‘เจ้าของทิพย์’ แรร์ไอเท็ม สนุกด้วย รวยได้
สมัยนี้การเป็นเจ้าของภาพเขียนของฌอง-มิเชล บาสเคีย รองเท้าผ้าใบ Yeezy ของอาดิดาสสักคู่ หรือเป็นเจ้าของรถหรูอย่างเฟอร์รารีสักคัน ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป อย่างน้อยๆ ก็ถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน ผ่านแพลตฟอร์มขายหุ้นสินค้าหายากในราคาเพียงไม่กี่ดอลลาร์
‘เจ้าของทิพย์’ แรร์ไอเท็ม สนุกด้วย รวยได้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แพลตฟอร์ม “มาสเตอร์เวิร์กส” เคยสร้างผลงานอันลือลั่นมาแล้วเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีก่อน ด้วยการเปิดขายหุ้นภาพวาด “มัสยิด” ของบาสเคียจำนวน 284,420 หุ้น ราคาหุ้นละ 20 ดอลลาร์
แม้การถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนนี้ผู้ซื้อไม่มีโอกาสนำภาพเขียนไปแขวนที่บ้าน นำลัมโบกินีไปจอดที่โรงรถ หรือนำไวน์โรมาเน กองติ 6 ขวดไปเก็บในห้องเก็บไวน์ของตนเองได้ แต่การเป็นเจ้าของสินค้าหรูดังกล่าวแค่เศษเสี้ยวหรืออย่างน้อยบนแผ่นกระดาษ ก็เหมือนกับการเป็นเจ้าของหุ้นบริิษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถได้ประโยชน์จากมูลค่าสินค้าหายากเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับนักสะสมผู้มั่งคั่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียนหรือการ์ดเบสบอล
เอสรา เลอวีน ซีอีโอคอลเลคเทเบิล แพลตฟอร์มผู้เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องใช้ส่วนตัวด้านกีฬาบอกว่า นี่ไม่ใช่อุตสาหกรรมใหม่
“มันไม่เหมือนคริปโตเคอเรนซีที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 5 หรือ 10 ปีก่อน มันเป็นแค่วิถีทางที่ผู้คนสามารถมีส่วนร่วมในตลาด มีประสบการ์ร่วม สนุกสนานกับมัน และเพิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากช่วง 6 เดือนหลัง”
สลักเกอร์ นักสะสมผู้ไม่ยินดีเปิดเผยชื่อจริง เคยทำกำไรได้ถึง 500% จากหุ้นที่ถืออยู่เพียงไม่กี่หุ้นในกล่องการ์ดโปเกมอน 1 กล่องราคาเริ่มต้น 125,000 ดอลลาร์
แพลตฟอร์ม “แรลลี”นำกล่องการ์ดโปเกมอนนี้ออกมาเสนอขายต่อสาธารณะครั้งแรก เหมือนการทำไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์และต้องมีคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ดูแลด้วย
“แพลตฟอร์มขายสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์เหล่านี้เปิดกว้างให้ประชาชนผู้ไม่มีปัญญาซื้อการ์ดไมเคิล จอร์แดนทั้งหมดได้มีโอกาสเป็นเจ้าของได้” จอห์น ชัค วัย 43 ปีเผย เขาถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนในรถยนต์ ภาพวาด และของที่ระลึกนักกีฬา มูลค่าราว 20,000 ดอลลาร์
แนวคิดเรื่องการเป็นเจ้าของสินทรัพย์จับต้องได้ร่วมกันเริ่มต้นจากอสังหาริมทรัพย์ จากนั้น 20 ปีที่ผ่านมาขยายวงไปถึงเครื่องบินส่วนตัวและเรือยอชท์ แต่ราคาเริ่มต้นยังคงสูงและประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง
แพลตฟอร์มการถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ได้หั่นราคาลงไปมาก บางครั้งเหลือหุ้นละไม่ถึง 10 ดอลลาร์ เจอโรเม แซปป์ จากแพลตฟอร์ม “แรร์ส” เล่าว่า ราคาเปิดแบบนี้ทำให้คนคลั่งรองเท้ากีฬาแต่ซื้อไม่ได้ มีโอกาสได้ครอบครองแม้เพียงสัดส่วนหุ้นเล็กๆ ก็ยังดี
เดือนมิ.ย.นี้แพลตฟอร์ม “แรร์ส” ของแซปป์จะเปิดขายรองเท้าผ้าใบไนกี้รุ่น Air Yeezy 1ได้แรงบันดาลใจจากนักดนตรีเคนเย เวสต์ ที่แรร์สได้มาเมื่อปลายเดือน เม.ย.ด้วยราคาทุบสถิติ 1.8 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม อารมณ์ของการซื้ออาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เนื่องจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่จะไม่มีวันได้เห็นสินค้าจริงด้วยตนเอง ไม่เหมือนนักสะสมแบบเก่า
แรลลีเปิดพิพิธภัณฑ์ในนิวยอร์กที่นำสินค้าจดทะเบียนออนไลน์บางชิ้นมาจัดแสดง ส่วนมาสเตอร์เวิร์กสนั้นมีแกลเลอรี แต่มีไม่กี่คนที่วางแผนจะมาชม
เกร็ก เลิฟ นักสะสมรุ่นใหม่กล่าวว่า ไม่เคยรู้สึกซาบซึ้ง “ผมไม่เคยรู้สึกผูกพันกับสินทรัพย์พวกนี้เลย เป็นเรื่องของการลงทุนและความสนุกล้วนๆ”
แรลลีที่ถูกมองว่า เป็นผู้นำเทรนด์การเป็นเจ้าของแบบสัดส่วนกล่าวว่า ความสนใจพุ่งขึ้นมากในช่วงโควิด-19 ระบาด มีผู้ใช้เกิน 200,000 คน สินทรัพย์บนแพลตฟอร์มแรลลีมูลค่ารวมราว 25 ล้านดอลลาร์
ถัดจากแรลลี่ก็มีอีก 3 แพลตฟอร์มที่กำลังแข่งขันกัน ได้แก่ โอทิส คอลเลคเทเบิล และมาสเตอร์เวิร์กส ที่รายหลังเน้นงานศิลปะมากกว่า ทั้ง 3 เจ้ามีผู้ใช้รวมกันกว่า 200,000 ราย แต่หลายคนก็เล่นหลายแพลตฟอร์มในเวลาเดียวกัน
ระหว่างโควิดระบาด การทำงานที่บ้าน การล็อกดาวน์ และกิจกรรมสันทนาการลดน้อยลง ทำให้ชาวอเมริกันหลายคนมีเวลาและเงินออมมากขึ้น โดยเฉพาะคนทำงานหนุ่มสาวที่หันมาเล่นหุ้นหรือลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ
“หลายคนมีเงินในบัญชีมากจึงหาทางนำเงินไปลงทุน ในปีที่ผ่านมามีคนมาลงทุนกับเรามากเพราะผลตอบแทนที่มีให้" ชัคกล่าวและว่า เนื่องจากประเทศร่ำรวยฟื้นตัวจากโควิดช้า เขาเริ่มสังเกตเห็นตลาด
การถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนชลอตัว คนอื่นๆ ก็เริ่มชี้ให้เห็นผลกระทบจากการที่ซัพพลายเพิ่มเร็วเกินไป
ถึงกระนั้นสินทรัพย์หลายตัวก็ยังมีราคา บางครั้งสูงมากเกินจากมูลค่าที่จดทะเบียน จนเกิดความกังวลว่าราคาจะแกว่งตัวอย่างรวดเร็วเกินกว่าในตลาดหลักทรัพย์มาก
เรื่องนี้สลักเกอร์มองว่า การถือครองกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วนยังเป็นตลาดทดลองที่ปฏิเสธความเสี่ยงของราคาไม่ได้เช่นเมื่อเร็วๆ นี้นักลงทุนเพิ่งเทขายเพราะความตื่นตระหนก แม้ว่าพื้นฐานสินทรัพย์หลักไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
ในมุมมองของเลวีน ซีอีโอคอลเลคเทเบิล กล่าวว่า ในระยะยาวแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังคงเป็นวิธีที่ดีมากในการทำให้สินค้ามีราคามากกว่าแต่ก่อน เพราะความโปร่งใสและเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น “ดังนั้นคนจำนวนมากจึงสามารถส่งผลกระทบต่อราคาได้ไม่ใช่แค่คนไม่กี่คน”
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
