คุณนาม
- ก่อนเจอโควิดรอบแรก ช่วงนั้นเป็นขาขึ้นของโทฟุซัง โตประมาณ 40% ต่อปี รายได้ปีก่อนนั้น 400 ล้านบาท มีการลงทุนจะทำ UHT ลงทุนไป 200 ล้านบาท มีจ้างดาราพรีเซนเตอร์โฆษณาโทรทัศน์ มีสต็อกเยอะมาก พอโควิดมา ทุกอย่างก็เงียบมาก Traffic ในร้านค้าที่เป็น Traffic หลักยอดขายหายไป 30-40% ค่าเสื่อมราคาก็บวมไปเยอะ รวมๆ แล้ว 2 ปีรวมกันเราติดลบไปเกือบ 60 ล้านบาท
- เรื่องการดูแลพนักงาน ก็ให้ Work from home กันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนที่รัฐจะประกาศให้ล็อกดาวน์ เพื่อลดความเสี่ยงกับพนักงาน
- สำหรับโปรเจ็กแจกของ คือเรามีสต็อกสินค้าที่รอขายอยู่ และสินค้าของเรามันมีวันหมดอายุ ตอนแรกคิดว่าจะเอามาลดราคา แต่สุดท้ายเราเอาไปแจกให้โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ดีกว่า ตัวเราเองก็แฮปปี้ที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น แล้วยังเป็นการทำ Branding ที่ดี
- โควิดระลอกนี้ เรามีการสื่อสารกับพนักงานว่าปีนี้มันหนักจริงๆ ถ้าเราจะล่ม เราจะล่มไปด้วยกัน ถ้าเราจะรอด เราก็ต้องรอดไปด้วยกัน
- เปิดอกคุยกับพนักงาน ขอให้ลองช่วยกันทำตามแผนที่วางไว้ เราอยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นองค์กรที่ทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จากที่เป็นเครื่องดื่มถั่วเหลืองอย่างเดียว จริงๆ หลังบ้านเรามี Knowhow มี Innovation เรื่องอาหารสุขภาพเยอะมาก มีงานวิจัยลงลึกระดับเอนไซน์เลย
- เรามีความรู้เรื่องอาหาร และร่วมมือพัฒนาสินค้ากับแบรนด์อื่นๆ เช่น เถ้าแก่น้อย เซเว่นอีเลฟเว่น วันนั้นเริ่มทำ วันนี้เราเริ่มเป็นผู้นำแล้ว
- วันนี้เรามีโปรดักต์เพื่อสุขภาพออกมาวางขายแล้ว เราทำสินค้าส่งออกที่เป็นที่ต้องการของตลาด คือนมมะพร้าว ซึ่งฝรั่งชอบกันมาก
- พัฒนาความหลากหลายของโปรดักต์ เมื่อก่อนคนกินโทฟุซังตอนเบรก หรือระหว่างมื้อ แต่หลังจากมีโควิด ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรม จากที่เคยเดินไปซื้อในร้านสะดวกซื้อเมื่อหิว ก็เปลี่ยนเป็นซื้อไซส์ลิตร มาเทกิน
- เราหันมาทำ Data Learning แบบจริงจังมากขึ้น เรารู้เลยว่าร้านค้าไหนขายได้เท่าไหร่ ต้องสต็อกเท่าไหร่ เรามอนิเตอร์ขนาดนี้เลย เพราะโปรดักต์เรามีอายุแค่ 2 อาทิตย์
- สิ่งที่คุณแท็ปทำ มีความคล้ายกับโทฟุซังมาก คือพยายามเคลียร์หลังบ้าน ทำการบ้านว่าเรามีอะไรทำอะไรบ้าง เพราะสินค้าเรา shelf life สั้นมากๆ จึงต้องศึกษาและแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด
- สิ่งที่พยายามทำคือ ยอดขายไม่เพิ่ม แต่ค่าใช้จ่ายลด ทำให้เรามีกำไร เช่น ฝ่ายบัญชีต้องรู้จักโครงสร้างต้นทุนมากขึ้นเพื่อดูว่าค่าใช้จ่ายตรงไหนลดได้บ้าง ส่วนเซลก็ไปขายของทำรายได้เข้าบริษัท
- พยายามคิดนอกกรอบให้มากๆ ทำให้เรา Lean มากขึ้น ก็รอดมาได้เพราะ Lean ตัวเอง