25 เม.ย. 2021 เวลา 06:00 • ธุรกิจ
‘JKN’ ผู้ท้าชิงใหม่ทีวีดิจิทัล ‘สรยุทธ’ นำทัพทวงบัลลังก์ข่าว 'ช่อง 3'
แม้จะมีผู้ประกอบการ “ทีวีดิจิทัล” ไปไม่รอด ยกธงขาวหลายราย แต่ “เจเคเอ็น” กลับทุ่มเงินพันล้าน เดิมพันปั้น “เจเคเอ็น18” สู่คอมเมิร์ซ ด้านเรตติ้งหวังติดท็อป 10 ส่วนช่อง 3 ทวงคืน บัลลังก์ข่าว พึ่งกรรมกรข่าว “สรยุทธ” หวนจอ “เรื่องเล่าเช้านี้”
2
บทความโดย สาวิตรี รินวงษ์
‘JKN’ ผู้ท้าชิงใหม่ทีวีดิจิทัล ‘สรยุทธ’ นำทัพทวงบัลลังก์ข่าว 'ช่อง 3'
ทีวีดิจิทัลอาจเป็น “ขาลง” เพราะการชิงสายตาผู้ชม(Eyeball) และเม็ดเงินโฆษณายากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่ออยู่ในสมรภูมิแล้ว ผู้ประกอบการต้อง “ขับเคี่ยว” กันไม่ลดละ เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอด
ขณะนี้การลั่นกลองรบใหม่กำลังเกิดขึ้น เมื่อ “เจเคเอ็น” ทุ่มเงินกว่าพันล้าน เป็นเจ้าของช่องทีวีดิจิทัล “นิว18” และยกช่องที่อยู่บนทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี “เจเคเอ็น18” มาแทนที่ ใช้เป็นหน้าร้านเพื่อเป็นหน้าร้านและช่องทางโปรโมทสินค้า จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ฉายภาพว่าการซื้อกิจการคุ้มค่าอย่างมากเพราะที่ผ่านมา สินค้าต่างๆของตนเอง ต้องซื้อเวลาช่องทีวีเพื่อโปรโมทนาทีละ “หลักแสนบาท” ต่อเดือน การมีช่องจึงสามารถออกอากาศ ขายสินค้าได้ 24 ชั่วโมง ด้วยต้นทุนต่ำ
ทั้งนี้เป้าหมายของบริษัทคือการสร้างโมเดล “คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ คัมปะนี” มีรายการดีในมือทั้งละคร ซีรีส์ สารดคีจากทุกมุมโลกมาออกอากาศ และแทรกการขายสินค้า ปั๊มยอดขายเป็นกอบเป็นกำ
1
การขยายอาณาจักรครั้งนี้ ยังตอกย้ำการเดินตามรอยยักษ์ใหญ่ด้านคอนเทนท์ของโลก ไม่ว่าจะเป็น ดีสนีย์, โคลัมเบียร์ พิคเจอร์และวอเนอร์ฯ ซึ่งต่างมีคอนเทนท์ และช่องทีวีเป็นเป็นของตัวเอง รวมถึง “สินค้า” ต่างๆ ที่มาจากคาแร็กเตอร์ ตัวการ์ตูน ฮีโร่ จากคอนเทนท์มาขายทำเงินได้มหาศาล ซึ่งโมเดลดังกล่าว “จักรพงษ์” เล็งไว้ 10 ปี เมื่อครั้งไปงานเทศกาลเมืองคานส์ ฝรั่งเศส
2
ขณะที่โอกาสทอง ยังเกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคลดการออกจากบ้าน หันมาซื้อสินค้าผ่านทีวี และออนไลน์ การจ้อขายสินค้าหน้าจอจึงรับเทรนด์ดังกล่าว
1
“ตอนนี้คนทำอะไรไม่ได้ ก็เปิดทีวี ดูมือถือ นิวนอร์มัลคือสายตาจ้องที่หน้าจอ ทั้งออนไลน์ และออนทีวี แต่ทีวี ต้องเป็นทีวีดิจิทีลลูกค้ามีลอยัลตี้มากกว่า ออนไลน์จะมาแรงยังไง ก็แย่งตลาดทีวีดิจิทัลระบบภาคพื้นไม่หมด”
1
เจเคเอ็น คร่ำหวอดวงการทีวีมานาน ขายคอนเทนท์ให้ทีวีดิจิทัลหลายช่อง การเป็นเจ้าของทีวีดิจิทัลเหมือนย้ำว่ามีจุดแข็งด้านคอนเทนท์ดึงดูดผู้ชม “นิว18” อาจมีเรตติ้ง “รั้งท้าย” แต่ “จักรพงษ์” จะผลักดันให้ติดท็อป 10 ให้ได้
“คู่แข่งตามไม่ทัน เพราะเรามีคอนเทนท์ที่ออกอากาศได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 10 ปี ก็ไม่หมดเลย สารคดีบางตัวขายไป 30-40 รอบ ยังรันอยู่อย่างนี้”
ธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี รองกรรมการผู้จัดการสายการเงินและบัญชี บมจ.เจเคเอ็นฯ กล่าวว่า การทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่คอนเทนท์ คอมเมิร์ซ คัมปะนี จะเป็นจิ๊กซอว์สร้างการเติบโตรายได้ปี 67 แตะ 5,000 ล้านบาท จากขายคอนเทนท์ 50% และคอมเมิร์ซ 50% และถือว่าโตเท่าตัวจากปี 2564 ที่คาดมีรายได้ 2,500 ล้านบาท มาจากคอนเทนท์ 80% คอมเมิร์ซ 20%
4
“การลงทุนครั้งนี้จุดประสงค์เราไม่มองทำการทำทีวีดิจิทัลเป็นหลัก แต่จะนำด้วยคอมเมิร์ซ คัมปะนี โดยเงินราว 1,100 ล้านบาท มองจุดคุ้มทุนไม่เกิน 4 ปี”
1
บทเรียนบาดเจ็บมีให้เห็นในสังเวียนจอแก้ว แต่ “เจเคเอ็น..น้องใหม่ใจถึง” เชื่อว่ามีโอกาสซ่อนอยู่มากมาย ประกาศพาช่องติดท็อป 10 ฟากขาใหญ่ “เจ้าตลาด” หลายช่องไม่นิ่งเฉย เพราะปรับกลยุทธ์กันมากมาย หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของแต่ละช่องคือ “สงครามข่าวสาร”เพราะเป็นหนึ่งในคอนเทนท์ที่ทุกค่ายต้องสร้างสรรค์เพื่อสะกดคนดู
3
ได้เวลา “ช่อง 3” ต้อนรับการกลับมาของกรรมการข่าว “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ผู้เคยทำเงินให้กับช่องและตระกูล “มาลีนนท์” มหาศาล
ช่อง 3 ประเดิมวิดีโอคลิป “ครอบครัวข่าว 3” ที่มี 5 พิธีกรข่าว 5 คาแรคเตอร์ 5 การนำเสนอข่าวสู่สายตาประชาชน ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่การปรากฏตัวของ “สรยุทธ” กลับมาจ้อข่าวใน “เรื่องเล่าเช้านี้” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ และยังมี “ไก่ ภาษิต-หนุ่ม กรรชัย-กิตติ สิงหาปัด-ดนยกฤตย์ แดงหวานปีสีห์” ร่วมสู้ศึกสงครามข่าวดึงเรตติ้ง
สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการ สายธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปิดตัวโฆษณา "5 พิธีกรข่าว"ของช่อง 3 สะท้อนให้เห็นถึงการมีบุคลากรด้านข่าวที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง แต่ละคนมีความแข็งแกร่งในวิธีการนำเสนอข่าวที่แตกต่างกัน และเท่าที่เห็นมีเฉพาะที่ช่อง 3 แต่ที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้ถูกนำเสนอให้เห็นภาพรวมถึงจุดแข็งการมีพิธีกรข่าวที่โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ
“นอกจากคุณสรยุทธกลับมาทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้และเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ยังเติมเต็มให้ครอบครัวข่าว 3ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น”
จากนี้ไปช่อง 3 จะออกอากาศรายการข่าวในทุกแพลตฟอร์มทั้งสื่อเก่าสื่อใหม่ ทีวี ออนไลน์ วิทยุฯ เช่น ช่อง 3 แอพพลิเคชัน Ch3plus, Ch3thailandและCh3ThailandNews
ด้านสรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่ปรึกษาฝ่ายข่าวช่อง 3 กล่าวว่า ช่อง 3 มีทรัพยากรด้านข่าวที่แข็งแรงอยู่แล้ว เป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีพิธีกรข่าวที่มีบุคลิกไม่เหมือนกันเลย ไม่นับประสบการณ์ของแต่ละคน ลักษณะแบบนี้มีเฉพาะที่ช่อง 3 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม การเริ่มโปรโมทผู้ประาศข่าวแค่ 5 คน เป็นเพียงการเริ่มต้น หากยกโขยงผู้ประกาศหลายสิบคนที่มีอยู่ ภาพอาจไม่ชัดเจนนัก
“เป้าหมายของช่อง 3 เราอยากเป็นอันดับ 1 ในทุกแพลตฟอร์มข่าว”
โฆษณา