23 พ.ค. 2021 เวลา 12:00 • ธุรกิจ
ตำนาน ยาธาตุน้ำขาว ตรากระต่ายบิน
หลายคนเคยผ่านประสบการณ์ เวลาปวดท้อง ท้องเสีย ตอนวัยเรียน แล้วขอไปที่ห้องพยาบาล
หรือวัยทำงาน แล้วไปที่ร้านขายยา
ก็จะได้ ยาน้ำสีขาวข้น มาทาน เพื่อลดอาการแก้ปวด ซึ่งมีรสชาติ เหมือนมินต์เย็น ๆ
และพอทานแล้ว อาการปวดท้องก็ดีขึ้น
1
เมื่อเราหมุนขวด เพื่อมาอ่านฉลาก ของยาตัวนี้
ก็จะออกเสียงได้ว่า “ยาธาตุน้ำขาว ตรากระต่ายบิน”
ซึ่งยาธาตุน้ำขาว ตรากระต่ายบิน เป็นยาสามัญประจำบ้านที่ทุกคนต้องรู้จัก
โดยตัวยามีคุณสมบัติ ฆ่าเชื้อโรค (ที่ไม่รุนแรง) ในลำไส้
แก้ปวดท้อง, ท้องเสีย, ท้องอืดท้องเฟ้อ, จุกเสียด และช่วยขับลม
2
แล้วตำนาน กระต่ายบิน เกิดขึ้นมาได้อย่างไร และใครเป็นผู้ให้กำเนิด ?
1
หน้าแรกของนิทานเรื่องนี้ เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2473
มี 2 สามีภรรยา คือคุณไร่เฮง เจียมจรรยา และ คุณสุนันท์ เจียมจรรยา
ได้เปิดร้านขายยาทั่วไปและยาแผนโบราณขนาดเล็ก อยู่บนถนนจักรวรรดิ กรุงเทพฯ
ซึ่งพอดำเนินกิจการได้สิบกว่าปี กิจการขยายตัวขึ้น จึงตั้งเป็น บริษัท ห้างยาไทย จำกัด ในปี พ.ศ. 2485
พร้อมกับมีการนำเข้ายาสำเร็จรูป และเครื่องมือแพทย์บางชนิดจากต่างประเทศมาขาย
แต่หลังจากนั้น คุณไร่เฮงและคุณสุนันท์
ก็เริ่มมีความคิดที่อยากจะผลิตยาของตัวเองขึ้นมาขาย เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศ
1
พวกเขาจึงได้คิดค้นพัฒนาและผลิต ยาตัวแรกของบริษัทขึ้นมา คือ ยาถ่ายพยาธิ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “วอม”
และต่อยอดมาเป็น ยาธาตุน้ำขาว ตรากระต่ายบิน ซึ่งออกสู่ตลาดเมื่อปี พ.ศ. 2488 และเป็นที่ถูกกล่าวขานมาจนถึงปัจจุบัน
อีกทั้งยังเปิดตัวและขาย ยาบำรุงเม็ดสีแดง ภายใต้ชื่อแบรนด์ “เฮโมวิต” ในปีเดียวกันอีกด้วย
1
โดยที่มาของชื่อและโลโก กระต่ายบิน
ได้แรงบันดาลใจมาจากคุณสุนันท์ ที่เกิดปีกระต่าย
และเธออยากให้กระต่ายชนะเต่า ในนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า
เลยติดปีกให้กระต่ายซะเลย..
3
พอแบรนด์และสินค้าของบริษัท ติดตลาดและเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยคุณภาพและสรรพคุณ ที่ทำให้ใครหลายคน นำไปบอกกันปากต่อปาก ว่าใช้แล้วดี
1
ทำให้บริษัทต้องสร้างโรงงานผลิตยา เพิ่มขึ้น 2 แห่งในกรุงเทพฯ
เพื่อรองรับการผลิตและความต้องการที่มากขึ้น รวมถึงทำให้กระบวนการผลิตยาได้มาตรฐาน
 
ต่อมาบริษัท ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทหลายครั้ง ตามยุคสมัย
ทั้งเปลี่ยนเป็น บริษัท ทรัสตี้ ดรักส์ จำกัด, บริษัท ห้างยาไทย 1942 จำกัด
สุดท้ายเปลี่ยนเป็น บริษัท บอส ฟาร์มาแคร์ จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
1
และในปีเดียวกันนี้เอง
บริษัทก็ได้ย้ายฐานการผลิตยาทั้งหมด ไปยังโรงงานแห่งใหม่ ที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงงานที่ทันสมัย และมีกำลังการผลิตมากกว่า
1
โดยตอนนี้ สินค้าที่บริษัทผลิตและจำหน่าย ก็จะมี
- ยาธาตุน้ำขาว “ตรากระต่ายบิน”
- ยาบำรุงเลือด เม็ดสีแดง “เฮโมวิต”
- วิตามินรวมน้ำเชื่อมสำหรับเด็ก “เฮโมวิต คิดส์”
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “วัน บาย เฮโมวิต”
3
แล้วตำนาน กระต่ายบิน สามารถสร้างยอดขายต่อปี ได้เท่าไร ?
บริษัท บอส ฟาร์มาแคร์ จำกัด
ปี 2561 มีรายได้ 981 ล้านบาท กำไร 413 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 955 ล้านบาท กำไร 414 ล้านบาท
2
โดยสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ จะมาจาก ยาธาตุน้ำขาว ตรากระต่ายบิน
และรองลงมาคือ ยาบำรุงเลือด เม็ดสีแดง เฮโมวิต
2
ปัจจุบัน บริษัท บอส ฟาร์มาแคร์ ถูกบริหารงานโดยทายาทรุ่นที่ 3 หรือหลาน ๆ ของคุณไร่เฮงและคุณสุนันท์
2
ซึ่งทายาทรุ่นที่ 3 มีทั้งหมด 10 คน อย่างไรก็ดี ส่วนใหญ่แล้วแต่ละคนจะมีงานและหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว เช่น เป็นแพทย์บ้าง อยู่ต่างประเทศบ้าง
จึงเหลือเพียง 4 คน ที่อาสาเข้ามารับหน้าที่สืบทอดกิจการต่อ
โดยหนึ่งในนั้นคือ เภสัชกร ปีติ เดชคง ลูกชายคนเล็กของลูกสาวคนโต (ทายาทรุ่นที่ 2)
ที่ตอนนี้เป็นผู้บริหารของบริษัท บอส ฟาร์มาแคร์ และเข้ามาดูแลเรื่องการตลาดให้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549
 
เดิมที ธุรกิจในช่วงรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 จะเน้นเรื่องของการผลิตและคุณภาพสินค้าเป็นหลัก
แต่พอคุณปีติเข้ามาช่วยบริหาร ก็ได้นำเรื่องของการตลาด มาเพิ่มศักยภาพของธุรกิจ
โดยสิ่งแรกที่ทำคือ การตั้งฝ่ายการตลาดของบริษัท ขึ้นเป็นครั้งแรก
และจัดทำเว็บไซต์ของบริษัทขึ้น เพื่อสร้างช่องทางสื่อสารทางการตลาด ตอบรับยุคของอินเทอร์เน็ต
2
ซึ่งต่อมา ก็ได้ทำการรีแบรนด์กระต่ายบินครั้งใหญ่
ด้วยการปรับฟอนต์ตัวหนังสือ ให้ทันสมัยมากขึ้น
พร้อมกับเปลี่ยนแพ็กเกจจิง ให้ดูสดใส และสะดุดตา เหมาะกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น
เปลี่ยนจากขวดแก้ว เป็นขวดพลาสติก เพื่อให้มีน้ำหนักเบา ไม่แตกง่าย
1
นอกจากนี้ ยังมีการนำดาราและคนรุ่นใหม่ มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ กระต่ายบิน
เพื่อสร้างและสื่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ ให้ดูอ่อนวัยลง
แถมยังออกสโลแกนใหม่ “กินให้สุด แล้วหยุดที่กระต่ายบิน”
จากที่เกือบทุกคน รู้จักสโลแกนเดิมของแบรนด์ อย่าง “ปวดท้อง แน่นท้อง มองหา ยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบิน” อยู่แล้ว
1
เพื่อสื่อสารและให้ภาพจำว่า กระต่ายบิน ก็เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ของคนยุคใหม่
ที่มักทานอาหารบุฟเฟต์ ฟาสต์ฟูด หรือมีชีวิตที่เร่งรีบ จนทานอาหารไม่เป็นเวลา นั่นเอง
ทุกการตลาดและการปรับตัวของบริษัท
คุณปีติ เผยว่า ส่วนใหญ่เกิดจากการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างถี่ถ้วน จนกว่าจะพบความคำว่าที่ต้องการ
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร หรือทำอะไร ต้องให้ความใส่ใจกับเรื่อง “ความต้องการของผู้บริโภค ในเชิงลึก (Insight) เป็นหัวใจหลัก”
1
“การตลาดยากเสมอ เพราะเป็นวิธีการเข้าใจคนอื่น คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง
ยิ่งลูกค้าคือผู้มีพระคุณ ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องเริ่มจากพวกเขาก่อน เพื่อหา Insight ให้เจอ” คุณปีติกล่าว
2
โฆษณา