2 พ.ค. 2021 เวลา 09:56 • การตลาด
ใครอยากจะไลฟ์ขายของ (Live สด) ขายออนไลน์ มาลองอ่านเรื่องนี้ดู คำเตือนบทความนี้ค่อนข้างยาว กรุณาอ่านช้า ๆ และทำความเข้าใจไปด้วย จะทำให้นำไปสู่การปฏิบัติจริงได้ง่ายขึ้น
วิธีไลฟ์ลดขายของให้มีคนดู
ก่อนอื่นต้องขอกล่าว สวัสดีมิตรรักแฟนเพลง เอ้ย! มิตรรักทุกท่าน และขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่แม้ว่า ได ฯ จะหายไปนานก็ตาม
ได ฯ กลับมาแล้วค่าาาา
ที่หายไปก็เพราะว่า ไปลองทดสอบขายของออนไลน์แบบ Live สดมาค่ะ ก็ต้องบอกว่า บทความนี้อาจจะไม่ได้การันตียอดขายหรือยอดคนเข้าชมนะคะ ทุกอย่างมันอาจจะต้องค่อย ๆ ปรับกันไป เพราะสินค้าแต่ละตัว มีความยากง่ายในการขาย มันไม่เหมือนกัน
และที่ได ฯ จะมาแนะนำในวันนี้ก็เป็นวิธีแบบเบื้องต้น ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กันได้นะคะ
1
ย้ำอีกครั้งว่า
ให้อ่านช้า ๆ นะคะ
สำหรับคนที่เป็นระดับเทพในการ Live สดขายของออนไลน์แล้ว ให้ท่านข้ามบทความนี้ไปได้เลยจ้าาา เพราะบางอย่างท่านก็อาจจะรู้และเข้าใจอยู่แล้ว
แต่สำหรับมือใหม่ หรือคนที่ยังไม่เคยไลฟ์และยังหาแนวทางไม่เจอ ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร แนะนำให้อ่านจนจบนะคะ
ป่ะ เข้าเรื่องกัน
สิ่งที่จะต้องเตรียมในการไลฟ์สด
สิ่งที่จะต้องเตรียมก่อนการไลฟ์
ให้เตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้เสร็จก่อนจะเปิดการไลฟ์นะคะ
1. มือถือสมาร์ทโฟน
อาจจะไม่ต้องรุ่นท็อปอะไรก็ได้ เอาแค่เล่นโซเชียลได้ แล้วกดปุ่มไลฟ์สดได้ก็พอแล้ว ความชัดของกล้องก็เอาตามที่มีไปก่อน แต่ถ้าใครพอจะมีงบอยากจะอัพระดับเป็นการใช้กล้อง DSLR กล้องใหญ๋ ๆ หรือจะใช้มือถือกล้องเทพ ๆ เลย ก็ตามสะดวก
2. ขาตั้งมือถือ/ขาตั้งกล้อง
หากไม่มีหาซื้อไม่ได้ก็จะ DIY มัดเข้ากับอะไรก็ตามสะดวกเลย เราก็ใช้วิธีตามที่เรามีไปก่อน ช่วงแรก ๆ ยังไม่ค่อยแนะนำให้ลงทุนอะไร เว้นแต่อยากจะลงทุน ก็ไม่ว่ากัน
3. จัดเตรียมสินค้าที่จะขายให้พร้อม
วางไว้ให้เห็นชัด ๆ ในมุมกล้อง อย่าลืมทำราคาให้เรียบร้อย ค่าส่งคิดอย่างไร แต่ละแบบเป็นแบบไหน รายละเอียดสินค้าจะต้องชัดเจน มีตำหนิไหม ถ้ามีก็ต้องแจ้งลูกค้าด้วย
4. แต่งหน้า แต่งตัวให้ดี
บุคลิกภาพภายนอกก็ทำให้หน้าสนใจ อาจจะไม่ถึงขั้นแต่งแบบจัดเต็มอะไรมากก็ได้ แต่ก็อย่ามาหน้าจอในสภาพมอซอเกินไป เพราะลูกค้าที่เข้ามาดู หลากหลายมาก ๆ เราก็ทำภายนอกให้น่ามองเอาไว้ก่อนล่ะ
5. อย่าลืมเตรียมคนที่เป็นแอดมินหลังกล้องไว้ด้วย
ถ้าไม่มีก็ต้องทำเอง หรือจะรอสรุปยอดหลังจบไลฟ์ก็ได้ แต่อย่าลืมแจ้งลูกค้าทุกครั้ง การมีอีกคนช่วยเป็นแอดมินจะทำให้ไม่ตกหล่นคอมเม้นลูกค้า ว่าใครพูดอะไร ใครรับสินค้าตัวไหน บางทีเวลาคนเม้นเร็ว ๆ คนขายจะมองคอมเม้นไม่ทัน แอดมินจะช่วยได้ แอดมินจะต้องดูอีกจอ เพราะบางทีจอที่ Live อาจจะดีเลย์
6. ทดสอบมุมกล้อง แสง สี เสียง ก่อนจะเปิดไลฟ์ขายจริง
ก็ทดลองเลย แล้วดูกันเองก่อน จัดแสง จัดไฟ ทดสอบเสียงให้เรียบร้อย เพื่อลดการเกิดปัญหาตอนไลฟ์จริง หากกระตุกหรือมีอะไรติดขัดก็อาจส่งผลให้ลูกค้าออกจากหน้าไลฟ์เราไปได้ง่าย ๆ ทำให้เสียลูกค้าไป
7. คนหากลุ่มที่สามารถแชร์ Live เข้าไปได้
เป็นตัวหลักที่จะทำให้คนเห็นเราเยอะขึ้น และเราสามารถเลือกเข้ากลุ่มที่ตรงเป้าหมายได้ แต่อย่าลืมอ่านกฎแต่ละกลุ่มกันด้วยนะ
วิธีทำให้คนเข้ามาดูไลฟ์ของเรา
วิธีทำให้คนเข้ามาชม
อย่าลืมว่าไม่ได้มีแค่เราที่ Live สด ขายของ ในกลุ่มประเภทสินค้าเดียวกันนั้น อาจจะมีแม่ค้าออนไลน์ท่านอื่นที่ขายอยู่ หรือทำมาก่อน ก็นับเป็นคู่แข่งได้เหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าเราจะเป็นแม่ค้า พ่อค้าออนไลน์บ้างไม่ได้
การเริ่มต้นใหม่ มันอาจจะไม่บูมในทันที ถึงจะมีคนบูมเร็วแต่มันก็ไม่ใช่ทุกคน ฉะนั้นก็ค่อยเป็นค่อยไปกันเนาะ
วิธีที่จะทำให้คนเข้ามาชม Live สดขายสินค้าเรามีดังนี้
1. แชร์ลงกลุ่ม
แต่ประเด็นคือให้ระวัง เพราะบางกลุ่มมีกฎยิบย่อย หากแชร์ Live สดเข้าไป แล้วผิดกฎกลุ่มจะโดนกดรายงาน หรือโดนถีบออกมาจากกลุ่มเลย ฉะนั้นวิธีจะแชร์เข้ากลุ่มคือ
1.1. เลือกกลุ่มให้ตรงกับเป้าหมายของเรา หรือกลุ่มที่เปิดฟรี แชร์อะไร ขายอะไรก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น เราขายต้นไม้ ก็ให้ค้นหากลุ่มที่เกี่ยวกับต้นไม้ ขายกระเป๋า ขายเสื้อผ้า ก็หากลุ่มที่จะแชร์เข้าไปได้ สรุปคือขายอะไรก็พยายามหากลุ่มที่คาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้าของเราอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย
1.2. อ่านกฎกลุ่ม (ถ้ามี)
ที่ต้องเน้นข้อนี้เพราะว่า บางคนก็เล่นแชร์ลงไปมั่ว ๆ แชร์เข้าไปมันทุกกลุ่มแบบหว่านแหเลย แบบนั้นมันก็ไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไรนาา ฉะนั้นแล้วเสียเวลาอ่านกฎแต่ละกลุ่มหน่อย โดยเฉพาะกลุ่มไหนคนเยอะ ๆ หลักแสนขึ้น ส่วนมากจะมีกฎ มีแอดมินคอยดูแลอยู่ตลอด
1.3. บางกลุ่มมีค่าสมาชิก
หากเราเจอกลุ่มที่คนเยอะมาก ๆ และในนั้นเกี่ยวข้องกับสินค้าของเรา แล้วการจะขายของในกลุ่มนั้น หรือแชร์ Live สดเข้าไปขายของในกลุ่มได้ จะต้องเสียตังค์ บางกลุ่มรายเดือน บางกลุ่มรายปี หากพิจารณาแล้วมันคุ้มก็จ่ายไปเลย เพราะจะทำให้คนมองเห็น Live ของเราเยอะขึ้น แต่ถ้าพิจารณาแล้วมันไม่คุ้ม มันไม่น่าลองเลย ก็ยังไม่ต้องก็ได้ เพราะยังมีกลุ่มอื่น ๆ ที่เปิดฟรีอยู่ก็เยอะ
1.4. ห้าม Copy แล้ววางเหมือนกันทุกกลุ่ม
อาจจะไม่ผิดกฎกลุ่ม แต่ว่า ในกรณีที่เป็น Facebook ได ฯ เคยลองแล้ว จะโดนปิดกั้นการมองเห็นค่ะ เพราะว่าการก็อปปี้วางเหมือน ๆ กันจะโดนมองว่าเป็น Spam แทนที่จะมีคนดูเยอะขึ้น คนจะยิ่งน้อยลง
ฉะนั้นแล้ว เวลาจะแชร์เข้ากลุ่มไหน ก็เขียนอะไรใหม่ ๆ อย่าให้ซ้ำกันด้วย และไม่ควรจะวางแค่ Link ของไลฟ์อย่างเดียว มันไม่น่าสนใจ
1.5. ถ้าเป็นไปได้เขียนแคปชั่น ให้น่าสนใจตอนที่แชร์ลิ้งก์เข้ากลุ่มด้วย
เป็นข้อความสั้น ๆ แต่ทำให้คนอยากจะคลิกเข้าไปชมสินค้าใน Live ข้อนี้อาจจะต้องฝึกสักหน่อย ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวก็คงคิดออกว่าควรจะเขียนอะไรจูงใจลูกค้า
1.6. ยิ่งหากลุ่มที่แชร์เข้าได้เยอะเท่าไหร่ยิ่งดี
มันแน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งเราแชร์เข้าได้หลายกลุ่ม คนดูก็จะเยอะด้วย แต่ก็ย้ำอีกทีนะ ว่าอย่าลืมอ่านกฎกลุ่มด้วย
แชร์เข้ากลุ่มที่ตรงเป้าหมาย
2. การแชร์วนในกลุ่ม
ก็เป็นการแชร์ลงในกลุ่มนั่นแหละ
แต่ว่า
บางทีเรา Live ไปนาน ๆ หลายชั่วโมงแล้ว โพตส์ที่เราแชร์เข้าไปอาจจะโดนโพสต์คนอื่นดันตกไป ทำให้คนไม่เห็น
การแชร์วนกลุ่มก็คือ แชร์เข้ากลุ่มเดิมอีกรอบ ในเวลาใหม่
เช่น ตอนแรกเราแชร์เข้าไปตอน 19.00 น. Live ผ่านไปแล้วสัก 1 - 2 ชั่วโมง ก็แชร์เข้าไปอีกรอบ แต่เอาแค่กลุ่มละ 2 - 3 ครั้งก็พอ ถ้าแชร์เยอะไปก็จะรกฟีดคนอื่นเขา เว้นระยะห่างในการแชร์ให้เหมาะสมด้วย
และถ้ากลุ่มไหนมีกฎว่าา ห้ามแชร์เกิน 1 ครั้ง ก็อย่าทำผิดกฎ บางกลุ่มเขาก็มีกำหนดเลยว่า แชร์เข้ามาได้ไม่เกิน 3 แชร์ ก็อย่าเกินนะ
และทุกครั้งที่แชร์เข้ามาใหม่ อย่าลืมเขียนแคปชั่นใหม่เสมอ ไม่ควรใช้วิธี Copy วาง เพราะจะโดนมองว่าเป็นสแปม แล้วจะโดนลดการมองเห็นอยู่นะคะ
3. เพื่อนใน Facebook เยอะ หรือ ผู้ติดตาม คนกดไลก์ในแฟนเพจเยอะ
มีคนติดตาม มีเพื่อนเยอะ
กรณีที่ Live สดผ่านหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว การที่เพื่อนเยอะก็จะดี แต่ก็มีข้อเสียตรงที่อาจจะไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย หรือหากเราแชร์ซ้่ำ ๆ ในหน้าเฟซตัวเองมากไปจะทำให้เพื่อนรำคาญ ฉะนั้น ถ้าหากไลฟ์ผ่านเฟซส่วนตัวแล้ว ก็ไม่ต้องแชร์ซ้ำไปมา
ให้แชร์ลงไปในกลุ่ม หรือตามเพจจะดีกว่า
กรณีที่ Live สด ผ่าน Fan page ค่อยแชร์มาหน้าเฟซส่วนตัว แล้วก็ไปแชร์ลงกลุ่ม ตามที่กล่าวมาในข้อ 1 ได้เลย และพยายามทำให้เพจมีผู้ติดตาม มีคนกดไลก์เยอะ ๆ จะทำให้คนเห็น Live เราเยอะขึ้นด้วย
วิธีทำให้คนเข้าเพจเยอะ ทำอย่างไร ก็ลองอ่านวิธีตามบทความนี้นะคะ
4. จัดกิจกรรมสนุก ๆ ให้ผู้ชมเข้าร่วม
ลองไปคิดหากิจกรรมบันเทิงมาดึงความสนใจของผู้ชมช่วงต้น Live ก็แล้วแต่เลยว่าใครจะทำอะไร อาจจะแจกของบางชิ้น สุ่มให้ หรืออะไรก็ได้ที่ทำได้
และขอให้ผู้ชมช่วยแชร์ออกไป หรือช่วยแชร์ลงกลุ่มที่พวกเขามีก็ได้ แต่ก็ไม่อยากจะแนะนำว่าบังคับต้องแชร์กี่แชร์ เอาแค่คนละ 1 แชร์ก็พอ จะแชร์ไปหน้าเฟซตัวเองหรือแชร์ลงกลุ่มก็ตามสะดวกผู้ชมดีกว่า
1
การบังคับแชร์ลงกลุ่ม หรือจะกึ่งบังคับก็ตาม ได ฯ เองรู้สึกไม่ค่อยโอเคกับสิ่งนี้ เลยไม่อยากจะแนะนำนะคะ
เพราะเห็นบางร้านก็บอกว่าต้อง 10 แชร์ลงกลุ่ม 10 แชร์หน้าเฟซตัวเอง เปิดสาธารณะ อะไรแบบนี้ มันก็ดูจะเกินไปหน่อย (ความคิดเห็นส่วนตัวนะ)
คนละแชร์ เขาช่วยแชร์ให้ก็ขอบคุณมาก ๆ แล้ว เพราะบางคนเขาก็แชร์ให้เราเยอะ ด้วย บางคนเขาเเชร์เยอะ เขาก็คาดหวังว่าจะได้ของรางวัลจากเรา แต่เราสุ่มแจก คนที่ไม่ได้เขาก็รู้สึกผิดหวังจริงไหม ?
ส่วนตัวได ฯ เองเลยไม่ค่อยชอบวิธีนี้ ไม่อยากจะบังคับหรือกึ่งบังคับแชร์สักเท่าไหร่ ฉะนั้นอาจจะจัดกิจกรรมดึงความสนใจด้วยวิธีอื่น ก็ได้ ก็สุ่มแจกไปเลยใครที่อยู่หน้าไลฟ์ถึงเวลาเท่านั้นเท่านี้
หรือใครที่มียอดซื้อสะสมครบ เท่านั้นเท่านี้ ใครไลฟ์นี้ก็จะมีแจก มีแถม อะไรก็ว่ากันไป จัดเป็นโปรโมชั่นก็ยังได้ค่าาา
5. มีความสม่ำเสมอ
สม่ำเสมอ
สำคัญเหมือนกันนะข้อนี้ เพื่อไม่ให้ลูกค้าลืมเรา เพื่อให้ลูกค้าเกิดภาพจำร้านเรา ตัวเรา
อาจจะไม่จำเป็นจะต้อง Live ทุกวันก็ได้ ยกเว้นแต่ช่วงแรก ๆ อยากจะไลฟ์ทุกวันเพื่อวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า ว่าวันไหนคนซื้อเยอะ ซื้อน้อย คนดูเยอะดูน้อย อาจจะต้องไลฟ์ทุกวันก่อนก็ได้
แต่ถ้าหากทำไปนาน ๆ แล้วเราก็ต้องมีวันพัก
แจ้งลูกค้าไปทุกครั้งว่าจะไลฟ์วันไหนบ้าง แพ็คของวันไหน ส่งของวันไหน ใช้บริการขนส่งของอะไร ค่าส่งเท่าไหร่
หากนัดแล้วพยายามมาให้ตรงเสมอ เช่น นัด ไลฟ์ทุกวันพุธ เวลา 20.00 น. ก็จะต้องมาไลฟ์ให้ตรง เพราะเวลาเราขายไปนาน ๆ จะมีลูกค้าบางคนรอเราอยู่นะคะ
ระยะเวลา
6. ระยะเวลา
บางอย่างมันก็ต้องใช้ระยะเวลาเป็นตัวช่วยด้วย การขายของก็เหมือนกัน ได ฯ จำวันแรกที่ได ฯ Live ขายได้เลย
มีคนดูประมาณ 5 คน ส่วนใหญ่ก็เป็นคนรู้จักเท่านั้นเอง
วันต่อมาก็ค่อยมาปรับว่าจะทำอย่างไรให้มีคนเข้าชมเยอะขึ้น ก็ถึงได้ทดลองแชร์เข้ากลุ่ม แชร์ไปตามเพจ มีเพื่อน ๆ ช่วยแชร์ด้วย
พอทำมาหลายวัน ๆ เข้า ร่วม 1 เดือน ก็เริ่มมีลูกค้า ที่เป็นขาประจำ มีลูกค้าใหม่เข้ามา เริ่มมียอดขายเข้ามาเรื่อย ๆ ยอดหลักพัน เกือบหมื่นค่ะ แต่ก็ยังไม่ถึงหมื่นต่อวันสักที ก็ต้องยอมรับว่าได ฯ เอง ก็ยังเป็นมือใหม่ในวงการนี้เหมือนกัน
7. นำเสนอสินค้าให้น่าซื้อ น่าสนใจ
จริง ๆ ข้อนี้เป็นประเด็นหลักเลย หากเรามีคนเข้ามาชม Live เยอะ แต่ถ้าเราดึงความสนใจลูกค้าไม่อยู่ พวกเขาก็ออกจากไลฟ์เราไปง่าย ๆ เลย ฉะนั้น ก็จะต้องพยายามนำเสนอสินค้าให้น่าสนใจเข้าไว้
แต่ก็อย่ากล่าวสรรพคุณเกินความเป็นจริง เพราะถ้าแบบนั้นจะเข้าข่ายหลอกลวงนะคะ สินค้าดีอย่างไร สวยแค่ไหน โชว์สี โชว์ขนาด บอกทุกอย่างให้ละเอียด
รวมถึงตำหนิด้วยถ้ามี หากไม่บอก สินค้าไปถึงลูกค้าแล้วจะมีปัญหาภายหลัง ต้องตามเคลมอีกเสียเวลา
ฉะนั้นก็ควรจะแจ้งทุกอย่างให้ครบ ชัดเจนตั้งแต่ตอนที่ขายหน้าไลฟ์เลยนะคะ
เอ็นเตอร์เทน
8. เอนเตอร์เทน คุยกับลูกค้า/อ่านคอมเม้นต์ ฯลฯ
บางทีเราก็จะขาย ๆ ๆ อย่างเดียวไม่ได้ สนใจคอมเม้นของลูกค้าด้วย คุยสนุกสนานเฮฮากับพวกเขา ทำให้พวกเขารู้สึกเป็นกันเอง
ถ้าจะให้ดีควรจะจำลูกค้าเก่าให้ได้ จำชื่อลูกค้าให้ได้จะดีมาก ๆ เวลาพวกเขาเข้ามาจะได้ทักทายได้ถูก ป้ายยาสินค้าง่าย ๆ หน่อย 55
ส่วนใครจะเอ็นเตอร์เทนอย่างไรนั้นก็ตามแต่ถนัดเลย ได ฯ ยกตัวอย่างไม่เป็น เพราะว่าได ฯ เองก็ไม่ค่อยจะเก่งเรื่องนี้ด้วย
อาจจะยังมีอีกหลายวิธีนะคะ ที่ทำให้คนเข้าดู Live สดของเราเยอะขึ้น แต่ว่าได ฯ คิดออกเท่านี้ ก็หวังว่าจะช่วยได้บ้าง ไม่มากก็น้อย ถ้ามีอะไรเพิ่มเติม แนะนำได ฯ เข้ามาได้เสมอนะค้าาา
ปัญหาที่อาจจะเจอเวลา Live สดขายของ
ปัญหาที่อาจจะเจอ
สิ่งที่อาจจะเจอ และควรจะเตรียมรับมือให้ดีนะคะ เพราะบางทีเราอาจจะไม่รู้ว่าปัญหาที่ตามมานั้นคืออะไร แต่ว่าได ฯ จะยกตัวอย่างสิ่งที่ได ฯ เจอมาตอน Live นะคะและขายให้ลูกค้านะคะ เผื่อหลายท่านจะได้นำไปเตรียมตัวรับมือ
1. คอมเม้นต์ก่อกวน
จะมีคนบางพวก บางคนที่ชอบเข้ามาคอมเม้นก่อกวน หากเป็นไปได้ก็มองข้ามไปเลย ถ้าหากรู้สึกว่าเยอะไป ก่อกวนมากไปก็บล็อกไปเลยนะคะ โดยเฉพาะคนที่มักจะ F สินค้าตัดหน้าคนอื่นไป แล้วก็มายกเลิกทีหลัง อันนี้บล็อกไปเลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคุยด้วย
2. คน F ของไปแล้วไม่โอน หายไปเลย
ก็ไม่ต้องเสียเวลารอและตามค่ะ คนที่อ่านแชทเรา หรือไม่เปิดอ่านเลย ก็บล็อกค่ะ F ไปสนุก ๆ ตัดโอกาสคนอื่น และทำให้เราไม่ได้ขายสินค้าด้วย เสียทั้งเวลา เสียทั้งสุขภาพจิต ถ้าอยากจะรอ ก็ลองรอดูสัก 1 วันก็ได้ค่ะ แต่ได ฯ ไม่เสียเวลา สินค้าเอาออกมาขายใหม่เลยดีกว่า
3. พัสดุมีปัญหา
ของได ฯ เคยเจอมากล่องยับ กล่องทะทุ อันนี้ต้องเสียค่าปรับให้กับทางบริษัทขนส่งเขา เพราะเราแพ็คของไม่ดีเองค่ะ แต่ว่าสินค้าภายในไปถึงลูกค้าปลอดภัย ก็ไม่ต้องเคลมอะไร แต่จะเสียค่าปรับ (ข้อนี้ลูกค้าไม่รู้เรื่องด้วย) ฉะนั้นแล้ว เวลาแพ็คจะต้องแน่นหนาพอ กล่องจะต้องแข็งแรงพอนะคะ
ปัญหาที่อาจเจอ
4. สินค้าภายในกล่องเสียหาย
อาจจะมีช้ำ แตก หัก ฯลฯ กรณีนี้ก็ต้องเคลมให้ลูกค้าค่ะ บางคนก็อาจจะใช้วิธีการคืนเงิน บางคนก็อาจจะใช้วิธีการส่งเคลมไปให้ใหม่ ก็พิจารณาเอาตามแต่เห็นสมควรนะคะ
แต่สำหรับข้อนี้ อย่าลืมย้ำลูกค้าทุกครั้งว่า เวลาเปิดกล่องพัสดุให้ถ่าย Video เอาไว้ในทุกขั้นตอน ข้อนี้ก็เพื่อ Save เราด้วย เราก็ไม่รู้ว่าที่สินค้าเสียหายนั้นเกิดจากเสียหายตอนขนส่ง หรือเสียหายจากเรา หรือเสียเพราะลูกค้าทำเองเนาะ
5. ลูกค้าร้องเรียนมาหน้าไลฟ์ เวลาไม่พอใจ
อันนี้ค่อนข้างจะโหดเลย เพราะลูกค้าบุกมาตอนที่เรากำลัง Live สดขายของอยู่ ทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ มองเห็นข้อความนั้นด้วย อาจจะทำให้เราเสียหายได้ ฉะนั้นก็ต้องเตรียมรับมือลูกค้าประเภทนี้เอาไว้ด้วย เพราะเขาจงใจทำให้เราเสียหายแน่นอน
กรณีของได ฯ ที่เจอคือ คุยกับเราจบไปแล้วทางข้อความแชทปกติ ตกลงกันเรียบร้อย แต่ลูกค้าไม่จบ ไปพูดในหน้าไลฟ์สดด้วยข้อความเดิม ๆ อีก ก็ต้องตอบกลับไปหน้าไลฟ์แบบปกติ ไม่โวยวายนะคะ ทำให้เขาเห็นว่าเราจริงใจแค่ไหน
และลูกค้าท่านอื่นก็จะเห็นด้วยว่า เราแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร เราไม่โกง (ก็ไม่ควรจะโกงนะคะ) กรณีได ฯ นั้นเจอลูกค้าร้องเรียนว่า สินค้าไม่ตรงปก กล่าวหาว่าเราสลับสินค้า ทั้ง ๆ ที่ความจริงเราไม่ได้สลับอะไรเลย เพียงแต่สีของสินค้าตอนที่ไลฟ์กับตอนที่ไปถึงลูกค้ามันไม่ค่อยเหมือนกัน ต่างกันนิดเดียว แต่ลูกค้าไม่พอใจ
กรณีนี้ได ฯ เลยแก้ปัญหาไปว่า ส่งเคลมสินค้าตัวใหม่ไปให้ ลูกค้าถึงจะพอใจ ซึ่งลูกค้าแบบนี้หากเราเสียเวลาอธิบายบางทีมันก็ไม่จบ ฉะนั้นต้องหาทางจัดการให้จบเร็ว ๆ เราจะได้ขายของต่อนะคะ
และอย่าลืมขอโทษลูกค้าไปด้วยทุกครั้ง โดยเฉพาะในกรณีที่เราผิดจริง แต่ถึงไม่ผิดบางกรณีเราก็อาจต้องขอโทษนะคะ ก็ควรพิจารณาไปเป็นกรณีไป
แต่ถ้าลูกค้าคนไหนเห็นได้ชัดเลยว่า จงใจสร้างปัญหาให้เราจริง ๆ ก็ควรจะสู้ค่ะ เสียเวลาบ้าง ก็ควรจะทำ เพราะได ฯ ไม่เคยถือว่าลูกค้าคือพระเจ้านะคะ เราบริการให้อย่างเต็มที่แล้ว ถ้ายังมีปัญหาอีกเราเองก็เอาเรื่องเหมือนกัน ที่ทำให้ต้องเสียเวลาทำมาหากินเนาะ
6. ขนส่งล่าช้า สินค้าค้างคลัง
หากเป็นสินค้าที่ไม่ได้เน่าเสียอะไรก็คงจะลดปัญหาลงบ้าง แต่ว่าถ้าเป็นไปได้เราควรจะเลือกใช้บริการขนส่งที่ ส่งเร็วจะดีที่สุด เพราะลูกค้าเอง หรือเราเองมองในมุมที่เป็นลูกค้า ก็ไม่ได้ชอบรออะไรนาน ๆ จริงไหมคะ
7. พัสดุหาย
ข้อนี้วุ่นวายสักหน่อย เพราะมันอาจไม่เกิดขึ้นง่ายนัก แต่มันก็เกิดขึ้นได้ ของได ฯ ที่ขายของมา ยังไม่เคยเจอกรณีนี้นะคะ
แต่ถ้าหากพัสดุหายเราอาจจะต้องเสียเวลาตามเรื่องสักหน่อย ว่าหายที่ใคร หายที่ไหน แล้วก็ต้องเครียร์กับลูกค้าว่าจะจัดการเคลมอย่างไร คืนเงินไหม หรืออะไรดี ก็ลองไปเตรียมวางแผนรับมือดูนะคะ พร้อมกับติดตามขนส่งนั้น ๆ ด้วยว่า พัสดุเราหายไปได้อย่าง
แน่นอนมันมีสาเหตุ เราจะต้องหามันให้เจอ
คิดไม่ออกละจะเขียนอะไรต่อดี
เอาเป็นว่าประมาณนี้นะคะ
สิ่งสำคัญเลยคือ เริ่มลงมือทำ ลงมือลองค่ะ ไม่ลองเราก็ไม่รู้
พอได้ลอง Live ดูเราจะมองเห็นปัญหา มองเห็นโอกาสที่จะไปต่อได้ แล้วจะค่อย ๆ ปรับไปเรื่อย ๆ หากไม่ท้อไปเสียก่อน ยังไงมันก็ต้องได้สิหน่าาา
เอ้าสู้ ๆ ค่าาา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค้าาา
#เราจะผ่านช่วงนี้ไปด้วยกัน ^__^

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา