6 พ.ค. 2021 เวลา 00:36 • ไลฟ์สไตล์
เรามาทำงานที่ญี่ปุ่นได้ยังไง?
ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ
เราชื่อ "เอิน" เป็นคนไทยที่มาทำงานในจ.ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นค่ะ
ก่อนจะมาที่นี่เอินเคยทำงานเป็นล่ามในบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ตอนนั้นอายุ 24 เป็นจุดที่เริ่มคิดว่าจะเปลี่ยนเส้นทางชีวิต(แพลนว่าจะแต่งงานด้วย)ก็เลยลาออกจากบริษัทที่ทำอยู่ ซึ่งเจ้านายญี่ปุ่นในตอนนั้นไม่เชื่อว่าคนแบบเราจะแต่งงาน เค้าคิดว่าเราอยากลาออกด้วยเรื่องอื่นก็เลยกุเรื่องแต่งงานขึ้นมาอ้าง แล้วก็ยังท้าให้เราเชิญเค้าไปงานแต่งของเราด้วย5555555555🤣🤣
1
จริงๆตอนนั้นเราก็คิดเรื่องแต่งงานกับแแฟนที่คบกันอยู่จริงๆแหละ แต่ก็ยังไม่ได้ถึงขั้นคิดไปว่าจะแต่งวันไหน ก็เลยรับจ็อบทำงานเป็นล่ามฟรีแลนซ์รอไปก่อน
สมัยที่ยังไม่ออกจากบริษัทเราก็เคยมีรับจ็อบพิเศษเหมือนกัน เช่น รับเป็นงานล่ามที่มีงานเสาร์-อาทิตย์ แล้วช่วงนั้นงานชุมรุมเร้ามาก เลยมั่นใจว่าถ้าเรามาทำฟรีแลนซ์เต็มตัวงานคงจะเยอะน่าดู แต่ แต่ แต่ มันไม่ใช่!!!
2
ลาออกมาเดือนแรกมีรายได้ 1,200 บาทถ้วน และทำงานอยู่วันเดียวคือเป็นงานสต๊าฟภาษาญี่ปุ่นในการประชุมอะไรสักอย่าง ตอนนั้นก็เริ่มใช้เงินเก็บ เริ่มเครียดแล้วก็เริ่มคิดมากขึ้นว่าเราควรไปแต่งงานแล้วมั้ยแบบนี้?
จากนั้นตัดข้ามมาประมาณ 2 เดือนต่อมา เราก็ยังคงทำงานพิเศษไปเรื่อยๆพร้อมกับเริ่มเก็บของออกจากห้องพักที่กรุงเทพเพราะคิดว่ายังไงอีกไม่นานเราก็ต้องย้ายออกอยู่ดี ไม่ด้วยเรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง
2
งานเลี้ยงต้อนรับวันแรกที่เข้ามาทำงาน
อยู่มาวันหนึ่งเราไปเจอเข้ากับงานๆหนึ่งเค้าประกาศว่า "รับสมัครผู้ช่วยไกด์" รายละเอียดงานคือไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ช่วยไกด์นิดๆหน่อยๆ ค่าแรงไม่แพงแต่ช่วงนั้นเราว่างพอดีแล้วก็สนใจวงการท่องเที่ยวด้วยก็เลยรับ แต่ไม่คิดเลยว่างานนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเราไปตลอดกาล...
7
งานผู้ช่วยไกด์นี้เป็นงานที่ไม่ตรงปกและจกตาที่สุดในชีวิต เค้าบอกแค่ช่วยดูแลลูกทัวร์นิดหน่อยๆ ไม่ต้องมีสกิลญี่ปุ่นมากก็ได้ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่! เราและทุกคนที่มาสมัครงานนี้กลายมาเป็น "ล่าม" ของไกด์ คือไกด์พูดได้แต่ภาษาจีน ไทย อังกฤษแต่ลูกทัวร์เป็นคนญี่ปุ่น ทำให้เราต้องจับไมค์สลับกับไกด์เพื่อแปลให้ลูกทัวร์ฟัง ไกด์พูดมาเราแปลไป พี่ไกด์เก่งมาก ความรู้แน่น เราติดสอยห้อยตามพี่ไกด์ไปทุกที่ เพราะพี่ไกด์มีหน้าที่พาเที่ยวส่วนเราก็แปลที่เค้าพูด ลูกค้าอยากได้อะไรเราก็แปลให้ เป็นความสนุกที่อยู่บนความทุกข์ของตัวเองตลอด 4 วัน
5
ในระหว่างที่ทำงานนั้นเราก็ต้องมองหางานต่อไปตามสไตล์ฟรีแลนซ์ ก็ได้ไปเห็นงานอีกงานหนึ่ง จำได้ว่าเค้ารับสมัครล่ามค่าแรง 5,500 บาท/วัน เราอยากได้มากเพราะเงินนี้จะมาช่วยต่อชีวิตเราไปได้อีกนิด แต่ด้วยความที่งานล่ามให้ไกด์นั้นมันยุ่งมากกก จับมือถือระหว่างทำงานไม่ได้เลยและพักไม่เป็นเวลา เราเลยชวดงานนั้นไปเพราะเค้าไปเลือกอีกคนที่ตอบไลน์เร็วกว่า//ล้องห้ายยย😭😭 ตอนนั้นเจ็บใจมากจนถึงกับเสียน้ำตาออกมาจริงๆ ก็เลยโทรไปบอกแม่ว่าจะกลับบ้านที่พะเยาตอนวันเกิด(ประมาณช่วงกลางมกรา)
งานล่ามวันละ 5,500 บาทมีตอนวันที่ 20 มกราคม เรากลับบ้านช่วงวันที่ 10 กว่าๆมกราคมจนถึงสิ้นเดือน ทุกคนจำตัวเลขตรงนี้กันดีๆนะคะ
2
เรากลับมานอนซึมที่พะเยา จิตใจห่อเหี่ยว ในหัวมีแต่คำว่าห้าพันห้าห้าพันห้าๆๆๆๆๆ ฟาดงวงฟาดงาคิดว่าไม่น่ารับงานล่ามไกด์เลยนู่นนี่นั่น แต่จริงๆแล้วงานล่ามไกด์นี่แหละที่นำโชคมาให้เรา
ช่วยขายอาหารในเมืองซัปโปโร
ด้วยความจกตาของงานเลยทำให้เหล่าล่ามญี่ปุ่นทุกคนเห็นอกเห็นใจกันจนทำให้เราได้สนิทกับเพื่อนล่ามคนหนึ่งในระหว่างทำงานชื่อ "เมย์" ซึ่งเมย์ก็เป็นฟรีแลนซ์ที่ตอนนั้นไม่ค่อยมีงานเหมือนกันเลยได้พูดคุยแลกเปลี่ยน แล้วเมย์ก็ทักไลน์มาบอกเราว่ามีประกาศรับสมัครทำงานในฮอกไกโด ลองไปสัมภาษณ์ดูมั้ย? และวันสัมภาษณ์คือวันที่ 20 มกราคม! ใช่แล้วค่ะทุกคน มันเป็นวันเดียวกับงานล่ามที่เราพลาด บังเอิญกว่านั้นคือเค้านัดสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่ซึ่งห่างจากพะเยาออกไปแค่ 3 ชม. คือมันเป็นเรื่องที่โคดดดดบังเอิญ
ลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นครั้งแรก
เราใส่สูทแบบจั๊กแร้เปียกไปสัมภาษณ์ที่เชียงใหม่(นั่งรถทัวร์จากพะเยาไป 3 ชั่วโมง) สัมภาษณ์เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ทริคการสัมภาษณ์งานของเราก็คือเตรียมResumeให้พร้อม เขียนให้ชัดเจนว่าทำไมเราถึงอยากไปทำงานกับเค้า เรามีข้อดีข้อเสียอะไร ทำไมเราถึงคิดว่าเราเหมาะกับที่นี่ และหาข้อมูลสถานที่ที่เราจะไปทำงานมาก่อนเผื่อเค้าทดสอบความรู้ค่ะ
2
การสัมภาษณ์ผ่านไปได้อย่างราบรื่น และมันทำให้เราลืมเรื่องล่าม 5,500 ไปสนิทเลย55555555🤣 จากนั้นไม่นานเกินรอ สัมภาษณ์วันที่ 20 มกรา สิ้นเดือนมกราคือเรารู้ผลแล้วว่าเราได้งานและงานจะเริ่มภายในเดือนเมษายน! ทีนี้แหละบันเทิงเลย ต้องรีบยกเลิกสัญญาห้องพักที่กรุงเทพ ขนของออกมาให้หมด ไปสอบใบขับขี่เตรียมไว้ และดำเนินการเรื่องทำวีซ่า สารภาพเลยว่าตอนนั้นเรายังไม่เชื่อเลยว่าเราจะได้มาทำงานที่ญี่ปุ่นจริงๆ ในใจก็แอบคิดว่ากูโดนหลอกป่ะวะ? แต่วีซ่าดันผ่านเว้ย! เราเลยเริ่มมีสติว่านี่เค้าไม่หลอกแล้วนี่หว่า เราจะได้ไปทำงานในญี่ปุ่นแบบจริงจังจริงๆไม่ได้ฝัน!...ถึงจะด้วยสัญญาแค่ 1 ปีก็เถอะ😝
2
ช่องNHKมาถ่ายทำการมาทำงานในญี่ปุ่นจอง
อ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนคงงงใช่มั้ยคะว่าแล้วเรื่องแต่งงานล่ะ? แต่งงานทิพย์หรอ? อย่าว่าแต่ทุกคนคิดเลยค่ะ เจ้านายเก่าเราก็คิด ช่วงนั้นเค้าทักมาทวงยิกๆเลย ไหนๆไหนมึงบอกจะแต่งงาน55555555🤣 เออออ ก็ยังไม่แต่งงาย ก็เลื่อนไปก่อนนนน กับแฟนก็คบกันอยู่เนี่ยแหละะะ แต่ยังไม่แต่งงายยย เจ้านายก็เบ้ปากใส่เพราะยังไม่เชื่อ คิดว่าเราทอแหลม🤣//เรายังคบกันดีกับแฟนอยู่ค่ะทุกคน เรื่องแต่งงานก็พักไปก่อน แต่ก็จะแต่งกับคนนี้แหละ บ้าบอพอๆกับเราดี😆
2
ช่วยงานออกบูธในเมืองซัปโปโร
จนวันนี้ทุกอย่างผ่านมา 3 ปีแล้ว เรารู้สึกขอบคุณทุกอย่างรอบๆตัวเสมอที่ทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ ขอบคุณเราที่ว่างงานตอนนั้น ขอบคุณที่เราไปสมัครล่ามไกด์ ขอบคุณที่งานมันจกตาจนเราได้เพื่อน ขอบคุณเมย์ที่แนะนำงานนี้มาให้ ขอบคุณเพื่อนเมย์ที่เอางานนี้มาบอกต่ออีกที ขอบคุณที่เราพลาดงาน5,500 ขอบคุณแม่ที่ฟังเราพร่ำเพ้อเรื่องเสียงาน แล้วก็ขอบคุณทุกๆคนที่อยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะทุกคนที่ติดตามเพจเราก็คงอยู่มาไม่ได้จนถึง 3 ปีแบบนี้หรอกค่ะ เพราะสัญญางานของเราคือปีต่อปี ที่เราได้มีงานต่อก็เพราะได้ทุกคนมาช่วยไลก์แล้วก็ช่วยคอมเมนท์นี่แหละค่ะ
1
จากที่อ่านมาทุกคนคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญกันมั้ยคะ?
สำหรับเราแล้วทุกอย่างมันบังเอิญมากๆแบบลงล็อคเลยค่ะ
และพวกคุณทุกคนที่หลงเข้ามาในเพจนี้ต่างเป็นหนึ่งใน "เรื่องบังเอิญ" ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราเหมือนกันค่ะ🥰🥰🥰
3
รักนะคะ จุ้บๆ😘
4
นักข่าวมาถ่ายรูปไปทำบทความ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา