25 พ.ค. 2021 เวลา 01:30 • ธุรกิจ
หากคุณได้รับข้อเสนอที่เกินความคาดหมายในวันที่คุณยังไม่แน่ใจว่าต้องเดินไปทางไหน และยังไม่มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง คุณจะรับมันไว้ไหม?
.
วันนี้ Career Fact ขอนำเสนอเรื่องราวของ ‘คุณจูน’ ณัชชา รชตวรภรณ์ ผู้ที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อรับข้อเสนอที่เธอไม่คาดคิด พร้อมกับการแบกรับความคาดหวังของคนรอบตัวเอาไว้บนบ่า
.
เรื่องราวของเธอเริ่มต้นอย่างไร ติดตามได้ที่นี่
.
.
#ชีวิตในรั้วบัญชีจุฬา
.
หลายคนในวัย 15 ปี อาจยังมองไม่เห็นว่าจะปูเส้นทางชีวิตตัวเองไปทางไหน แต่นั่นไม่ใช่กรณีของคุณจูนแม้แต่น้อย ในช่วงขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 คุณจูนสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า เธออยากเข้าคณะบัญชี ภาคอินเตอร์ของจุฬา เพราะเธออยากพัฒนาในสิ่งที่เธอถนัดที่สุดให้เก่งมากขึ้น นั่นคือเลข และภาษาอังกฤษ
.
เมื่อเธอเข้าคณะบัญชี จุฬาได้ตามที่วางเป้าหมายไว้ คุณจูนในปี 1 นับได้ว่าเป็นสายกิจกรรมจนแทบไม่ได้สนใจเรียนเลย แต่แล้ววันหนึ่ง เธอฉุกคิดได้ว่า เธอควรเริ่มหันมาสนใจการเรียนได้แล้วหากเธออยากเรียนจบแล้วมีงานทำที่ดี แล้วในที่สุดก็กลับมาตั้งใจ้รียนจนคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 มาได้
.
โดยเธอใช้เวลาช่วงปี 2 ถึงปี 4 ในการพยายามหาประสบการณ์เพิ่มเติมให้ได้มากที่สุดเพื่อค้นหาตัวเองว่าชอบ และไม่ชอบอะไร เธอได้มีโอกาสไปฝึกงานในสายงานไฟแนนซ์ ที่ CIMB security, Citibank, และ Phatra Security ซึ่งเธอค้นพบว่า ‘นี่แหละคือสิ่งที่เธอชอบ’
.
แต่แล้วในช่วงปี 4 เธอได้เข้าเรียนวิชา Management Consulting ซึ่งทำให้เธอได้รู้จักกับงานสาย Consulting เธอรู้สึกตื่นเต้น และคิดว่านี่เป็นงานอีกด้านที่น่าสนใจ เธอจึงไปสมัครเข้าชมรม Case Club ของคณะ และได้มีโอกาสไปแข่งเคสธุรกิจที่ต่างประเทศ การไปแข่งเคสในครั้งนั้นเป็นการตอกย้ำตัวเองว่า เธออยากทำงานด้าน Consulting มากกว่าสายงานไฟแนนซ์จริงๆ
.
.
#ชีวิตการทำงาน
.
หลังจากเรียนจบเพียงแค่ 1 อาทิตย์ คุณจูนก็ไม่รอช้า เธอสมัครและได้รับเข้าทำงานที่บริษัท Boston Consulting Group เป็น Case Team Assistance เพื่อทดลองงานสาย Consult ที่เธอสนใจ ก่อนจะย้ายไปทำที่บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจสัญชาติไทยอย่าง Bluebik Group Public Company Limited และโดยยังคงดูแล ‘KEEPS’ ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ของตัวเองที่เริ่มทำตั้งแต่สมัยเรียนจบควบคู่ไปด้วย
.
ในระหว่างทำที่ Bluebik ได้ประมาณครึ่งปี เธอได้มีโอกาสเป็นที่ปรึกษาให้กับโปรเจ็คที่เกี่ยวกับ Tech Startup เธอรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เธอสนใจมากกว่า Industry อื่นๆ ที่เคยลองทำมา เธอจึงตัดสินใจลาออกมาทำงานที่สตาร์ทอัปชื่อดังระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง Grab ในตำแหน่ง Strategy Associate แทน และเมื่อทำที่ Grab ได้ประมาณแปดเดือน เธอก็ตัดสินใจลาออกอีกครั้งเพื่อมาทำ KEEPS ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ของเธออย่างเต็มตัว
.
.
#ที่มาของKEEPS
.
ไอเดียเปิดร้านเสื้อผ้าของเธอเริ่มต้นจากตอนที่เธอต้องหาชุดใส่ไปแข่งเคสที่ต่างประเทศ ซึ่งตอนนั้นตัวเลือกมีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว ทับด้วยสูทสีดำ และกระโปรงยาวคลุมเข่า การแต่งตัวสไตล์นี้ทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวเอง และไม่มั่นใจ ซึ่งขัดกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำ เพราะในการแข่งเคส เธอต้องพรีเซนต์กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อโน้มน้าวใจคณะกรรมการ และนั่นแปลว่าเธอต้องมีความมั่นใจในตัวเอง และสิ่งที่เธอจะพูดในระดับหนึ่ง
.
เธอจึงเกิดความคิดที่ว่า ‘ในเมื่อเธอยังใส่ชุดที่เธอยังไม่มั่นใจ เธอจะไปโน้มน้าวคณะกรรมการให้มาเชื่อเธอได้อย่างไร?’ และหากเธอจะทำงานสาย Consulting จริงๆ เธออยากได้เสื้อผ้าที่เธอใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ และเป็นตัวเองมากกว่านี้ นี่จึงเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ของ KEEPS ตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ “Formal doesn’t have to be boring” เธอยังอยากทำแบรนด์เสื้อผ้าที่สื่อถึงความเป็น “Wearable empowerment” อีกด้วย
.
นอกจากนี้ เธอได้มองเห็นโอกาสนำชุดทำงานแนวนี้มาทำเป็นธุรกิจ เพราะเพื่อนๆ รอบตัวของเธอก็ยังไม่รู้ว่าจะซื้อชุดทำงานที่เป็นทางการ แต่ดูมีสไตล์ได้จากที่ไหน เธอมองเห็นถึงขนาดความใหญ่ของตลาด และ เมื่อชุดทำงานก็ต้องใส่ถึง 5 วันต่อสัปดาห์ เธอคิดว่ามันไม่มีเหตุผลอะไรที่คนจะไม่จ่ายเงินให้กับสิ่งนี้
.
เมื่อเธอได้ไอเดียแล้ว เธอจึงเดินทางไปที่พาหุรัตเพื่อเลือกซื้อผ้าโดยที่ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย แต่อาศัยวิธีการ Learning by doing และค่อยๆ ให้เจ้าของร้านแต่ละร้านช่วยสอนเธอ
.
╔═══════════╗
อยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องเรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จ
Cariber ความสำเร็จที่เรียนรู้ได้
╚═══════════╝
.
#มองความชอบให้เป็นธุรกิจ
.
สำหรับคุณจูน การวาดรูป และการออกแบบถือเป็นความชอบส่วนตัวของเธอ บวกกับเป็นคนชอบแต่งตัว และช่วยแปลงโฉมให้เพื่อนๆ อยู่บ่อยครั้ง ทำให้การดีไซน์แบบเสื้อผ้านั้นไม่ได้ยากเกินความสามารถ ส่วนในด้านการทำธุรกิจก็ไม่มีปัญหา เพราะเธอสามารถนำความรู้จากการเรียนที่คณะ ผสมผสานกับการทำงานสาย consult และ startup มาปรับใช้ได้อย่างดี
.
สำหรับพี่สาวของคุณจูน ผู้ร่วมก่อตั้ง KEEPS ก็มีความเชี่ยวชาญกันคนละด้านที่เธอถนัด คือด้านการสร้างแบรนด์ดิ้ง และการตลาด KEEPSs จึงเป็นส่วนผสมของสองพี่น้องที่ลงตัวมากเลยทีเดียว
.
.
#ข้อเสนอที่คาดไม่ถึง
.
ในวันที่คุณจูนตัดสินใจมาร่วมงานกับ Grab ก็เป็นวันเดียวกันกับที่หัวหน้างานของเธอที่ Bluebik ติดต่อมามยื่นข้อเสนอที่คุณจูนได้ฟังแล้วก็ตกใจไปตามๆ กัน ข้อเสนอนั้นคือ เขาสนใจลงทุนใน KEEPS แบรนด์เสื้อผ้าของเธอ (Bluebik นอกจากจะเป็นบริษัท Consult แล้ว ยังเป็น Venture Caplitalist ร่วมลงทุนในบริษัท Tech อีกด้วย)
.
ข้อเสนอนั้นเป็นข้อเสนอที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน เพราะเธอตั้งใจให้ KEEPS เป็นเพียงงานอดิเรกเท่านั้น อย่างไรก็ดี หัวหน้างานคนนี้เป็นบุคคลที่คุณจูนเคารพนับถือมาก เธอรู้สึกดีใจที่เขาวางใจในแบรนด์ของเธอ แต่เธอยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอนี้ทันที เพราะเธอเพิ่งได้เริ่มทำงานที่ Grab เป็นวันแรก และยังรู้สึกว่าประสบการณ์นั้นยังไม่มากพอ
.
เมื่อทำ Grab ได้ครบแปดเดือน ก็ถึงช่วงสิ้นปีที่คุณจูนมักจะนั่งทบทวนชีวิตของเธอในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เธอนึกถึงข้อเสนอที่หัวหน้าเธอเคยยื่นให้ และกลับมาพิจารณาดูอีกครั้ง เพราะจริงๆ แล้วรายได้ของเธอมาจาก KEEPS มากกว่างานประจำด้วยซ้ำ อีกทั้งคนที่สนใจร่วมลงทุนก็ยังเป็นคนที่เธอไว้ใจมากๆ คนหนึ่ง และหากเขาเชื่อมั่นในตัวเธอขนาดนี้ ทำไมเธอจึงไม่เชื่อมั่นในตัวเองบ้าง
.
เมื่อตัดสินใจแล้ว คุณจูนจึงลาออกจาก Grab และมาทุ่มเทกับ KEEPS ดูสักครั้ง เพราะหากการทุ่มเทเวลา 7 วันต่อสัปดาห์ให้ KEEPS ไม่ได้ผล อย่างน้อยเธอก็ยังล้มเหลวด้วยวัยแค่ 20 กว่าๆ ยังไม่สายเกินไปถ้าเธอจะกลับไปสมัครงานบริษัทอีกครั้ง
.
.
#ข้อเสนอที่เปลี่ยนKEEPS
.
การตอบรับข้อเสนอนั้นทำให้รูปแบบร้าน และภาพลักษณ์แบรนด์ของ KEEPSเปลี่ยนไปหมด เพราะนอกจากคุณจูนจะได้รับเงินทุนมาพัฒนาแบรนด์เพิ่มแล้ว เธอยังได้รับคำแนะนำมากมายจากหัวหน้าเก่าของเธออีกด้วย
.
สิ่งที่หัวหน้าคุณจูนเสนอให้พัฒนาเพิ่มคือ เรื่องภาพลักษณ์ของร้าน เพราะแบรนด์ดิ้งถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการขายเสื้อผ้าออนไลน์ เรื่องการจับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าก็ต้องถูกปรับให้ชัดเจนขึ้น รวมไปถึงการตั้งราคาว่า จะโฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อประมาณไหน ส่วนคอนเซ็ปต์ และดีไซน์เสื้อผ้าของร้านก็ต้องมีความชัดเจนขึ้นเช่นเดียวกัน
.
การรีแบรนด์ดิ้งร้านใหม่ช่วยให้คุณจูนได้มีฐานลูกค้ามากขึ้น จากที่มีเพียงเพื่อนๆ เป็นลูกค้าก็เริ่มมีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาทำการสั่งซื้อ เธอเริ่มทำคอนเทนต์วิดีโอ และถ่ายรูปสินค้าอย่างจริงจังมากขึ้น อีกทั้งยังได้นำ Chatbot เข้ามาใช้ตอบคำถามลูกค้าอีกด้วย คุณจูนมองว่าตอนนี้ร้านของเธอมาไกลในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึง 10% ของสิ่งที่เธอคาดหวังไว้
.
.
#ความท้าทายของKEEPS
.
ในช่วงเริ่มต้น คุณจูนมองว่าเรื่องที่ยากที่สุดคือการขยายธุรกิจให้เติบโต เพราะการที่เธอเริ่มต้นทุกอย่างมาจากศูนย์ เธอต้องคอยให้เพื่อนๆ และคนรู้จักช่วยโปรโมท ต้องคอยหาช่องทางให้ธุรกิจของเธอไปถึงกลุ่มคนที่ไม่ใช่เพื่อนของเธอ อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่ถึงกับเครียดมาก เพราะตอนนั้นเธอมองมันเป็นเพียงงานอดิเรก
.
แต่เมื่องานอดิเรกต้องกลายมาเป็นงานประจำ พร้อมกับความคาดหวังจากนักลงทุนอย่างอดีตหัวหน้างานของเธอ เธอจึงต้องแบกรับความคาดหวังทุกอย่างเอาไว้บนบ่าไปโดยปริยาย ความท้าทายในช่วงนั้นคือ เรื่องการสร้างพื้นฐานของแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ด้านงานบริหารและงานเอกสาร เพราะเมื่อมีคนมาลงทุน เธอต้องทำให้ร้านค้าออนไลน์ขึ้นมาเป็นบริษัท และต้องมีการจ้างพนักงานเพิ่ม
.
คุณจูนเหมือนกลับไปเริ่มจากศูนย์อีกครั้ง เพราะเธอไม่มีความรู้เรื่องการทำเอกสารเลย และจากที่ปกติเธอทำงานกับพี่สาวเพียงสองคน เธอต้องมารับผิดชอบพนักงานอีกหลายคนที่เธอรับเข้ามา การทำงานกับคนจากหลากหลายที่ ทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าแต่ละคนมีสไตล์การทำงานที่ต่างกันไป บางคนไม่ถนัดการทำงานแบบไม่มีไกด์ พวกเขาต้องการกระบวนการทำงานที่ชัดเจน คุณจูนจึงต้องหาวิธีที่ทำให้คนเหล่านั้นสามารถรับงานไปทำต่อจากเธอได้อย่างไม่มีปัญหา
.
ในช่วงปัจจุบัน โควิดถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของคุณจูน เพราะที่ผ่านมา คุณจูนมองชุดทำงานเป็นสิ่งที่ไม่ว่ายังไงทุกคนก็ต้องซื้อเพื่อใส่ไปทำงาน แต่เมื่อโควิดมา ทุกคน Work From Home ชุดทำงานที่เคยเป็นตัวชูโรงของทางแบรนด์ก็ตกอันดับไป สินค้าที่กลายมาเป็นรายได้หลักของ KEEPS แทนคือชุดลำลอง ตอนนี้คุณจูนจึงพยายามที่จะพัฒนาชุดลำลองให้ดูมีสีสัน และมีดีไซน์ที่หลากหลายมากขึ้น ถึงแม้ช่วงเวลาโควิด จะเป็นช่วงเวลาที่ยากมากๆสำหรับธุรกิจ แต่แบรนด์ KEEPS ก็สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่าช่วงก่อนยุคที่โควิดระบาดอีกด้วย
.
.
#งานประจำvsKEEPS
.
คุณจูนแชร์ว่า การทำงานประจำกับการออกมาทำธุรกิจของตัวเองนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะตอนทำงานประจำ เธอแค่รับผิดชอบสิ่งที่ได้รับมอบหมายเพื่อส่งให้ทันเดดไลน์ แต่ตอนที่เธอทำ KEEPS เธอเหมือนเข้ามาเป็น CEO ของบริษัทที่งานจะเข้ามาแบบไม่มีวันจบ เพราะเธอไม่สามารถแค่ทำงานส่วนของเธอแล้วจบ แต่เธอต้องดูแลรับผิดชอบพนักงาน คอยส่งต่องานให้พนักงานทำ และยังต้องดูแลเรื่องโครงสร้างโดยรวมอีก
.
อย่างไรก็ตาม คุณจูนเล่าว่า การทำงานประจำมาก่อนทำให้เธอรู้ว่าระบบการทำงานที่ดีในบริษัทควรเป็นอย่างไร เพราะหากเธอไม่เคยทำงานในบริษัทมาก่อน เธอจะไม่รู้เลยว่าการวางแผน และการลงมือทำที่ดีต้องมีขั้นตอนนั้นเป็นอย่างไร
.
.
#เป้าหมายต่อไป
.
สำหรับ KEEPS แล้ว คุณจูนไม่ได้มองให้เป็นเพียง SME แต่เธอมองการณ์ไกลโดยตั้งใจจะสร้าง KEEPS ขึ้นมาเป็นสตาร์ทอัปที่ต้องมีการระดมทุนจากนักลงทุน เป้าหมายหลักของเธอจึงคือ การสร้างโมเดลธุรกิจที่ทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างยืนยาว
.
ในตอนนี้เธอกำลังต้องการขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศ โดยเธอตั้งใจจะเริ่มจากประเทศสิงคโปร์ และมาเลเซียก่อน โดยจะขยายผ่าน Pomelo ซึ่งมีฐานลูกค้าในสิงคโปร์มากอยู่พอตัว
.
นอกจากนี้ เธอตั้งใจจะทำเสื้อผ้าแนว Casual เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากตั้งแต่ช่วงโควิด เสื้อผ้าแนวนี้กลายมาเป็นสินค้าขายดีของทางแบรนด์แทนชุดทำงานแล้ว และเพื่อตอบสนองเสียงเรียกร้องจากลูกค้า เธอจึงมีแผนว่าจะทำแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายอีกด้วย
.
.
#ทบทวนตัวเองกับคุณจูน
.
ตั้งแต่วันที่คุณจูนเริ่มทำ KEEPS จนถึงวันนี้ สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ เธอยังคงเป็นคนที่ทุ่มเทกับทุกอย่างที่ทำ เป็นคนกล้าลอง กล้าล้ม และสามารถรับมือกับความล้มเหลวได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่เธอได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกับคนมากขึ้นคือ เธอได้รู้ว่าแต่ละคนก็มีลักษณะการทำงานที่ต่างกันไป ทำให้เธอต้องปรับตัวไปตามกลุ่มคนที่เธอต้องเจอ
.
หากย้อนเวลากลับวันแรกได้ คุณจูนจะบอกตัวเองให้ลงมือทำต่อไป และให้เชื่อมั่นในตัวเอง เพราะสิ่งที่เธอตั้งใจจะสร้างในวันนั้นจะกลายมาเป็นความสำเร็จที่เธอทุ่มเทมาจนทุกวันนี้
.
.
#careerfact #cariber
………………
Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว
ติดตาม Career Fact ทุกช่องทางได้ที่ https://linktr.ee/careerfact
เรียนรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จในแต่ละแวดวงได้ที่ https://www.cariber.co/ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงความรู้และประสบการณ์จากผู้นำองค์กรและผู้เชี่ยวชาญในทุกแวดวง ไร้ข้อจำกัดด้านสถานที่และเวลา
โฆษณา