6 พ.ค. 2021 เวลา 08:20 • หนังสือ
ตอนที่ 7
เลือกใครมาเป็น “โค้ช”
เราจะเลือกใครมาเป็นโค้ชให้กับทีมของเราดี ? คำถามนี้อาจจะอยู่ในใจใครหลายคน
 
เราคงเคยได้ยินการจับคู่ระหว่าง “โค้ช” กับ “ผู้รับการโค้ช” หรือโค้ชชี่ (coachee) ของนักกีฬาเก่งๆ หลายคน พบว่า
 
นักกีฬาบางคนเลือกโค้ช เพราะรู้ว่าตนเองต้องการโค้ชแบบไหน รู้ว่าตนเองอยากเรียนรู้อะไรจากโค้ชคนนั้น
 
เช่นเดียวกัน โค้ชบางคน เลือกนักกีฬาเข้าทีม โดยใช้วิธีการไปดูตัวตอนที่นักกีฬาคนนั้นเล่น ด้วยประสบการณ์และทักษะของโค้ชก็จะมองออกว่านักกีฬาคนนั้นต้องพัฒนาในเรื่องใด จึงจะทำให้เก่งขึ้นได้
สำหรับบางคนที่โค้ชและโค้ชชี่ มีสโมสรหรือองค์กรที่ตนสังกัดอยู่ การจับคู่ระหว่างโค้ชกับโค้ชชี่อาจจะมีปัจจัยเงื่อนไขขององค์กรต้นสังกัดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของโค้ชและโค้ชชี่นั้น ก็ยังเป็นไปเพื่อพัฒนาโค้ชชี่ให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
ซึ่งต้องเกิดจากความร่วมมือกันของโค้ชและโค้ชชี่
เราได้ถอดบทเรียนเพื่อค้นหาคุณสมบัติหลักในการเลือกโค้ช 4 ข้อ ดังนี้
1.เป็นผู้ที่เชื่อมั่นในคุณค่าและศักยภาพของมนุษย์ เชื่อว่ามนุษย์นั้นพัฒนาได้
คนทุกคนอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เติบโต อยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น และอยากประสบความสำเร็จ
2. เป็นผู้ที่ต้องการช่วยเหลือผู้อื่น อยากเห็นผู้อื่นประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
มีความเมตตา กรุณาและอุทิศตัว รวมไปถึงมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
3. เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องการโค้ช และใช้ทักษะการโค้ชเป็น
ไม่ใช่แค่รู้ว่าทักษะโค้ชมีอะไรบ้าง แต่ต้องใช้ทักษะเป็นด้วย เช่น ทักษะการฟัง ทักษะการตั้งคำถาม การสื่อสารสร้างแรงบันดาลใจหรือสื่อสารเชิงบวก การสังเกต และการสังเคราะห์ เป็นต้น
4. มีเครื่องมือและกระบวนการโค้ช
เช่นเดียวกับเรื่องของทักษะการโค้ช ผู้ที่เป็นโค้ชต้องมีกระบวนการในการโค้ช โดยกระบวนการดังกล่าวเป็นการออกแบบของโค้ชที่นำไปใช้กับแต่ละคน เพราะว่าโค้ชชี่แต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน
การที่โค้ชมีเครื่องมือและกระบวนการโค้ช จะทำให้โค้ชสามารถทำการโค้ชได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
เนื่องจากการโค้ชเป็นศิลปะที่ใช้ควบคู่กับจิตวิทยาทางสังคม มนุษย์แต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน
เพื่อให้การโค้ชได้ผล แผนในการโค้ชของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน
คุณสมบัติของโค้ช ใช้ได้ทั้งกับการพัฒนาตัวโค้ชเองให้มีคุณสมบัติดังกล่าว ใช้ในการมองตนเองว่าเรามีคุณสมบัติที่จะเป็นโค้ชหรือไม่
สำหรับโค้ชชี่ที่มองหาโค้ช ก็จะได้มองเห็นว่าตนเองต้องการโค้ชที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
นอกจากคุณสมบัติหลักแล้ว เรายังได้ศึกษาจากโค้ชหลายคน พบว่ายังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่โค้ชใช้ในการพัฒนาตนเองเพื่อเป็นโค้ชที่ดี มีความเป็นมืออาชีพ และสามารถช่วยเหลือโค้ชชี่ให้ได้มากที่สุด
คุณสมบัติเหล่านี้ลงลึกไปในรายละเอียดยิ่งขึ้น เช่น
- โค้ชเป็นผู้ที่มีความสามารถในการทำให้ตัวเองจิตใจสงบ มีสมาธิ มีสติ อยู่กับปัจจุบัน ดึงสติมาอยู่กับตัวได้
แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการสนทนากับโค้ชชี่ เรียกได้ว่าไม่ใช่คนฟุ้งซ่าน จิตเตลิด ไม่ปะติดปะต่อการสนทนา
- โค้ชเป็นคนที่เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดี เรียกได้ว่ามีความเข้าใจโลก เข้าใจชีวิตพอสมควร
มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นแต่ไม่ถึงกับจมลงไปในเรื่องที่โค้ชชี่เล่าให้ฟัง
สามารถจัดระยะห่างของความสัมพันธ์และความรู้สึกได้ เพื่อให้โค้ชสามารถช่วยเหลือโค้ชชี่ได้อย่างมีสติ เพราะหากโค้ชจมอยู่ในความรู้สึก ไม่สามารถดึงตนเองออกมาได้ อาจมีผลต่อการตัดสินใจในการโค้ช
การเห็นอกเห็นใจนั้นเป็นเรื่องที่ดีและโค้ชควรมี แต่อย่าเอาความรู้สึกของคนอื่นมาเป็นความรู้สึกของตนเอง
- โค้ชต้องรู้จักรักษาระยะห่างของความสัมพันธ์ เพื่อให้สามารถรักษามุมมองแบบไม่มีอคติและเป็นกลาง
แม้โค้ชจะมีความปรารถนาดีที่จะช่วยเหลือโค้ชชี่ แต่ต้องไม่ให้อารมณ์หรือความผูกพันส่วนตัวทำให้การช่วยเหลือนั้นยิ่งทำให้โค้ชชี่กลายเป็นผู้ที่ต้องพึ่งพาโค้ช แต่ต้องทำให้ผู้รับการโค้ชเป็นตัวของตัวเอง
- โค้ชที่ดีต้องไม่ตัดสินผู้อื่นโดยใช้กรอบความคิดหรือมุมมองของตัวเอง หลายเรื่องมีที่มาและเหตุผลที่แตกต่างกัน การตัดสินใจว่าจะทำอะไรของแต่ละคนก็มีความซับซ้อนแตกต่างกัน โค้ชต้องเปิดมุมมอง ความคิดและรับฟังด้วยใจที่นิ่งพอ
- โค้ชต้องมีความเชื่อมั่นในตนเองว่าสามารถช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการโค้ชได้
แต่ต้องไม่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ เพราะหากโค้ชมองตนเองเป็นศูนย์กลางอาจทำให้โค้ชครอบงำทางความคิดและชี้นำให้โค้ชชี่ไปในทิศทางที่ตนต้องการ
- โค้ชต้องรู้จักปล่อยวาง เช่นเดียวกับเรื่องของไม่เอาแต่ความคิดของตัวเอง โค้ชต้องรู้จักวางความรู้ ประสบการณ์ กรอบความคิด ความเชื่อ และค่านิยมของตนไว้ก่อน เพื่อให้สามารถมองเห็นความรู้ ประสบการณ์ ความคิด ความเชื่อ ค่านิยมของโค้ชชี่ และทำความเข้าใจเขาจากสิ่งเหล่านั้น
 
- โค้ชที่ดีต้องไม่ใช้การโน้มน้าวหรือชี้นำให้โค้ชชี่ไปในเส้นทางที่โค้ชต้องการ สิ่งที่ควรใส่ใจมากที่สุดคือเป้าหมายของโค้ชชี่ และตัวตนของเขา
สิ่งที่โค้ชควรทำคือการทำให้โค้ชชี่ไปถึงเป้าหมายของเขาด้วยตัวของเขาเอง
 
โค้ชที่ถูกเลือก จึงจะได้ทำหน้าที่โค้ชจริงๆ
การเรียนรู้และการพัฒนาตน ขัดเกลาและฝึกฝนให้ตนเองเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะช่วยเหลือสนับสนุนให้คนอื่นประสบความสำเร็จได้ จึงจะเป็นผู้ที่เข้าถึง "ความเป็นโค้ช" อันเป็นคุณลักษณะของโค้ชที่แท้จริง
ขอบคุณภาพประกอบจาก Nok S และ กุลธวัช เจริญผล
โฆษณา