เทคนิคการเล่น วิงแบ็ค(Wingback)
#ChangsuekAI
ในยุคหลังปี 2000 ผู้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ค ถูกพัฒนาให้มีบทบาทกับเกมรุกมากยิ่งขึ้น เสมือนเอาปีกมารวมกับแบ็ค กลายเป็นคำว่าวิงแบ็ค (Wingback) ที่มีรากศัพท์มาจากคำว่า ปีก(Wing) และ ฟูลแบ็ค (Full back) ดังนั้นวิงแบ็คจึงมีความหมายว่า กึ่งแบ็คกึ่งปีก
ผู้เล่นตำแหน่งวิงแบ็คจึงจำเป็นต้องเป็นกองหลังที่มีทักษะเกมรุกโดดเด่น มีพละกำลังมหาศาล สามารถวิ่งขึ้นลงได้ตลอดทั้งเกม และผู้เล่นชื่อดังในตำแหน่งนี้เช่น มาร์เซโล่,แดเนี่ยล อัลเวส,จอร์ดี้ อัลบา หรือนักเตะไทยอย่าง สันติภาพ จันทร์หง่อม , สุวิทย์ ไปรพรมราช เป็นต้น
วันนี้ Changsuek AI จะมานำเสนอเทคนิคต่างๆที่สำคัญสำหรับผู้เล่นตำแหน่งวิงแบ็ค ให้ผู้อ่านทุกท่านได้ติดตามและนำไปปรับใช้กันครับ
#พลังไดนาโม
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่นตำแหน่งนี้คือพละกำลังมหาศาลที่สามารถวิ่งขึ้นลงได้ตลอดทั้งเกม
ตามทฤษฎี Game Demand บ่งบอกว่าผู้เล่นตำแหน่งแบ็คคือตำแหน่งที่มีค่าเฉลี่ยการวิ่งมากที่สุดในการเล่นฟุตบอล เฉลี่ยที่ 11-13 กิโลเมตร/เกม ดังนั้นการฝึกฝนความทนทาน การระเบิดพลัง จึงสำคัญมากในตำแหน่งวิงแบ็ค
#เอาชนะในสถานการณ์ 1 ต่อ 1
ด้วยความที่เป็นตำแหน่งที่ต้องเติมเกมรุกตลอดเวลา ทำให้วิงแบ็คจำเป็นต้องดวลเพื่อเลี้ยงผ่านผู้เล่นเกมรับ หรือแม้แต่ความที่เป็นกองหลัง ทำให้วิงแบ็คต้องดวลกับผู้เล่นเกมรุกเช่นกัน ความสามารถในการเอาชนะในสถานการณ์ 1 ต่อ 1 จึงสำคัญมากสำหรับตำแหน่งที่ต้องรุกและรับตลอดเวลาอย่างวิงแบ็ค
#ครอสบอลแม่นยำ
การครอสบอลแม่นคือคุณสมบัติที่ผู้เล่นริมเส้นพึงจะมี และในฟุตบอลสมัยใหม่ ที่ผู้เล่นปีกมักจะตัดเข้าในเพื่อรอทำประตูมากยิ่งขึ้น ทำให้แบ็คกลายเป็นตำแหน่งที่ได้เติมเกมรุกเพื่อมาครอสบอลมากที่สุด แต่จะมีประโยชน์อะไรหากสามารถเติมเกมรุกได้ทั้งเกม แต่จังหวะสุดท้ายคือการครอสนั้นขาดความแม่นยำ และไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้
ดังนั้นการฝึกทักษะการครอสจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผู้เล่นตำแหน่งนี้
#ให้เพื่อนแทนตำแหน่งทุกครั้ง
จุดอ่อนใหญ่ของผู้เล่นตำแหน่งวิงแบ็คคือเมื่อเติมเกมรุกสูง มักจะเป็นการเปิดพื้นที่ด้านหลังให้คู่แข่งโจมตีเมื่อเสียบอล และผู้เล่นวิงแบ็คก็มักจะลงมาเล่นเกมรับไม่ทันเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจึงต้องรู้จักการหมุนตำแหน่งให้เพื่อนเช่นกองกลางตัวรับ มาคอยแทนตำแหน่งทุกครั้งที่วิงแบ็คเติมเกมรุกสูง
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
