1 พ.ค. 2021 เวลา 08:00 • ธุรกิจ
ทีวีดิจิทัล ลั่นระฆังสู้ใหม่! 8 ปีที่เหลือ
แม้ไม่สามารถคาดเดาอนาคนข้างหน้า จะ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี ได้ในวงการธุรกิจ ที่ผู้ประกอบการมี “ข้อมูล” อยู่ในมือ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่นำมาช่วยตัดสินใจมองการณ์ “ใกล้-ไกล” เพื่อวางแผนกลยุทธ์ การทำงาน ก้าวสู่เป้าหมายได้
บทความโดย สาวิตรี รินวงษ์
ทีวีดิจิทัล ลั่นระฆังสู้ใหม่! 8 ปีที่เหลือ
“ทีวีดิจิทัล” ที่เหลือระยะเวลาทำมาหากินตามใบอนุญาตประกอบกิจการ(ไลเซ่นส์)ราว 8 ปี ที่คาดการณ์ความอยู่รอด เป็น ตาย ร้ายดี ของผู้ประกอบการได้ยาก ว่าจะมีกี่รายที่ต้องเผชิญชะตากรรมทางธุรกิจแบบมี “กำไร-ขาดทุน” ในสังเวียนจอแก้วชิงคนดู แต่เค้าลางต่างๆมีตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาบ่งชี้ได้ไม่มากก็น้อย
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน(กตป.) ได้จัดการประชุมเฉพาะกลุ่มหรือโฟกัส กรุ๊ป เพื่อติดตามและประเมินผลตามนโยบาย กสทช. ที่สําคัญในด้านกิจการโทรทัศน์ : การแก้ไขปัญหาอุตสาหกรรมโทรทัศน์ถดถอย พร้อมเปิดเวทีระดมความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมการประชุม ทั้งนักวิชาการ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลค่ายต่างๆ ได้ย้ำถึงสถานการณ์ ปัญหาที่แต่ละช่องต้องเผชิญ โดยเฉพาะการพูดถึง “หายนะ!” ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจ พร้อมส่งสัญญาณว่าไม่เกิน 3 ปี มีผู้เล่น “อำลา” สังเวียนอีกแน่นอน
ทว่า 1 เดือนเศษผ่านไป “นิวทีวี18” ของ “เหตระกูล” ต้องขายกิจการทิ้งให้กับ “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ด้วยเม็ดเงินร่วม “พันล้านบาท” แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะปลดเปลื้องภาระทางการเงินของ “นิวทีวี18” ได้ ส่วนผู้ซื้ออย่าง “แอน จักรพงษ์” เชื่อว่าดีลดังกล่าว โคตรคุ้ม! ในเชิงธุรกิจ
วัน31-7HD เสริมทัพคอนเทนท์
1
จากปลายปีจนถึงนาทีนี้ วงการทีวีดิจิทัล ยังเขย่าทัพธุรกิจ ปรับเกมกลยุทธ์กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อชิงคนดูคนดู(Eyeball) สร้างเรตติ้งให้ขยับขึ้น จะได้มีโอกาสดึงเงินโฆษณาจากเหล่าเอเยนซี่ สินค้าและบริการแบรนด์ต่างๆ
ย้อนไปปลายปี 63 เปลี่ยนใหญ่ต้องยกให้ “ช่องวัน31” ที่มี “ถกลเกียรติ วีรวรรณ” เป็นแม่ทัพ เมื่อ "เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์" เดินเกมซื้อกิจการจีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้งที่ถือหุ้นในช่อง “จีเอ็มเอ็ม 25” หวังควบธุรกิจคอนเทนท์เสริมแกร่งให้กับธุรกิจทีวีดิทัล
ภารกิจครั้งซื้อขายกิจการดังกล่าว เกิดจาก 3 ฝ่าย ได้แก่ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กลุ่มเดอะ วันฯ และสิริดำรงธรรม(ของทายาทเบียร์ช้าง ฐาปน สิริวัฒนภักดี) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม 50% ในจีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง ได้ขายหุ้นทิ้งให้กับทางเดอะวันฯ มูลค่าซื้อขายรวม 2,200 ล้านบาท
ดีลดังกล่าว ส่งผลให้เดอะวันฯ ควบกิจการในส่วนที่เป็น “ผู้ผลิตคอนเทนท์” ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ ส่วนทีวีดิจิทัลช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 ยังคงเป็นของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เหมือนเดิม
เมื่อได้กิจการมาอยู่ในมือ จึงต้องเขย่าโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยจีเอ็มเอ็ม ทีวี , จีเอ็มเอ็ม มีเดีย, เช้นจ์ 2561 และจีเอ็มเอ็ม สตูดิโอส์ อินเตอร์เนชันแนล ถูกรวมมาอยู่ใต้เงากลุ่มเดอะ วันฯ
การทำธุรกิจทีวีผู้ประกอบการย้ำเสมอว่า Contentent is King หากเนื้อหารายการต่างๆไม่ว่าจะเป็น ข่าว ละครน้ำดีน้ำเน่า รายการวาไรตี้ สารคดี หากไม่ดีย่อมดึงคนดูได้ยาก ต่อให้เนื้อหาดี ถูกจริตคนดูฝั่งหนึ่ง อีกกลุ่มอาจไม่เห็นดีเห็นงามด้วย พร้อมกดรีโมทเปลี่ยนช่อง
ทว่า กลุ่มเดอะวันฯ เชื่อว่าการควบจีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้งฯ จะเสริมทัพด้านคอนเทนท์อย่างแน่นอน ด้วยจุดแข็งที่มีการผลิตซีรี่ย์วายจนกลายเป็นกระแสใหญ่ในไทย มีมือดีอย่าง “เอกชัย เอื้อครองธรรม” ผลิตคอนเทนท์ป้อน “เน็ตฟลิกซ์” เป็นต้น
เงินพันล้าน! เป็นการกลงทุนระยะยาว การเขย่าโครงสร้างธุรกิจ ยังเป็นการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุน ซึ่งจากนี้ยังต้องติดตามก้าวย่างของเดอะวันฯ ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ส่วนด้านรายการ สามารถสร้างกระแสได้หลายเรื่อง โดยเฉพาะ “วันทอง” ที่ถูกนำมาตีความใหม่ ตอนจบวันที่ 20 เม.ย.64 สร้างเรตติ้งถล่มทลายแตะ 7.76 แต่เกมทีวีดิจิทัลเป็นการแข่งขัน 24 ชั่วโมง อีก 8 ปีที่เหลือ แม้จะดีใจวันเดียว แต่ผู้บริหาร ทีมงานยังต้องงานหนักยาวๆ
ใช่มีแค่ช่องวัน31 ขยับตัว เพราะพี่ใหญ่อย่าง “ช่อง7” ก็เคลื่อนไหวไม่น้อย โดยเฉพาะการได้อดีตลูกหม้อ “ช่อง3” อย่าง “ไบรอัน มาร์การ์” ยกทีมกลุ่มเทโรฯ ไปอยู่ในอ้อมใจ “กฤตย์ รัตนรักษ์” แม่ทัพใหญ่ช่อง 7 ผลิตรายการและละครป้อนทางช่องเรียบร้อย และยังมีรายการเสริมทัพอีกอย่าง ขบวนการซ่า ฮายกล้อ รวมถึงซิทคอม และละครที่จ่อคิวรอ
โลกธุรกิจไม่มีมิตรแถ้และศัตรูถาวร การแปลงคู่แข่งเป็น “คู่ค้าพันธมิตร” ที่ช่วยเสริมแกร่ง และทำให้ธุรกิจ win-win จึงเป็นทางเลือกที่ดี แต่กลุ่มเทโร จะมาสร้างเม็ดเงินให้ช่อง7 เป็นกอบเป็นกำหรือไม่ต้องเกาะติดต่อ
จอแก้วระดมเขย่าทัพธุรกิจ
นอกจากนี้ ค่าย MONO29 ที่เผชิญผลกระทบจากโรคโควิด-19 ดับฝันเป้าหมายธุรกิจปี 63 รวมถึงแผนขึ้นค่าโฆษณา หลังทำเรตติ้งยืน Top3 อย่างเหนียวแน่นไม่น้อย
เหตุการณ์โรคระบาดกระทบทุกธุรกิจ รวมทั้งโมโน ทำให้ปีที่ผ่านมาบริษัทปิดกิจการที่ไม่ทำเงิน เป็นภาระหลายบริษัท เช่น โมโนเรดิโอ, โมโน บรอดคาซท์, โมโน มิวสิค, โมโน สปอร์ต, โมโน ทาเลนท์, โมโน เพลย์, โมโน เอสโทร และทีโมเมนต์
แต่บริษัทไม่ได้มีแค่ข่าวลบ เพราะได้ผู้ผลิตคอนเทนท์มากฝีมมืออย่าง “แดง ธัญญา โสภณ” มาเสริมทัพกับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตรายการ บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งต้องรอดูว่ารายการที่จะผลิตออกมาจะโดนใจคนดู สร้างกระแสได้เหมือนตอนอยู่ช่อง3 หรือไม่
อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของโมโน29 คือเสิร์ฟ หนังดีซีรีย์ดังจากทั่วทุกมุมโลกมาตรึงให้คนเฝ้าหน้าจอแบบยาวๆ ส่วนความสำเร็จวัดผลได้จากเรตติ้ง Top3 แม้ทำ “รายได้”กว่า 1,600 ล้านบาทในปีที่แล้ว แต่การพลิกทำกำไรยังไม่เกิดขึ้น เพราะบริษัท “ขาดทุนอ่วมกว่า 600 ล้านบาท”
ด้านเนชั่นทีวี 22 สถานีข่าวอันดับ 1 ปรับทัพย้ำการเป็น “สถาบันสื่อมืออาชีพ” ดึงอดีตผู้บริหาร “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง จำกัด (มหาชน) และมีการปรับเปลี่ยน “ผู้ประกาศข่าว” ดึงคนมากความสามารถร่วมทัพอีกหลายชีวิต ล่าสุด ลุยส่งทีมผู้ประกาศมากฝีมือเจาะคนรุ่นใหม่ วัยมิลเลเนียล เช่น พิภู พุ่มแก้วกล้า, อรการ จิวะเกียรติ มารายงานข่าวเช้ากับรายการ “Morning Nation” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:00-09.40 น., อติชาต วงศ์วุฒิวัฒน์, นลิน สิงหพุทธางกูร, กิตติดิษฐ์ ธนดิษฐ์สุวรรณ ในรายการ “ข่าวข้นคนข่าว” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 20:10-22:20 น. ศุภวรรณ โต๋ห์, รพีพรรณ เรือนศรี กับรายการ “เนชั่นทันข่าวเย็น” สดทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18:00-19:00 น. และ “เนชั่นทันข่าวค่ำ” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18:10-19:50 น. เป็นต้น
1
นอกจากนี้ ยังมีกูรูข่าวมือฉกาจที่คร่ำหวอดในเส้นทางสื่อมวลครบทีม สมชาย มีเสน, วีระศักดิ์ พงษ์อักษร, บากบั่น บุญเลิศ, ชิบ จิตนิยม, ประชาไท ธนณรงค์, ภาสพล โตหอมบุตร และ สุทธิรักษ์ อุฒมนตรี ที่มาร่วมวิเคราะห์เจาะลึกการเมือง อัพเดทข่าวเศรษฐกิจ สังคมโลก ล่าสุดยังมีผู้ประกาศดัง ดนัย เอกมหาสวัสดิ์, ยุคล วิเศษสังข์, นารากร ติยายน, พัชระ สารพิมพา, ประจักษ์ มะวงศ์สา, มนตรี จอมพันธ์ และ ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ ร่วมตีแผ่ทุกแง่มุมที่ประชาชนต้องรู้ เรียกว่าจัดเต็มสมกับเป็นผู้นำสถานีข่าวอย่างแท้จริง
ช่อง3 เป็นอีกค่ายที่ความเคลื่อนไหวตลอด โดยเฉพาะล่าสุด การหวนคืนสู่จอแก้วของพิธีกรข่าวระดับตำนานอย่าง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ทันทีที่กลับมา “เอเยนซี่โฆษณา” ขานรับกันอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ ช่อง 3 จัดทัพพิธีกรข่าวมาเรียกกระแสไปพลางๆผ่านคลิปวิดีโอ “ครอบครัวข่าว 3” โดยการปรากฏตัวของ 5 พิธีกรข่าว 5 คาแรคเตอร์ 5 การนำเสนอข่าวแต่ละประเภทสู่สายตาประชาชน ได้แก่ “ สรยุทธ-ไก่ ภาษิต-หนุ่ม กรรชัย-กิตติ สิงหาปัด-ดนยกฤตย์ แดงหวานปีสีห์”
ส่วนผังรายการข่าวเดือนพ.ค.นี้ ถูกจัดใหม่เรียบร้อย เมื่อมี “สรยุทธ” เป็นทัพหน้า จึงขยายเวลารายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” จันทร์-ศุกร์ 06.00-08.20 น. จากเดิมจบ 08.00น. ปรับผู้ประกาศ “เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์” มี “สรยุทธ-ไบรท์ พิชญทัฬห์” ด้านเรื่องเด่นเย็นนี้ ปรับผู้ประกาศเป็น “ไก่ ภาษิต-ตูน ปรินดา” นอกจากนี้ ยังมีราายการใหม่ “ข่าวสามสี” ออกอากาศจันทร์-ศุกร์ 16.00-16.30น. และมีรายการ “หลุดผัง”ด้วย เช่น โต๊ะข่าวบันเทิง รีวิวบันเทิง และดาวินชี่ เกมถอดรหัส เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม “ข่าว” เป็นเพียงคอนเทนท์หนึ่งเท่านั้น จากเวลาออกอากาศ 24 ชั่วโมง การกลับมาของ “สรยุทธ” อาจเรียกความเชื่อมั่น ความคึกคักได้ระดับหนึ่ง แต่การทวงบัลลังก์ข่าวไม่ง่าย แม้จะจับขาประจำ 35-40 ปีขึ้นไป ที่นิยมดูทีวี แต่ปัจจุบัน “เทคโนโลยี” เข้ามามีบทบาทมากขึ้น และคอนเทนท์มีให้เลือกเสพมากมาย ทั้งรายการสด รายการย้อนหลัง(รีรัน) แม “สรยุทธ” จะเสิร์ฟข่าวทุกแพลตฟอร์ม แต่การชิงเวลาและสายตาจากคนดู นับวันยากขึ้นเรื่อยๆ
โฆษณา