึกแปลกแยก
ต่อเมื่อเดินทางไปเรื่อย ๆ
ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมมากขึ้น
ปฏิบัติภาวนามากขึ้น
ก็รู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา ทั่ว ๆ ไป
ไม่ได้แปลกแยกอะไร
มันคือ การหลอมรวมเข้ากับธรรมชาติ
เมื่อก่อนต่างหาก
ที่เราพยายามแยกตัว
ฝืนตัว ฝืนใจ ดิ้นรนออกไปจากอ้อมกอดของธรรมชาติ
การปฏิบัติธรรม
จึงหมายถึงการกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้
ที่ตอนแรกเกิดจากความไม่รู้
วิ่งออกไป พยายามฝืนความจริงของธรรมชาติ
1
ที่เราเคยคิดว่ามัน คือ การฝืนตัวเอง
สวนทางกันคนหมู่มาก
จริง ๆ แล้ว คือ การยอมรับความจริงของธรรมชาติ
ไม่ใช่การฝืนธรรมชาติแต่อย่างใดเลย
1
ที่รู้สึกต้องฝึก ต้องฝืน เพราะสร้างภาระขึ้นมาในใจเอง
เรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย
มีแค่ทุกข์ กับ ไม่ทุกข์
ชีวิตทุกคนเลือกได้ ว่าจะทุกข์ หรือ ไม่ทุกข์
อยู่ที่การฝึกฝนเรียนรู้ความจริง
รู้เท่าทัน
รู้ลงปัจจุบัน
ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะ
เมื่อสามารถอยู่กับปัจจุบันขณะได้อย่างแท้จริง
จะพบว่า แม้แต่ปัจจุบัน
ก็เคลื่อนผ่านไปเรื่อย ๆ
ปัจจุบัน ก็กลายเป็นอดีตไปอยู่ตลอดเวลา
อนาคต คือ ผลผลิตของแต่ละปัจจุบันขณะ
ล้วนเคลื่อนตัวไป
จะไม่ยึดถือแม้ในอดีต อนาคต
และปัจจุบัน
ไม่มีใคร 🍃
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา