2 พ.ค. 2021 เวลา 02:01 • ปรัชญา
เมื่อครั้งขงจื้อออกเดินทางไกลเพื่อออกไปเผยแพร่คำสอนแก่ประชาชนในเมืองต่างๆพร้อมกับลูกศิษย์ มีอยู่วันหนึ่งเสบียงที่เตรียมเอาไว้เกิดหมดระหว่างการเดินทาง แล้วระแวกนั้นก็เป็นถิ่นทุรกันดาร ไม่มีอะไรที่จะหามาหุงต้มเพื่อเป็นอาหารเลย
1
Learning Never Ends
ขงจื้อและลูกศิษย์ที่ติดตามต่างก็ต้องอดอาหาร เป็นเวลาถึง 7 วัน สิ่งที่พอจะช่วยประทังความหิวของทุกคนได้นั้นก็คือการนั่งพักและการนอนหลับในระหว่างการเดินทาง
ในขณะที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่กับความหิวอย่างหนัก ก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งได้อาสาขึ้นมาว่าจะไปหาอาหารมาให้ เขาจึงออกไปขอข้าวจากชาวบ้านในละแวกนั้นและได้ข้าวมาเพียงน้อยนิด
ขงจื้อได้สังเกตุเห็นว่า ในขณะที่ลูกศิษย์คนที่ไปขอข้าวมากำลังหุงข้าว เขาได้ตักข้าวในหม้อขึ้นมากินคำหนึ่ง ซึ่งขงจื้อคิดว่ามันดูเอาเปรียบคนอื่น แต่ขงจื้อเองก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรลูกศิษย์ในขณะนั้น
แต่เมื่อหุงข้าวเสร็จแล้วลูกศิษย์ก็ยกหม้อข้าวลงเตรียมตักให้ขงจื้อได้กินก่อน แต่แทนที่ขงจื้อจะรับอาหารมาแล้วรับประทานทันที กลับยืนขึ้นพร้อมกับกล่าวกับลูกศิษย์ทั้งหมดว่า
https://www.arsomsiam.com
" วันนี้ข้าได้ฝันถึงพ่อผู้เสียชีวิตไปแล้ว หากข้าวที่หุงในหม้อนี้มีความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ข้าขอใช้ข้าวหม้อนี้ไหว้พ่อที่จากไปแล้วของข้า "
เมื่อลูกศิษย์ทุกคนได้ยินดังนั้นก็ไม่มีใครทักท้วง แต่ลูกศิษย์ที่หุงข้าวกลับได้พูดขึ้นมาว่า
" ท่านอาจารย์ ถ้าอย่างนั้นคงไม่ได้แล้วครับ ข้าวที่ข้าหุงนั้นไม่บริสุทธิ์พอ เพราะเมื่อครู่มีฝุ่นตกลงไปในหม้อข้าว ข้าได้ตักฝุ่นนั้นขึ้นมาและด้วยความเสียดายข้าวช้อนนั้น ข้าจึงได้กินข้าวที่เปื้อนฝุ่นนั้นด้วย "
ขงจื้อได้ฟังคำตอบของลูกศิษย์เช่นนั้นก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกศิษย์ของตนเป็นอย่างมาก ที่ไม่โกหกเพราะเห็นแก่อาหารเพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกันขงจื้อก็ได้ข้อคิดว่า ไม่ควรตัดสินจากสิ่งที่เห็นด้วยตาเท่านั้น ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นควรได้รับการพิจารณาด้วยใจที่ชอบธรรม
🔥 นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 🔥
1
สิ่งที่เราเห็นด้วยตานั้น บางครั้งเราจะเชื่อในสิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งที่เราอาศัยรับรู้ได้นั้นก็คือ จิตใจ แต่ก็จะอาศัยจิตใจทั้งหมดอย่างเดียวก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น การที่เราจะเข้าใจใครคนหนึ่งอย่างถ่องแท้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
มันจะต้องอาศัยการเรียนรู้ซึ่งกันและกันเป็นเวลานานๆ ไม่ใช่ตัดสินเพียงเพราะเห็นด้วยตา หรือรู้สึกด้วยใจอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
มีคำที่นักปราชญ์ได้กล่าวเอาไว้ว่า สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยตา และคำสำคัญไม่อาจฟังได้ด้วยหู เพราะบางครั้งสิ่งที่เราเห็นก็หลอกลวงเรา คำพูดที่เราได้ยินก็มาจากคนอื่น เป็นคำพูดที่ถูกใส่สีตีไข่เรียบร้อยแล้ว อย่าประเมินคุณค่าของใครคนใดคนหนึ่งต่ำจากความเป็นจริง อย่าเชื่อว่าภาพที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นอย่างที่เราเห็นเสมอไป
1
Reference
ชุติปัญโญ ,หนังสือนิทานธรรมสะกิดใจ
โฆษณา