23 พ.ค. 2021 เวลา 08:46 • ประวัติศาสตร์
อำนาจ ได้มาอย่างไร ไม่สำคัญเท่าใช้อย่างไร
1
ในโอกาสครบรอบลุงยึดประเทศเจ็ดปี ผมเลยนึกถึงซีรี่ย์จีนเรื่อจางจวีเจิ้งขึ้นมา
เรื่องนี้ตอนนั้นฉายทาง ThaiPBS ช่วงกลางวันเสาร์อาทิตย์
ก็ไม่เป็นที่นิยมหรือพูดถึงอะไรหรอก เพราะเป็นซีรี่ย์ที่ไม่ใช่อะไรที่เป็นแนวนิยม ไม่มีรัก ไม่มีบู๊
...แต่มันเป็นซีรี่ย์ที่รัฐบาลจีนให้สร้าง เพื่อให้คนชม โดยอาจสื่อถึงการเป็นผู้นำที่ดี โดยนำประวัติศาสตร์มาสร้าง...
จางจวีเจิ้ง รัฐบุรุษของจีนคนนี้ ไม่โด่งดังเหมือนตัวละครในสามก๊ก ไม่ใช่นักบุกเบิกแผ่นดินแบบจิ๋นซี หรือหลิวปัง
...แต่เขาเป็นคนยึดอำนาจจากฮ่องเต้เพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์จีน ที่มีแต่คนสรรเสริญ....
...มันจึงน่าสนใจมาก...
จางจวีเจิ้งนั้น เป็นขุนนางในราชวงศ์หมิง เป็นใหญ่เป็นโตในช่วงที่ราชวงศ์ ราชสำนักฟอนเฟะสุดๆ เต็มไปด้วยการฉ้อราษฎร์บังหลวง
...ด้วยว่าช่วงนั้น ฮ่องเต้เก่าก็ป่วยใกล้ตาย รัชทายาทก็เด็กเกินไป ทำให้ขุนนางขี้ฉัอสบช่อง ขึ้นมามีอำนาจ โกงกินกันสนุกสนาน
จางจวีเจิ้งนั้น ทนไม่ได้ ก็เลยไปร่วมมือกับขันทีซึ่งมีอำนาจ มีคอนเน็คชั่นในราชสำนัก เพื่อทำการรัฐประหารเงียบ
ที่ว่าเป็นรัฐประหาร เพราะเมื่อเขาทำสำเร็จ เขาไม่ได้สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่เขามีอำนาจอยู่เหนือฮ่องเต้อีกที
1
...คือไม่มีการเปลี่ยนแปลงระบบ ระบอบหรือราชวงศ์ แต่เขาอาศัยโครงสร้างเดิมโดยชักใยอยู่เบื้องหลังฮ่องเต้ มันจึงไม่ถือว่าเป็นการปฏิวัติ
...ก็คล้ายๆ โจโฉ เป็นมหาอำมาตย์ แต่เขาไม่ได้ถูกมองว่าเป็นคนร้ายแบบโจโฉ ( สำหรับผม โจโฉก็ไม่ใช่คนร้ายนะ)
ภายใต้การบริหารงานเมืองของจางจวีเจิ้ง เขากวาดล้างการทุจริตในวงราชการ กำจัดขุนนาง เชื่อพระวงศ์ที่คิดตั้งตัวเป็นใหญ่จนสิ้นซาก
ในขณะเดียวกัน ก็มีสถานะเป็นเหมือนพระอาจารย์ของฮ่องเต้วัยเยาว์ไปด้วย (ว่านลี่ฮ่องเต้)
ทำให้แผ่นดินจีนยุคเขา เจริญก้าวหน้าที่สุดในช่วงราชวงศ์หมิง
1
...จะกล่าวว่า ราชวงศ์หมิง ก้าวหน้าที่สุด โดยสามัญชนคนหนึ่ง ไม่ใช่ฮ่องเต้ ก็อาจกล่าวได้...
แต่ความเข้มงวด และไปขัดผลประโยชน์คนอื่น ของจางจวีเจิ้งเอง ก็ทำให้เขามีศัตรูทางการเมืองมาก และเมื่อเขาต้องจัดการคนเหล่านี้ มันก็ทำให้เขามือเปื้อนเลือดพอสมควร ซึ่งก็เป็นปกติของคนที่อยู่ในจุดเขา
...แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น คนส่วนมากก็รักเขาเพราะผลงาน มากกว่าเกลียดนั่นเอง....
ว่านลี่ฮ่องเต้ ผู้หลงใหลในกาม
บทสุดท้ายของเขา ไม่สวยงาม แม้ทำประโยชน์มากมาย
อย่างที่บอก คือศัตรูเขาเยอะ และหลายคนมีอำนาจในวังหลัง จึงเข้าถึงองค์ฮ่องเต้
...ก็ไอ้พวกภักดี ปากมันนี่แหละ...
ไอ้พวกนี้ก็เริ่มเสี้ยมฮ่องเต้ ให้ต่อต้านเขาทีละน้อย โดยอ้างว่าเขาจะล้มล้างราชวงศ์หมิง ตั้งตระกูลตัวเองเป็นราชวงศ์ใหม่
พร้อมกันนั้น พวกสอพลอก็พยายามปรนเปรอความสุขให้แก่ฮ่องเต้วัยเยาว์จนเสียผู้เสียคน ถึงขนาดบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า ว่านลี่ "หลงไหลในกาม ราคะ" สุดท้ายก็ไม่ออกปฏิบัติราชกิจ
เมื่อว่านลี่ฮ่องเต้ โตมากับคนแบบนั้น ผลคือ องค์เองทรงเบื่อหน่ายกับความเข้มงวด ของจางจวีเจิ้ง
ยิ่งเมื่อเริ่มเจริญวัยมากขึ้น ก็ยิ่งเกลียดจางจวีเจิ้งผู้กอบกู้ราชวงศ์ขึ้นมา
พระองค์ทรงเบื่อมาก ยิ่งเมื่อจางจวีเจิ้ง จำกัดงบราชสำนักโดยเห็นแก่ชาวบ้านมากกว่า ก็ยิ่งเคือง
...เมื่อเจริญวัยได้ที่ องค์เองจึงยึดอำนาจคืนมาจากจางจวีเจิ้งทันทีที่มีโอกาส
...และปลดจากตำแหน่งทุกอย่าง ด้วยการอ้างว่าจางจวีเจิ้งนั้นเป็นกบฏ คิดล้มล้างต้าหมิง...
...จางจวีเจิ้งนั้นไม่ได้โชคดีเหมือนเว่ยเจิงในอดีต ที่ฮ่องเต้ในขณะนั้นชื่นชมเขา แต่ฮ่องเต้ว่านลี่ในยุคของจางจวีเจิ้งนั้นเบาปัญญา มองเขาเป็นศัตรู...
...สุดท้ายฮ่องเต้ยังสั่งประหารคนในตระกูลของจางจวีเจิ้งทั้งหมดอีกด้วย ถือว่าโหดเหี้ยมมากถ้าดูจากสิ่งที่เขาทำให้ต้าหมิงมาตลอด...
1
...การตายของจางจวีเจิ้งนั้นมีสองตำรา คือ มีทั้งแก่ตายเพราะตรากตรำมาหนัก
ส่วนอีกตำรา คือฮ่องเต้ประทานยาพิษให้
1
ซึ่งตำราไหนถูกผมก็ไม่ทราบ แต่ในซีรี่ย์ที่จีนทำล่าสุด ตีความตามการโดนยาพิษ น่าจะเมคเซนส์มากกว่า เพราะภายหลังเขาก็ถูกประหารล้างตระกูล...
หลังเขาเสียชีวิตไป ราชวงศ์หมิงก็เข้าสู่ยุคเสื่อมโทรมอีกครั้ง เมื่อว่านลี่ฮ่องเต้ไม่สนใจงานเมือง วันๆมั่วกามอย่างเดียว
อีพวกขันที ขุนนางขี้ฉ้อ ก็สบช่องกลับมาหากินอีกครั้ง บ้านเมืองจึงเละเทะสุดๆ
...โชคดีของจีน ที่ว่านลี่ฮ่องเต้อายุไม่ยืนนัก(ก็ใช้ชีวิตแบบนั้น จะยืนได้ไง) ไม่นานก็เกิดการผลัดแผ่นดิน
...ล่วงมาอีกครึ่งศตวรรษ ฮ่องเต้ในขณะนั้น คือ ฉงเจินฮ่องเต้ มาย้อนอ่านประวัติศาสตร์
ก็ถึงกับร้องไห้เสียใจในการกระทำของบรรพบุรุษตนเอง
1
จึงทรงโปรดให้มีการอวยยศคืนให้ตระกูลจาง รวมถึงตั้งบ้านตระกูลจาง เป็นศาลให้ประชาชนเคารพสักการะอีกด้วย
1
...และยังมีการนำตำราขงจื้อ ที่จางจวึเจิ้งเขียนไว้ มาเผยแพร่ จนกว้างวางและยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน...
1
....นี่คือเรื่องราวทั้งหมดของสามัญชนผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์หมิง แดนแห่งบุตรมังกร นามว่า " จางจวีเจิ้ง "...
ศาลเจ้าของจางจวีเจิ้งที่บ้านเกิดเขา ในมณฑลหูเป่ย
เราจะเห็นได้ว่า แม้จางจวีเจิ้ง จะมาแบบไม่ชอบธรรม มือเปื้อนเลือด แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ภาพจำของเขาในประวัติศาสตร์
มีประชาชนรักเขามากมาย มากเสียยิ่งกว่าองค์ฮ่องเต้อีก
การที่เขามีประชาชนรักมากขนาดนั้น แต่ก็ไม่ปราบดาภิเษกตัวเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ และไม่ต่อต้านคำสั่งไร้สาระของฮ่องเต้ทั้งที่มีอำนาจพอเพื่อรักษาชีวิตตนเองและครอบครัว มันก็น่าจะบอกได้ว่าเขาจงรักภักดีเพียงไหน
...น่าเสียดายที่ฮีองเต้เบาปัญญาเกินกว่าจะเข้าใจ...
ภาพวาดจางจวีเจิ้ง
เรื่องของจางจวีเจิ้ง สอนเราว่า
ไม่ว่าคุณได้อำนาจมาอย่างไร ก็ไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่คุณทำ
มาไม่ถูกต้อง แต่ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทุกอย่างมันก็ถูกต้อง
...ประวัติศาสตร์สอนเราเสมอ...
เจ็ดปีของคสช. ที่รัฐประหารมา มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ทำเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่ ?
...เรื่องพฤติการณ์ มันอาจอยู่ที่มุมมอง...
...แต่ผลของมันนั้นบอกทุกอย่าง...
บ้านเมืองเราปัจจุบัน คือเครื่องบ่งบอกชัดเจนที่สุดถึงความถูกผิดที่ผ่านมาเจ็ดปี....
ทำไมประวัติศาสตร์จึงสอนเราเสมอ แม้ว่าเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว...
...เวลาอาจเปลี่ยน แต่คนไม่เคยเปลี่ยน ยังคงมีกิเลสเป็นสิ่งขับเคลื่อนเสมอ...
...ตราบที่คนยังเป็นผู้ผลักดันประวัติศาสตร์...
...ตราบนั้นประวัติศาสตร์ก็ยังจะสอนเราเสมอยู่นั่นเอง....
ที่มา ประวัติจางจวีเจิ้ง :
โฆษณา