19 เม.ย. 2021 เวลา 09:45 • สุขภาพ
มองต่างมุมหรือมองคนละมุม " ปกปิดข้อมูลเพราะกลัว จะถูกตั้งข้อรังเกียจหรือได้รับการปฏิบัติที่แตกต่าง " ในการระบาดโควิดครั้งนี้ที่
ไทยขึ้นแท่นการระบาดอย่างรวดเร็วระดับโลก
cr:pptv36
มุมมองชาวบ้าน
รู้ทั้งรู้ หรือไม่รู้อะไรเลย เลือกไม่สนใจที่จะรับรู้หรือรับผิดชอบการกระทำ ตัวฉันต้องรอดเท่านั้น หรือถ้าจะต้องลำบากเจ็บป่วยก็ขอให้ฉันได้เลือกจะพัก รักษา จะขอกักตัวตามสถานที่ที่ฉันเลือกเท่านั้น ทำได้ด้วยเหรอ?
ตอนนี้เลือกไม่ได้แล้วนะ เพราะป่วยแต่ไม่กักตัว หรือไม่ระมัดระวังตัว
ไม่ตอบความจริงกับการคัดกรอง (บอกขอไปกักที่บ้าน อยู่คนเดียว หรือสองคนเท่านั้น ขออยู่บ้านนะ ไม่มีอาการ จริ้ง.....จริง.....แต่อะไรก็เกิดขึ้นกับคนไทย บอกว่าอยู่คนเดี่ยว แต่ก็แค่มีคนมาหาเพราะจำเป็น .....ไม่ได้ตั้งใจปิดบัง....ไม่จบ?)
สมใจได้อยู่บ้าน แต่ตอนนี้ก็กลายเป็นกระแส คือโรงพยาบาลทำอะไรไม่มารับซะที ใกล้แล้วนะ.....
อะไรคือเลือกไม่ได้หรือว่าจะเลือกได้ ระลอกนี้มีผู้รู้หลายท่านออกมา
บอกว่า "เอาไม่อยู่" เพราะมีการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว คนป่วยที่เคยคาดการณ์ว่าต้องเข้ามาอยู่ในสถานกักกันทุกคน เพื่อ ความปลอดภัย สังเกตอาการ และลดการแพร่เชื้อ อาจทำไม่ได้ เรากำลังจะอยู่ในภาวะวิกฤตการขาดแคลน เตียง เวชภัณฑ์ บุคคลากร และอื่นๆ เนื่องจากการเพิ่มของจำนวนผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องและกระจายออกไปตามจังหวัดต่างๆ
1
การห้ามปกปิดข้อมูลในการรักษา เพราะถ้าท่านป่วย มีอาการหรือไปสถานที่เสี่ยงมา มีไทม์ไลน์ที่สัมผัสเชื้อ จะด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ต้องบอกเจ้าหน้าที่ อย่าจงใจช่วยกันปกปิด เพราะสุดท้ายจากแค่กักตัว คนในครอบครัว อาจเป็นเหตุให้ กักตัวทั้งตำบล อำเภอ จังหวัด และทั้งประเทศได้ (ตอนนี้หลายประเทศคงออกประกาศห้ามคนไทยเข้าประเทศบ้างละที่นี้ และที่เคยชมก็ขอยกเลิกแล้วนะ)
แม้ท่านนายกจะใช้คำว่าไม่ล็อคดาวน์ ตอนนี้ก็ใกล้เคียงแล้วกับหลายพื้นที่ เพราะมาตรการณ์ที่กำหนด สำหรับคนที่เข้าข่ายก็ชัดเจนว่า บ้านใครบ้านมัน ใครฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
มุมมองเจ้าหน้าที่
เพราะอะไรถึงต้องปิดโรงพยาบาล เจ้าหน้าสัมผัสเสี่ยงสูง พื้นที่เสี่ยง
คนป่วยเจ็บด้วยโรคอื่นๆที่ไม่ใช่โควิดก็ห้ามเข้าเพราะโรงพยาบาลประกาศปิด เพราะทุกคนต้องกักตัว กักตัวแล้วไปไหน ฯลฯ ปัญหาอีกมากมายที่จะตามมา
cr: pptv36
การปิดโรงพยาบาลหลังจากเหตุการณ์นี้ คงยากที่จะกล่าวตำหนิ ผู้ป่วยหรือญาติที่ไม่ยอมบอกรายละเอียดให้ชัดเจน คงต้องมองย้อนไปอีกไกลตั้งแต่ชายคนนี้จะมุ่งกลับบ้านก่อนสงกรานต์ อะไรคือสิ่งที่หายไป อะไรคือความไม่ชัดเจน การจงใจปิดบังข้อมูล หรือมันคือพฤติกรรมของใครบางคนเมื่อเจ็บป่วย
มีสิ่งหนึ่งที่ต้องการบอกกล่าว ในภาวะวิกฤตที่อยู่ในระยะที่จะยื้อชีวิต
มีความจริงที่ว่า เจ้าหน้าที่จะระดมสรรพกำลังเพื่อช่วยเต็มที่ ให้ฟื้น
แต่เมื่อช่วยไม่ได้จริงๆ คือทำตามมาตรฐาน ขั้นตอนช่วยเหลือ 1.2.3.4.5
ในการช่วยฟื้นคืนชีพ แต่ไม่สำเร็จ
1
ผู้ให้การช่วยเหลือจะทำการประเมินขั้นสุดท้ายหลังให้การช่วยเหลือแล้วไม่ฟื้นแน่ จึงจะปล่อยหรือหยุดการช่วยเหลือตามที่หัวหน้าทีมสั่ง
สรุปทำอย่างไรก็ไม่ฟื้น จึงจะขอยุติการช่วยเหลือ ในเคสที่ให้การช่วยเหลือชายอายุ 56 ปี ที่กลับบ้านในจังหวัดบุรีรัมย์ตั้งแต่วันที่ 7 และมาปรากฏอาการวันที่11/4/64 ได้ปฏิบัติตัวตามขั้นตอนที่ได้รับคำแนะนำทุกประการ ก่อนเข้าพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์(แต่ไม่บอกใครว่ามาจากไหน
เพราะอะไรถึงไม่บอก คงมีเหตุผลที่จำเป็นจึงไม่บอก หรือเพราะอะไร
ภรรยาที่พักอาศัย ได้รับการตรวจแล้วชัดเจนว่าติดเชื้อ รวมถึงผู้สัมผัสในวงกว้าง จนต้องปิดหมู่บ้านเพื่อกักตัวทั้งหมด )
1
# ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต เห็นใจที่ต้องทุกข์ทรมาน
1
แต่ทำไมนะถึงปรากฏไทม์ไลน์ การซื้อยากินเอง การไปคลินิกเอกชน
ภรรยาตามรถ1669 เอง หมดสติ หยุดหายใจ เข้าโรงพยาบาล จนถึงเสร็จสิ้นกระบวนการ จึงได้ทราบจากภรรยาว่า เป็นพนักงานที่มาจากย่านสถานบันเทิง ที่กำลังเถิดเทิง ขึ้นชาร์จติดอันดับการระบาดที่เร็วที่สุดในโลกได้สำเร็จ
ในฐานะประชาชน เรากลัวอะไรกันถึงไม่บอกเจ้าหน้าที่
กลัวถูกปฏิเสธการรักษา กลัวถูกเลือกปฏิบัติ ถามใจเราดูว่า สมควรกลัวหรือไม่?
ถามใจเจ้าหน้าที่ ถ้าเราต้องให้การช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด เราจะเลือกปฏิบัติได้หรือไม่ ถ้าตอบว่าเลือกไม่ได้ แต่เราสามารถหามาตรการมาป้องกัน ปกป้องตัวเราเองอย่างเต็มที่ จะระแวงไว้ก่อนมันคุ้มหรือไม่ที่จะลงทุน (พูดยากจริงๆ)
เห็นใจเจ้าหน้าที่ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยในระยะวิกฤต
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉินในลักษณะนี้ขึ้นมาอีก เราพร้อมรับกับการป้องกันเต็มรูปแบบ แต่ไม่ใช่ความเสี่ยงที่จะติดโรคจากผู้ป่วยกันทั้งแผนก หรือทั้งโรงพยาบาล
เมื่อต้องเจอสถานการณ์วิกฤต ความร้อนรนการมุ่งช่วยเหลือ อาจทำให้ขาดความระมัดระวัง และกลายเป็นการกระจายเชื้อเป็นวงกว้าง ก็คงไม่ต่างกับสถานเถิดเทิงทั้งหลาย
เราอาจต้องเตรียมสถานที่ บุคคลากรที่พร้อมจะต้องถูกกักตัว และพร้อมที่จะได้รับการตรวจคัดกรอง ประเมินติดตามเป็นระยะ ใครพร้อมที่จะเป็นหน่วยกล้าตาย ที่อาจตายได้จริง (ไม่คิดเลยว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ประเทศไทย)
1
เจ้าหน้าอาจต้องยอมแยกกัก เพื่อสร้างความสบายใจให้กับตัวเอง และครอบครัวว่าไม่ใช่ผู้ที่จะกลับไปแพร่เชื้อให้ครอบครัวตัวเอง หรือชุมชน ต่อไป บุคคลากรและเจ้าหน้าที่ต้องเตรียมพร้อม เต็มที่ แม้ว่าสถานที่ของเราจะไม่มีรายงานก็ตาม
และท้ายที่สุด
ผู้ป่วยหรือผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำทั้งหลายต้องรู้ตัวเอง
ว่าควรทำอย่างไร เพื่อไม่ให้ผู้อื่นมาติดเชื้อหรือเสี่ยงกับเรา
เราอาจแข็งแรงไม่มีอาการ แต่คนที่มาใกล้ชิดหรือสัมผัสเราอาจไม่ใช่
การเดินทางในช่องทางสาธารณะ การกินอาหารในร้านสาธารณะที่ใครก็ไปกินได้ เราไม่ปิดประเทศหรือเศรษฐกิจ เพราะเรากลัวอดตายขาดรายได้มันก็ตาย แต่อะไรคือจุดเปลี่ยนที่จะรอดมากกว่ากัน ใครช่วยเลือกให้ที
เราควรปิดอะไรก่อนดี
ความเห็นแก่ตัว ความประมาท ความไม่รู้ ไม่ตระหนัก ไม่สนใจ
การ์ดอย่าตก อุปกรณ์พร้อม สถานที่พร้อม ประชาชนก็พร้อมที่จะบอกความจริง และถ้าข้อมูลไม่ชัดเจน ก็ป้องกันเต็มที่ไว้ก่อน
เพราะตอนนี้ถ้าหยุดจำนวนผู้ติดเชื้ออไม่ได้ และยอดพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง
ไม่นานเราทุกคนอาจต้องเผชิญกับความจริง หยุดคิดว่าเดี๋ยวมันจะผ่านไป
พร้อมๆกับที่มันจะผ่านไป มันอาจพาคนที่เรารักหรือตัวเราเองไปด้วยก็ได้ใครจะรู้
ทำดีที่สุดเพื่อทุกคนจะได้รอด
ความจริงที่มาเยือนคนไทย ทุกชีวิต ไม่ว่าจะรวยจะจน จะโลโซ หรือไฮโซ มีชื่อเสียงหรือชื่อเสีย ทุกคนต่างได้รับผลจากโควิดรอบนี้กันถ้วนหน้า
พร้อมที่จะปกป้องตัวเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ หรือยังถ้าต้องเลือกจะปกป้องอะไร ก่อนดีนะ คิดดีๆ
การหยุดการแพร่เชื้อที่ดีที่สุด ตอนนี้คือประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกับภาครัฐลดจำนวนผู้ป่วย ด้วยการลดสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง
และที่สำคัญลดการเดินทาง รักษาระยะห่าง สวมหน้ากาก 100%บ้านใครบ้านมัน
ต้องหยุดให้ได้ ไม่ใช่ตัวใครตัวมัน ใครใคร่ค้า ค้า ใครใคร่ไป ไป
ไม่ได้แล้วนะ หยุดอยู่บ้าน รู้ตัวกันเถอะอย่าให้เรากลายเป็นผู้ก่อคลัสเตอร์เสียเอง จำนวนเตียงที่จะช่วยผู้ป่วยวิกฤตที่เคยบอกว่า เอาอยู่ ในจำนวนเตียงเท่าเดิม แต่คนป่วยกลับเพิ่มด้วยอัตราทวีคูณ ใครจะไปเอาอยู่กัน
เจ้าหน้าที่เองก็ป่วยกันระนาว เพราะปฏิบัติหน้าที่ แล้วใครจะดูแลใคร
อย่าให้ต้องเลือกทางรอดเลย มันเจ็บปวดทรมานนนนนนน
1
ขอบคุณภาพจาก
pptv36
reference
โฆษณา