6 พ.ค. 2021 เวลา 09:10 • ไลฟ์สไตล์
#เรื่องเล่าระหว่างทางกลับบ้าน
เมื่อวานในระหว่างที่แอดมินเดินทางกลับบ้านจากที่ทำงานตามปกติในตอนเย็น อยู่ๆหิมะก็ตกลงมาหนักมาก เมืองแอดมินที่เงียบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ยิ่งเงียบเข้าไปอีก ในภาพคือยังไม่ 6 โมงเย็น แต่ท้องฟ้ามืดเหมือน 3 ทุ่ม ด้วยความที่มันเงียบและมืด เราก็รู้สึกเหมือนได้อยู่กับตัวเอง และมีสมาธิในการเดินแต่ละก้าวมากๆ ในขณะที่เดินและมองหิมะตกด้านหน้าเงียบๆในหัวก็มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาว่า “นี่ไม่ใช่ภาพที่เราฝันถึงเมื่อ 10 ปีที่แล้วหรอ?” คำตอบก็คือ “ใช่” แต่ทำไมเราไม่รู้สึกตื่นเต้นไปกับมันล่ะ? เราควรจะหัวใจพองโตมากกว่านี้ไม่ใช่หรอ?
3
ทางกลับบ้านแสนเหงา
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนแอดมินอยู่ประมาณม.5 เป็นช่วงที่อยากไปอยู่ต่างประเทศมากๆ เคยมาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น 10 วันครั้งหนึ่งก็ยังรู้สึกไม่พอ คิดว่าคนพูดได้หลายๆภาษามันเท่ เราเลยอยากเป็นแบบนั้นบ้าง ก็พยายามไปสอบทุนแลกเปลี่ยนต่างๆ ทั้งyes ef oeg ฯลฯ ถึงขั้นยอมนั่งรถทัวร์จากเชียงใหม่แล้วมาพักกับน้าเพื่อสอบสัมภาษณ์ในกรุงเทพเลยค่ะ แต่ทางครอบครัวก็ไม่ได้มีเงินมากพอจะซัพพอร์ตตรงนี้ เราเลยต้องหาทุนฟรี 100% เท่านั้น สุดท้ายก็มาตกที่รอบสัมภาษณ์ทุกที เลยต้องยอมถอดใจไป
1
ชีวิตของแอดมินมาเปลี่ยนอีกทีตอนเข้ามหาวิทยาลัยค่ะ ตอนนั้นทะเลาะกับที่บ้าน เลยตั้งใจว่าจะไม่เรียนต่อมหาลัยและไปทำงานโดยไม่ง้อเงินที่บ้านอีก แต่บังเอิญมากๆที่ได้เข้าไปในเว็บเด็กดีแล้วเจอเข้ากับ “ทุนรัตนมงคล” ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นทุนที่ให้เรียนฟรี 4 ปีพร้อมเงินเดือนเดือนละ 6,000 บาท ตอนนั้นคิดว่าถ้าเราได้ทุนนี้ก็ถือว่าเราได้ออกจากบ้านมาโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินครอบครัวจริงๆ และโชคดีมากๆที่ม.หอการค้ามีคณะมนุษย์ศาสตร์เอกภาษาญี่ปุ่นด้วย แอดมินเลยเลือกเรียนสาขานี้ค่ะ
หิมะเต็มหัวเลย
การสอบของทุนรัตนมงคลจะใช้my choiceสอบ(ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังใช้กันอยู่มั้ย) เป็นเหมือนแป้นกดที่ลงทะเบียนชื่อคนกดเอาไว้ พอกดตอบเครื่องจะคิดคะแนนให้ทันที รู้ผลกันวันนั้นสัมภาษณ์กันวันนั้นเลย ด้วยความที่เราเป็นเด็กกะโปโลมาจากบ้านนอก เราก็ดันไปถามอาจารย์สอบสัมภาษณ์ว่านี่หนูสอบผ่านแล้วใช่มั้ยคะ อย่าบอกนะคะว่ายัง หนูโทรไปอวดเพื่อนแล้วนะคะ อาจารย์ขำกันพรืด//เขินเลย🥴
พอเข้ามหาวิทยาลัยได้ เป้าหมายต่อมาของแอดมินก็คือการไปwork and travelที่อเมริกา สมัคร จ่ายเงิน และสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่าน้ำท่วมกรุงเทพข่าาาาา สุดท้ายเลยโดนเลื่อนไป 1 ปี แอดมินเลยได้ไปอเมริกาจริงๆตอนปี2 เป็นระยะเวลา 3 เดือน(เรื่องเล่าเยอะมากก ขอเก็บไว้เล่าโพสต์หน้าค่ะ)ก็ยังรู้สึกไม่พอ รู้สึกอยากไปอยู่ต่างประเทศเป็นปีๆ อยากไปทำงานต่างประเทศที่ไหนก็ได้ ถ้าได้ญี่ปุ่นก็ดี ตอนปี4แอดมินสอบผ่านทุนธนาคารยามากุจิทำให้ได้ไปเรียนฟรีที่จ.ยามากุจิ 1 ปีพร้อมเงินเดือนเดือนละ 60,000 เยน เหมือนเป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งของชีวิต หลังจากกลับไทยไปก็ต้องไปเรียนต่อเพราะช่วงนั้นประเทศไทยเข้าASEANเลยได้เลื่อนเปิดเทอมไปเป็นเดือนสิงหาคม ทำให้หน่วยกิตที่เราต้องเก็บไม่สามารถเก็บได้ในเทอมเดียว แอดมินเลยได้เรียนเทอมละวิชา ระหว่างนั้นก็ทำงานล่าม+สอนหนังสือตามบ้านไปด้วย แต่ในใจก็ยังไม่ลืมความฝันที่อยากจะไปทำงานต่างประเทศ
1
หลังจากนั้นผ่านมา 2 ปีแอดมินถึงได้มาทำงานที่ญี่ปุ่นจริงๆ นับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงานในฮอกไกโดก็ผ่านมาได้เกือบ 3 ปีแล้ว ชีวิตเดิมๆโต๊ะทำงานเดิมๆทางกลับบ้านเดิมๆซุปเปอร์มาร์เก็ตเดิมๆ เห็นแล้วก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรอีก แต่พอได้ยินเสียงในหัวของตัวเองถามกลับมาว่านี่ไม่ใช่ชีวิตที่เราฝันถึงและดิ้นรนให้ได้มามากๆตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อนหรอกหรอ? ทำไมเราไม่ประทับใจและใช้ชีวิตให้คุ้มกว่านี้? ตัวเราในวัย 17 ต้องรู้สึกอิจฉาเราตอนนี้มากแน่ๆที่ได้มาทำงานที่ญี่ปุ่น
ตั้งแต่วันนี้ไปแอดมินเลยตัดสินใจว่าอยากจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับที่สู้มากกว่านี้ จะรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งรอบตัวให้มากกว่านี้
ผ่านมา 10 ปีแล้วตั้งแต่เริ่มฝัน...ขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมแพ้ ขอบคุณคนที่แนะนำงานนี้มาให้ ขอบคุณตัวเองที่ไม่ปฏิเสธเมื่อมีโอกาส ขอบคุณครอบครัวที่ไม่เคยห้ามในสิ่งที่เราอยากทำ แล้วก็แอดมินต้องขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามเพจด้วยค่ะ
ทุกคนคือส่วนหนึ่งในความสำเร็จของแอดมินจริงๆ ดีใจนะคะที่ได้มาพบกันในที่แห่งนี้ ถ้าแอดมินเลือกทางเดินอื่นเราอาจจะไม่ได้มาเจอกันแบบนี้ก็ได้ค่ะ😚🥰
4
หน้าที่ทำงานเราเองค่ะ
แอดมินหวังว่าฝันของทุกคนจะเป็นจริงเหมือนกันนะคะ ไม่ว่าจะฝันเล็กฝันใหญ่ ถ้าเราทำได้ตัวเราในอดีตที่เคยฝันก็คงจะรู้สึกอิจฉาเรามากๆแล้วค่ะ😄
ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของทุกคนเช่นกันนะคะ💕
บันทึกเมื่อ 1 ธันวาคม 2020

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา