10 พ.ค. 2021 เวลา 12:02 • ธุรกิจ
CJ Express ร้านสะดวกซื้อสัญชาติไทย ที่มีรายได้เกินหมื่นล้าน
1
เชนร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ในบ้านเรา ส่วนใหญ่มักเป็นแบรนด์ที่มาจากต่างประเทศ
ที่บริษัทไทยไปขอซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์มาเปิด หรือซื้อหุ้นต่อมาอีกทอดหนึ่ง
2
แต่ในสมรภูมิร้านสะดวกซื้อนี้ มีผู้เล่นอยู่รายหนึ่ง ที่น่าจับตามอง
ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากในประเทศไทย และมีเจ้าของเป็นคนไทย
นั่นคือ “CJ Express”
CJ Express ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดยคุณวิทย์ ศศลักษณานนท์
ภายใต้บริษัท พี เอส ดี รักษ์ไทย จำกัด
ซึ่งเปิดให้บริการสาขาแรกในจังหวัดราชบุรี ในลักษณะร้านค้าส่งขนาด 2 คูหา
ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น ร้านกึ่งสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต ที่เน้นขายสินค้าอุปโภคบริโภค ในราคาประหยัด
5
ด้วยกลยุทธ์ด้านราคา ซึ่งพยายามทำให้สินค้าภายในร้าน ขายในราคาที่ถูกกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไป
บวกกับการจัดโปรโมชันลดราคาอยู่บ่อย ๆ
รวมถึงภายในร้าน ยังมีการวางขายสินค้าแบรนด์เล็ก ๆ ซึ่งเป็นสินค้าที่หาซื้อไม่ได้ตามร้านสะดวกซื้ออื่น ๆ
1
ทำให้กิจการของ CJ Express ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากคนในพื้นที่
พร้อมกับได้ขยายสาขา ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
1
พอดำเนินกิจการมาได้ 8 ปี หรือปี พ.ศ. 2556
CJ Express ก็เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่..
2
เมื่อคุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง, ประธานกรรมการ และหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของคาราบาวกรุ๊ป เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่ม “คาราบาวแดง”
พร้อมด้วยพันธมิตร ได้เข้ามาซื้อหุ้นส่วนใหญ่ มากกว่า 80% ของบริษัท พี เอส ดี รักษ์ไทย จำกัด
และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด
9
ซึ่งในตอนนั้น CJ Express มีอยู่ประมาณ​ 200 สาขา
 
หรือก็คือ CJ Express ได้ถูกเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิม ไปสู่คนที่เป็นเจ้าของคาราบาวกรุ๊ป
อย่างไรก็ดี แม้จะมีเจ้าของเดียวกัน แต่ทั้ง 2 บริษัทนี้ ต่างก็มีการดำเนินงาน ที่แยกออกจากกัน
7
หลังจากคุณเสถียร เข้ามาบริหาร CJ Express
เขารู้ดีว่า ในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง
หากอยากอยู่รอดในธุรกิจนี้ และต้องต่อกรกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าตลาดอยู่ได้นั้น
ธุรกิจก็ต้องมีการสร้างจุดเด่น หรือความแตกต่าง ขึ้นมา
1
ซึ่งนอกจากจุดแข็งเรื่องราคา ที่ CJ Express มีความได้เปรียบอยู่แล้ว
CJ Express ก็ได้มีการนำโมเดลการสร้างร้านค้าย่อยภายในร้านค้า เข้ามาปรับใช้
กล่าวคือ ภายในร้าน CJ Express จะมีโซนให้บริการอยู่หลายโซน เช่น โซนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค, โซนร้าน NINE Beauty จำหน่ายสินค้าความงาม และโซน Bao Café ที่เป็นร้านกาแฟ
เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ ให้กับลูกค้าที่เข้ามาภายในร้าน
9
ในส่วนของการขยายสาขานั้น
CJ Express จะใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ก็คือ จะเน้นขยายสาขาไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด, รอบนอกกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน ซึ่งทำเลที่ตั้งส่วนใหญ่ จะเน้นทำเลรองหรือถนนรอง
เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันจากคู่แข่งรายใหญ่
10
จากนั้น เมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักและติดตลาดแล้ว รวมถึงธุรกิจมีรากฐานที่แข็งแกร่ง ยึดพื้นที่รอบนอกได้แล้ว
ก็จะค่อย ๆ ขยายสาขามาสู่ตัวเมืองหรือใจกลางเมืองมากขึ้น เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด
2
ซึ่งสาขาใหม่ ๆ ของ CJ Express มักจะใช้ชื่อว่า “CJ Supermarket”
2
ขึ้นชื่อว่าเป็น เชนร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ สัญชาติไทยแท้ ๆ
แล้วธุรกิจนี้ จะสามารถสร้างรายได้ มากแค่ไหน ?
3
บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด
ปี 2561 มีรายได้ 11,582 ล้านบาท กำไร 262 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 13,797 ล้านบาท กำไร 358 ล้านบาท
1
และคุณเสถียร ได้กล่าวว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมา
บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท และมีกำไรราว 1,000 ล้านบาท
5
เมื่อเทียบกับจำนวนสาขา ของร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ในประเทศไทย
7-Eleven มีอยู่ 12,432 สาขา
FamilyMart มีอยู่ 901 สาขา
LAWSON 108 มีอยู่ 142 สาขา
2
ส่วน CJ Express และ CJ Supermarket มีอยู่ 600 สาขา ครอบคลุมมากถึง 29 จังหวัด
ได้แก่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, นครปฐม, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, กาญจนบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ชุมพร, ชัยนาท, ระยอง, สระบุรี, สิงห์บุรี, นครราชสีมา ฯลฯ
7
อย่างไรก็ดี คุณเสถียร ได้มองว่า คู่แข่งจริง ๆ ของ CJ Express และ CJ Supermarket
กลับไม่ใช่ 7-Eleven ก็เพราะจำนวนสาขาต่างกันมากเกินไป
และ 7-Eleven มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากสินค้ากลุ่มอาหารเป็นหลัก
2
ในขณะที่ CJ Express และ CJ Supermarket เน้นขายสินค้าอุปโภคบริโภค ในราคาประหยัดเป็นหลัก เหมือนกับไฮเปอร์มาร์เก็ต
ดังนั้น ถ้าว่าด้วยตำแหน่งทางการตลาด คู่แข่งโดยตรงน่าจะเป็น Mini Big C และ Lotus’s go fresh (รีแบรนด์มาจาก Tesco Lotus Express) เสียมากกว่า
4
ซึ่งปัจจุบัน Mini Big C มีมากกว่า 1,100 สาขา
ส่วน Lotus’s go fresh มีมากกว่า 1,600 สาขา
4
จะเห็นว่า ถ้าวัดกันที่จำนวนสาขา CJ Express และ CJ Supermarket จะมีสาขาน้อยกว่าพอสมควร
แต่มองอีกมุม ก็แสดงว่า ธุรกิจยังมีพื้นที่และโอกาส ในการขยายสาขาได้อีกไม่น้อย..
3
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ เมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา
บริษัทได้มีการเปิดตัว “CJ MORE”
Flagship Store รูปแบบใหม่ บนพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตร ใจกลางย่านสีลม
9
เพื่อต้องการสร้างร้าน ที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น เอาไว้เป็นโมเดลในการขยายสาขาในอนาคต
โดยยึดคอนเซปต์ การเป็นมากกว่าธุรกิจค้าปลีกทั่วไป
ซึ่งจะเป็นสถานที่ ที่รวบรวมแบรนด์ร้านประเภทต่าง ๆ ของบริษัท มาไว้ในที่เดียวกัน
และแบ่งออกเป็นโซน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครบครัน เช่น
6
- CJ Supermarket แบรนด์ค้าปลีกดั้งเดิมของบริษัท เน้นสินค้าด้านอุปโภคบริโภค
3
- NINE Beauty ร้านค้าปลีกเครื่องสำอางแบบมัลติแบรนด์
เจาะกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเอง
2
- Bao Café ร้านคาเฟ ตอบโจทย์หนุ่มสาววัยทำงานยุคใหม่
2
- UNO โซนสินค้าไลฟ์สไตล์สุดชิก ทั้งเครื่องเขียน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าแฟชั่น
เอาใจกลุ่มลูกค้าทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน
- A-Home รวมสินค้าแต่งบ้านสำหรับคนรักบ้าน มีทั้งอุปกรณ์ในห้องครัว อุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ
เจาะกลุ่มวัยทำงาน ที่ต้องการอุปกรณ์ภายในบ้าน แต่ไม่สะดวกไปร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้า
4
- CJ MORE Food Hall แหล่งรวมร้านอาหารเด็ด ร้านในตำนานระดับมิชลิน อย่าง เอลวิส สุกี้ คั่วไก่ & ซีฟู้ด
รวมถึงโซน Pop-up ร้านอาหารและร้านขนมหวานชื่อดังทั่วกรุงเทพฯ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนมาออกร้าน
6
สำหรับเส้นทางในอนาคตของ CJ Express
คุณเสถียร ตั้งเป้าว่าจะขยายสาขาให้ได้ไม่น้อยกว่า 1,000 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 30 จังหวัด
2
และมีแผนจะนำบริษัท เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2565
เพื่อระดมทุนรองรับการขยายสาขา และรับมือกับการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีก ที่ดุเดือดมากขึ้นทุกวัน..
4
โฆษณา