18 พ.ค. 2021 เวลา 06:35 • สุขภาพ
เปิดตำราผู้นำสหรัฐฯ สู้โควิด
การระบาดของโควิด-19 ใน กรุงเทพฯและปริมณฑล ยังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ผู้ติดเชื้อวันเสาร์พุ่งเกินหลัก 3 พันคนต่อวัน ขณะที่ สหรัฐอเมริกา ที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในโลก เริ่มฟื้นตัวได้แล้ว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดลง ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยตอนอยู่นอกบ้าน และ ไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างจากผู้อื่นในสถานที่ส่วนใหญ่
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง วันนี้ถอดหน้ากากอนามัยออกแล้ว
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวว่า “เป็นหลักไมล์สำคัญ เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ หากคุณฉีดวัคซีนครบโดส คุณสามารถถอดหน้ากากอนามัยออกได้ และมีสิทธิทำในสิ่งที่คนอเมริกันเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก นั่นคือ การทักทายด้วยรอยยิ้ม”
ความสำเร็จในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ของผู้นำสหรัฐฯก็คือ “วัคซีน” ท่านผู้อ่านคงจำได้ โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯได้หาเสียงไว้ว่า
“100 วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง เขาจะเร่งฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกันให้ได้ 100 ล้านโดส” เขารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯวันที่ 20 มกราคม 2564 ผ่านไปแค่ 58 วันแรกก็สามารถฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกันได้ครบ 100 ล้านโดส
แต่ ไบเดน ไม่หยุดแค่นั้น เขาประกาศตั้งเป้าต่อว่า จะฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกัน 200 ล้านโดสภายใน 100 วันทำงานแรก ปรากฏว่า 92 วันก็ฉีดวัคซีนได้ครบ 200 ล้านโดส
เมื่อครบ 100 วันแรก 21 เมษายน เขาฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกันได้ถึง 215 ล้านโดส ทำให้ผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว กิจกรรมเศรษฐกิจต่างๆเริ่มกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจนเงินเฟ้อพุ่ง
วันที่ 13 พฤษภาคม CDC ก็อนุญาตให้ชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนครบโดส ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน ทำให้ชาวอเมริกันกลับมามีชีวิตชีวาที่ปกติอีกครั้ง
ความสำเร็จในการจัดหาวัคซีน กระจายวัคซีน และฉีดวัคซีน เป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของหน่วยงานพิเศษที่เรียกว่า Operation Warp Speed ผมขอแปลว่า “หน่วยปฏิบัติการสายฟ้าแลบ” ก็แล้วกันนะครับ
ที่จัดตั้งขึ้นในสมัย ประธานาธิบดีทรัมป์ ร่วมกับภาคเอกชน เพื่อเร่งจัดหาวัคซีนและกระจายวัคซีนให้ชาวอเมริกันเร็วที่สุด ด้วยเงินทุนรัฐบาล 25,000 ล้านดอลลาร์ ราว 780,000 ล้านบาท ทำให้ ไบเดน ต่อยอดไปสู่ความสำเร็จ ฉีดวัคซีน 215 ล้านโดสใน 100 วัน
ผมอยากให้นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ศึกษาความสำเร็จของผู้นำสหรัฐฯ เป็นตัวอย่าง เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ผมเสนอไปเมื่อวานนี้ นายกฯ ต้องจัดหาวัคซีนให้เพียงพอ กระจายวัคซีนให้ทั่วถึง เร่งฉีดวัคซีนให้ทุกคนในปีนี้ ตามที่สัญญาไว้
คุณชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโสเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้สรุปผลประเมินเศรษฐกิจไทยว่า ตัวแปรสำคัญคือการฉีดวัคซีน และความเร็วในการฉีดวัคซีน
กรณีแรก ถ้ารัฐบาลจัดหาวัคซีนได้ 100 ล้านโดสในปีนี้ และ ฉีดให้ได้ 5-6 แสนโดสต่อวัน มากกว่าปัจจุบัน 4 เท่า จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในไตรมาสแรกปีหน้า 2565 จีดีพีมีโอกาสขยายตัว 2% กรณีที่สอง จัดหาวัคซีนได้แค่ 64.5 ล้านโดสในปีนี้ คาดว่าภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 3 ปี 2565 จีดีพีมีโอกาสขยายตัว 1.5% ถ้าน้อยกว่านี้ก็ลากยาวไปถึงไตรมาส 4 ปี 2565 ไม่รู้เศรษฐกิจหรือรัฐบาลจะพังก่อนกัน
1
นี่คือโจทย์ใหญ่ที่ท้าทาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ต้อง พิสูจน์ตัวเอง ให้ประชาชนเห็น ยังเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ สามารถนำประชาชนต่อสู้กับ ไวรัสโควิด-19 ได้สำเร็จเหมือน ผู้นำจีน ผู้นำสหรัฐฯ หรือไม่
วันนี้ รัฐบาลมีวัคซีนอยู่ในมือแล้ว 67 ล้านโดส เป็น ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส ที่ผมเป็นห่วงก็คือ การกระจายวัคซีน และ การฉีดวัคซีน คิดว่ารัฐบาลควรเลียนแบบสหรัฐฯตั้ง “หน่วยปฏิบัติการสายฟ้าแลบ” กระจายวัคซีนให้ทั่วถึงทุกท้องถิ่นเร่งฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็ว ต้นปีหน้า “วิถีชีวิตคนไทย” จะได้กลับมาเหมือนเดิมเสียที.
โฆษณา