22 เม.ย. 2021 เวลา 06:50 • กีฬา
สตีฟ แฮร์ริส : มือเบส IRON MAIDEN กับเบื้องหลังนำชื่อวงไปอยู่บนอกเสื้อเวสต์แฮม | MAIN STAND
ในรอบ 5 ปีหลังที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า "เสื้อวง" ของวงดนตรีเฮฟวี่เมทัลระดับตำนานอย่าง IRON MAIDEN ได้ก้าวข้ามจักรวาลเสื้อวงไปอยู่ในแวดวงของเสื้อแฟชั่น และถูกสวมใส่โดยเซเลปฯ อย่าง จัสติน บีเบอร์, เลดี้ กาก้า, ไมลี่ย์ ไซรัส และ คานเย่ เวสต์ มาแล้ว
 
อย่างไรก็ตามโลโก้และฟอนต์ประจำวง Iron Maiden ยังคงไม่หยุดการเดินทางข้ามจักรวาลง่ายๆ ล่าสุดโลโก้ Iron Maiden ได้ปรากฎบนชุดเยือนของทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
คำถามคือ ถ้าพวกเขาอยากข้ามจักรวาล ทำไมพวกเขาจึงต้องเลือก เวสต์แฮม ทั้ง ๆ ที่มีทีมใหญ่กว่า และฐานแฟนบอลทั่วโลกมากกว่า อีกหลากหลายทีม ?
และนี่คือเรื่องราวของ สตีฟ แฮร์ริส มือเบสของวง ที่มีอีกด้านหนึ่งของชีวิตในฐานะ Die Hard แฟนของทัพชุนค้อนแห่งลอนดอน ... จากเริ่มจนเส้นทางมาบรรจบเป็นเช่นไร ติดตามได้ที่นี่
เรื่องทั้งหมดเริ่มจาก แฮร์ริส
สตีฟ แฮร์ริส คือหนึ่งในมือเบสสายเมทัลที่เอกอุที่สุดในช่วงเวลาของเขา ทุกครั้งที่มีคนถามว่าเขาทำอย่างไรจึงมีฝีมือยอดเยี่ยม และมีลีลาการเดินเบสที่เขย่าถึงขั้วหัวใจจนสามารถควบคุมจังหวะของวง Iron Maiden ได้ดีขนาดนั้น คำตอบของ แฮร์ริส คือ "ดนตรีไม่ใช่งาน แต่มันคือชีวิต" นั่นคือสาเหตุที่เขาสามารถฝึกซ้อมเบสได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่มีเบื่อ ... และแน่นอนว่าการทำแบบเดิมซ้ำ ๆ เป็น 10 ปีคือเบื้องหลังความสำเร็จในฐานะนักดนตรีระดับโลกของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
Photo : @LitdelNATO
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดเกือบจะโดนบิดเส้นเรื่องและเปลี่ยนประวัติศาสตร์วงการดนตรีไปแบบเฉียดฉิว หากย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เขายังเด็กและเขาเลือกฟุตบอลเสียก่อน Iron Maiden อาจจะไม่ได้เป็นวงดนตรีระดับตำนานเหมือนทุกวันนี้ก็ได้
สตีฟ จัดว่าเป็น ลอนดอนเนอร์ หรือเด็กที่เกิดและโตในเมืองหลวงของอังกฤษขนานแท้ การเติบโตในเมืองที่มีสโมสรฟุตบอลล้อมรอบมากมาย และเกิดในประเทศที่มีวัฒนธรรมที่ผูกชีวิตกับฟุตบอล ทำให้ สตีฟ แฮร์ริส เป็นเด็กบ้าบอลตั้งแต่จำความได้ โดยเฉพาะสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ครอบครัวของเขาเป็น Die Hard แฟนกันแทบทั้งบ้าน
แฮร์ริส เล่าเรื่องราวในวัยเด็กของตัวเองว่า เขาเริ่มเตะบอลก่อนจะเล่นดนตรีด้วยซ้ำ หนำซ้ำเส้นทางสายลูกหนังยังเดินทางมาหาเขาก่อนที่จะจับเบส และตั้งวงดนตรีวงแรกอีกด้วย
"ผมน่ะโคตรบ้าบอลยิ่งกว่าใคร ผมอ่านหนังสือและสกู๊ปที่เกี่ยวกับเวสต์แฮมอยู่ทุกวัน ผมเข้าชมเกมในสนามแบบแทบไม่เคยพลาด และเล่นฟุตบอลทุกวันให้กับทีมท้องถิ่นที่ชื่อว่า เมลเบิร์น สปอร์ต ซึ่งตอนนั้นที่ผมอายุได้ 14 ปี ก็มีแมวมองชื่อว่า วอลลี่ เซนต์ ปิแอร์ มาพบกับผม เขาบอกว่า 'สนใจไปคัดตัวกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไหม ?' ช็อกเลย อย่างกับหลอกกันแน่ะ เหมือนฝันที่จะได้เล่นกับเวสต์แฮม ทีมรักของผม" แฮร์ริส กล่าวเริ่ม
ได้เล่นฟุตบอลกับทีมรัก แถมยังได้เงินค่าจ้างด้วย ใครบ้างจะไม่เอา ? ... สตีฟ แฮร์ริส คนหนึ่งแหละที่กล้าปฏิเสธสิ่งนี้ สาเหตุที่เขาปฏิเสธไม่ใช่เรื่องใหญ่โต มันเป็นเรื่องตลกหากมาเล่าในตอนนี้ เขาใช้คำว่า "จิตวิญญาณของร็อคสตาร์" ที่มากระซิบข้างหูเขาว่า "ฟุตบอลมันไม่ใช่ทางของแกหรอก"
Photo : AFP
นักเตะเยาวชนของอคาเดมีสโมสรดัง ๆ นั้น เป็นที่รู้กันว่าต้องทุ่มเทกันสุดชีวิต โดยเฉพาะในรุ่นอายุ 14 ปี นั้นเป็นรุ่นที่ต้องได้รับการสอนด้านแท็คติกและเทคนิคอย่างเข้มข้นมาก เพราะอีกไม่กี่ปี พวกเขาจะพร้อมสำหรับการเป็นนักฟุบอลอาชีพแล้ว คนไหนที่ใจเหลาะแหละ ท้อง่าย หน่ายเร็ว เด็กคนนั้นก็ยากที่จะไปถึงฝันสูงสุดได้ เพราะมีเด็กอีกเป็นล้าน ๆ คนพร้อมจะแย่งชิงโอกาสที่มีค่าเหมือนดั่งตั๋วทองคำสู่พรีเมียร์ลีก
1
แค่คิดก็หนาวดึ๋ง สตีฟ แฮร์ริส รู้ทันทีว่าสันดานของเขามันร็อคเกินกว่าจะซ้อมเช้าซ้อมเย็น เข้านอนตามเวลา ตื่นมาก็มีแต่ฟุตบอล ... เขาอายุ 14 ปี กำลังเข้าสู่ช่วงอายุของวัยรุ่น ช่วงเวลาที่ว่ากันว่าสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ทำให้จดจำไปได้ตลอดชีวิต ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธมัน เพราะตัวเองมีทางที่ดีกว่านั้นคือ เอาเวลาไป "กินเบียร์" ดีกว่า ...
1
เบียร์เปลี่ยนชีวิต
"คุณคิดดูดิ ตอนนั้นอายุ 14 นะ กำลังซ่าได้ที่เลย ให้ผมไปทำอะไรในกรอบมันคงจะผิดวิสัยของตัวเองไปหน่อย ตอนนั้นที่ผมทำคืออยากจะออกไปดื่มเบียร์ พอให้ได้เมามายจนเห็นนกบินบนหัวสัก 2-3 ตัว และถ้าผมเลือกไปเป็นนักฟุตบอลก็คงจะลืมไปได้เลย ไม่มีใครปล่อยให้ผมออกมากินเบียร์จนเมาหยำเปตั้งแต่อายุ 14 หรอกคุณก็รู้" สตีฟ ว่ากันง่าย ๆ แบบนั้นเลย
Photo : Guardian
"แค่คิดก็ท้อแล้ว นอน 2 ทุ่ม ตื่นตี 5 ผมทำไม่ได้หรอก ต่อให้รักสโมสรแค่ไหน ผมว่าผมไม่สู้ดีกว่า" สตีฟ แฮร์ริส ที่ตอนนั้นเริ่มจะเป็นหนุ่มและหัดเป็นแฟนเพลงของ เดอะ บีทเทิลส์ กล่าว
เดิมทีเขาอยากจะเป็นมือกลอง เคยอ้อนพ่ออ้อนแม่ซื้อกลองชุดให้แต่มันมากเกินไป ทั้งแพงและบ้านเขาก็หลังเล็กจนไม่มีที่วาง แต่ แฮร์ริส ก็ไม่ถอดใจ ... เขาเลือก "เบส" เครื่องดนตรีที่พกพาง่ายกว่าเพื่อเติมความฝันในสไตล์ของวัยรุ่นที่กำลังอยากจะเท่ด้วยดนตรี
จากความอยากเท่กลายเป็นความชอบอย่างไม่รู้ตัว หลังฝึกซ้อมได้ 10 เดือน แฮร์ริส ก็เก็บเงินค่าขนมและเอามาซื้อเบสตัวแรก ซึ่งเมื่อมีเบสยี่ห้อ Fender รุ่น Precision ราคา 40 ปอนด์ เป็นของตัวเอง เขาก็ฝึกเล่นแบบจริงจัง และเล่นไปเล่นมา แฮร์ริส ก็รู้ว่า "นี่แหละสิ่งที่ชีวิตตามหา"
"ผมมาเวย์ของดนตรีจนได้เป็นมือเบสของ Iron Maiden ได้ไงน่ะเหรอ ? ก็ใจมันมาไง อาจเป็นเพราะดนตรีทำให้ผมใช้เวลากับมันพร้อม ๆ กับการกินเบียร์ได้ละมั้ง"
Photo : Kwejk
แฮร์ริส เริ่มเล่นในวงดนตรีที่ชื่อว่า Influence และต่อมากับ Gypsy's Kiss โดยเล่นในผับเสียเป็นส่วนใหญ่ ก่อนตัดสินใจก่อตั้งวง Iron Maiden ในวันคริสต์มาสปี 1975
แฮร์ริส คือสมาชิกคนแรกและเป็นแกนหลักของวง มีหน้าที่แต่งเนื้อเพลง และควบคุมการผลิตด้านดนตรี การได้มารวมตัวกับนักดนตรีอีกมากมาย ที่ผลัดเปลี่ยนเข้ามาในนามวง Iron Maiden เหมือนการเจอกับทีมฟุตบอลที่นักเตะในทีมเข้าขารู้ใจกันเป็นอย่างดี Iron Maiden ผลิตงานระดับ "มาสเตอร์ พีซ" ออกมาประดับวงการเฮฟวี่เมทัลมากมาย และ สตีฟ แฮร์ริส ก็ถูกขนานนามว่าหัวหอกของวงดนตรียุคโมเดิร์นของเกาะอังกฤษในเวลาต่อมา
1
เบียร์แก้วเดียวเปลี่ยนชีวิตของ สตีฟ แฮร์ริส ได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันพาเขามาเจอกับโลกอีกใบที่เขาพร้อมจะทุ่มเทสุดชีวิต และมันทำให้ทั่วโลกสรรเสริญเขา ซึ่งตัวของ แฮร์ริส บอกว่าแม้จะไม่ได้เป็นนักฟุตบอล แต่ที่สุดแล้วทั้ง 2 อาชีพก็มีความคล้ายคลึงกันไม่น้อย การเป็นนักดนตรียังคงมีกลิ่นอายที่ทำให้เขามีความสุขกับการเลือกเส้นทางนี้โดยแท้
"มันจะไปต่างอะไรกันมาก ฟุตบอลกับดนตรีมันก็คล้าย ๆ กัน นั่นคือคุณต้องลงเล่นต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก และการจะไปถึงจุดสูงสุดนั้นไม่มีทางลัด คุณต้องทุ่มเทและตั้งใจกับมันจริง ๆ ที่สำคัญคือ 2 อาชีพนี้เป็นอาชีพระยะสั้นเหมือนกันด้วย" แฮร์ริส ว่าเช่นนั้น และเขาไม่ได้พูดเล่น เพราะตลอดช่วงเวลาของการเป็นนักดนตรีระดับโลก สายเลือดของแฟนบอลผู้คลั่งไคล้ฟุตบอลและทีม เวสต์แฮม ยังคงหมุนเวียนในตัวเขาอยู่เสมอ ...
เพราะชีวิตขาดฟุตบอลไม่ได้
อัจฉริยะมักจะหาเรื่องต่างๆมาหยิบมาผสมกันได้เสมอ ตัวของ แฮร์ริส ที่เป็นนักดนตรีและนักแต่งเพลงเคยหยิบเอาแง่มุมเกี่ยวกับฟุตบอลมาใส่ในเพลงและกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเขา
Photo : Rock Roller
ในสมัยที่ Iron Maiden โด่งดังช่วงปลายยุค 70s เขาเคยแต่งเพลงที่ชื่อว่า Weekend Warrior (นักรบสุดสัปดาห์) ซึ่งเปรียบเทียบกับกลุ่มแฟนบอลเวสต์แฮมในยุคนั้นที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็น ฮูลิแกน (แฟนบอลอันธพาลหัวรุนแรง) แม้ว่าเขาจะไม่ใช่แฟนบอลสายโหดอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจกัน
นอกจากจะเป็นหัวหอกด้านดนตรียุคโมเดิร์นร็อคแล้ว แฮร์ริส ยังเป็นหัวหอกของกลุ่ม "นักดนตรีบ้าบอล" อีกด้วย เขาและเพื่อนสมาชิกจากวง Iron Maiden, Def Leppard, Scorpions และ Warlock ก่อตั้งทีมฟุตบอลที่ชื่อว่า Maiden FC ขึ้นมา เพื่อลงเล่นในเกมการกุศล ซึ่งตัวของ แฮร์ริส ก็ลงสนามแข่งขันด้วยตัวเองอยู่บ่อย ๆ
1
ทุกครั้งที่ใครสักคนถามแฮร์ริสเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอล และ เวสต์แฮม แววตาของเขายังคงเหมือนกับเป็นเด็กน้อยที่เป็นแฟนเดนตายของทีมเสมอ เขาเล่าเรื่องฟุตบอลและความคลั่งไคล้ในสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้เป็นวัน ๆ แบบไม่มีเบื่อ และเขายังหาเวลาเข้าไปเชียร์เกมในสนามเป็นประจำ หากไม่มีโปรแกรมสำคัญด้านดนตรี แฟนของ เวสต์แฮม ต่างรู้กันดีว่าพวกเขาสามารถพบ สตีฟ แฮร์ริส ได้เสมอ ที่อัพทัน พาร์ค ในอดีต และ ลอนดอน สเตเดียม ในปัจจุบัน
2
"ผมเชียร์ทีมบ่อยมาก ๆ แต่ไม่ค่อยยืนตะโกนโหวกเหวกเป็นจุดเด่นเท่าไหร่เพราะผมเป็นคนขี้เกียจ ชอบที่จะนั่งเชียร์มากกว่า ยกเว้นวันไหนบอลมันจะสนุกจริง ๆ ยกเว้นเกมกับ อาร์เซนอล ในปี 1991 เกมนั้นผมยืนเชียร์ทั้งเกม แม่งโคตรจะมัน ก็เราชนะนี่นะ ชนะอาร์เซนอลเลยนะเฮ้ย"
1
Photo : Rock Roller
"การเป็นแฟนบอลของ เวสต์แฮม ทำให้ผมเห็นอะไรต่าง ๆ มากมาย และได้พบประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอ อย่างเกมที่เราชนะ ซันเดอร์แลนด์ 8-0 ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วนะว่าปีไหน (ปี 1968) แต่ตอนนั้น เจฟ เฮิร์สท์ แม่งยิงไป 6 ประตู ตอนนั้นนี่คือมันเหลือเชื่อมากเลยนะ ฟอร์มการเล่นของทีมพัดพาหัวใจและความรู้สึกของผมให้เป็นหนึ่งเดียวพวกเขา (นักเตะที่ลงสนาม) วันนั้นคือวันที่สมบูรณ์แบบที่สุดในชีวิตแฟนบอลเวสต์แฮมของ สตีฟ แฮร์ริส โดยแท้จริง"
"ผมพูดไม่อายเลยนะ วันนั้นผมเสียน้ำตาเพราะความสุขด้วยล่ะ" แฮร์ริส กล่าว
การเป็นทั้งตำนานมือเบสของโคตรวงดนตรีเฮฟวี่เมทัลของโลก รวมถึงจิตวิญญาณการเป็นแฟนบอลของสโมสรเวสต์แฮมที่ยังรุนแรงไม่เปลี่ยนแปลง คือสาเหตุที่ สตีฟ แฮร์ริส กลายเป็นเซเลปฯ ที่แฟน ๆ ขุนค้อนรักและชื่นชอบมากที่สุด ขณะที่สโมสรก็ให้เกียรติเขาในฐานะแฟนกิตติมศักดิ์ ให้เขาได้เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่สโมสรจัดขึ้นเสมอ ไม่ว่างานอะไร สตีฟ แฮร์ริส ไม่เคยปฏิเสธ ขอแค่เขาได้สวมชุดแข่งของ เวสต์แฮม แม้ว่าจะเป็นในฐานะแฟนบอลก็ตาม นั่นคือความสุขของเขาที่กาลเวลาเปลี่ยนแปลงไม่ได้
1
ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าการเป็นหนึ่งเดียวกับทีมของ แฮร์ริส คือกุญแจสำคัญที่ที่ทำให้สโมสร เวสต์แฮม ตัดสินใจจับมือกับวง Iron Maiden เพื่อทำเสื้อแข่งขันของฤดูกาลปี 2019 ที่เอาโลโก้ของ Iron Maiden ไปปรากฏบนเสื้อแข่งและโลโก้ของสโมสร ซึ่งชุดเหย้าชุดนั้น แฮร์ริส ได้ถ่ายโปรโมตร่วมกับ ปาโบล ซาบาเลตา นักเตะของทีมด้วย โดยผลตอบรับนั้นดีมากเพราะทีมทำออกมาขายแค่ 1 พันตัว ก่อนจะขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียวเท่านั้น ถึงขนาดที่ว่ามีแฟนบอลเรียกร้องให้ผลิตซ้ำเป็นประจำ
Photo : AFTV
โปรเจกต์ที่สำเร็จนี้ ทำให้ล่าสุดที่มีการเอาโลโก้ของ Iron Maiden ไปใส่บนชุดเยือน ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังจับมือออกคอลเลคชั่นเสื้อผ้าร่วมกันระหว่างวงกับทีมไปด้วยเลย และมันก็เหมือนเดิมที่แฟนบอลหลายคนเฝ้ารอและรีบจับจองกันอย่างรวดเร็ว พวกเขารักในสโมสร และแน่นอนพวกเขารัก สตีฟ แฮร์ริส ชายที่แฟนเวสต์แฮมไม่ได้มองว่าเป็นนักดนตรี แต่เป็นเหมือนกับ "พวกพ้อง" โดยแท้จริง
“มันเหลือเชื่อมาก ๆ ที่ได้เห็นจำนวนของแฟน Iron Maiden และทีมเวสต์แฮมเลือกซื้อชุดทีมเยือนของทีมไปใช้ ผมภูมิใจมากเลยที่นำโลโก้ของเราไปวางบนชุดแข่งของทีมในปีที่เรามีผลงานดีมาก ๆ ใครจะไปรู้ โลโก้นี้อาจจะเป็นโลโก้นำโชค ที่ทำให้เราผ่านไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ได้นะ" แฮร์ริส กล่าวทิ้งท้าย
ความรักและความชอบคือสิ่งที่ไม่สามารถใช้จำนวนมาจำกัดได้ เราสามารถทำหน้าที่เป็น "แฟน" ของหลายสิ่งได้พร้อมกัน ๆ เสมอ ตราบใดที่ทำแล้วมีความสุข และทำออกมาด้วยความรักที่แท้จริง สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ส่งต่อถึงกันและกันได้ เหมือนกับที่ สตีฟ แฮร์ริส เป็น
แม้จะเลือกดนตรีและเป็นสมาชิกวงระดับโลก แต่ เวสต์แฮม ยังคงเป็นอีกด้านของชีวิต ที่ทำให้เขากลายเป็นคนสำคัญไม่ว่าจะอยู่ในวงการไหน ๆ ก็ตาม
Photo : @LitdelNATO
สนใจอยากช็อป เข้าไปที่ลิงค์นี้ได้เลย
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา