“แอตแลนติส (Atlantis)” ปริศนาดินแดนที่สาปสูญ
“แอตแลนติส (Atlantis)” เป็นดินแดนในตำนานที่นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีแทบทุกคนสนใจ และต้องการจะรู้ความจริงถึงการมีอยู่ของดินแดนนี้
ผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับแอตแลนติส หากแต่ดินแดนนี้ก็เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ ทำให้อยากทราบเพิ่มเติม และต้องเขียนเรื่องของดินแดนนี้อีกครั้ง
หากจะย้อนเรื่องราวของแอตแลนติส ต้องย้อนกลับไปไกลนับพันปี โดยเริ่มจากนักปรัชญาชาวกรีกที่ชื่อ “เพลโต (Plato)”
เพลโต (Plato)
เมื่อ 360 ปีก่อนคริสตกาล เพลโตได้เขียนหนังสือที่มีชื่อว่า “Timaeus and Critias” โดยนี่เป็นครั้งแรกที่มีการกล่าวถึงแอตแลนติส
เพลโตกล่าวถึงแอตแลนติสว่าเป็นดินแดนที่แข็งแกร่ง มีกองทัพที่เข้มแข็ง วิทยาการล้ำหน้า ซึ่งดินแดนนี้ตั้งอยู่ในสถานที่ซักแห่งในมหาสมุทรแอตแลนติก ก่อนที่จะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์เนื่องจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ ทำให้ดินแดนแห่งนี้จมหายไปใต้ท้องทะเล
คำกล่าวอ้างถึงการมีอยู่ของแอตแลนติสจากปากคำของเพลโตนั้น ได้รับการกล่าวถึงและเชื่อถือจากนักประวัติศาสตร์หลายคน
นักประวัติศาสตร์หลายคนเชื่อว่าแอตแลนติสนั้นมีอยู่จริง
ในบันทึกหนึ่ง นักประวัติศาสตร์ชาวโรมันได้เขียนบันทึกถึงคำบอกเล่าของนักบวชแห่งกอล โดยนักบวชได้กล่าวว่าประชาชนส่วนหนึ่งของพวกตนมาจากมหาสมุทร ซึ่งสื่อความหมายว่าพวกตนนั้นสืบเชื้อสายมาจากแอตแลนติส ซึ่งแอตแลนติสก็ได้จมอยู่ใต้ท้องทะเล
สำหรับทฤษฎีและหลักฐานเกี่ยวกับแอตแลนติสนั้น ส่วนมากมาจากเรื่องเล่าและบันทึกต่างๆ ที่ปรากฎในสมัยศตวรรษที่ 16
ในช่วงเวลานี้ มีงานเขียนเกี่ยวกับแอตแลนติสออกมามากมาย และผู้คนก็เริ่มคิดว่าซากปรักหักพังของอาณาจักรแอซเท็กและอาณาจักรมายา อาจจะเป็นเศษซากของสิ่งก่อสร้างจากแอตแลนติส
หากแต่การศึกษาทฤษฎีเกี่ยวกับแอตแลนติสก็เพิ่งจะเริ่มอย่างจริงจังในปีค.ศ.1882 (พ.ศ.2425) เมื่อ “อิกเนเทียส แอล. ดอนเนลลี (Ignatius L. Donnelly)” นักการเมืองและนักเขียนชาวอเมริกัน ได้เขียนและตีพิมพ์หนังสือเรื่อง “Atlantis: The Antediluvian World”
ในหนังสือเล่มนี้ ดอนเนลลีเชื่อว่าอารยธรรมโบราณทุกๆ อารยธรรม ไม่มีความก้าวหน้าและทันสมัยมากพอที่จะสร้างเทคโนโลยีต่างๆ ขึ้นมาได้ เช่น การผลิตเหล็ก หรือสถาปัตยกรรม
นั่นหมายความว่าศาสตร์ต่างๆ เหล่านี้ล้วนต้องมีรากฐานและถูกส่งต่อมาจากอารยธรรมที่เจริญก้าวหน้ายิ่งกว่าอารยธรรมใดๆ
นั่นก็คือ “แอตแลนติส”
อิกเนเทียส แอล. ดอนเนลลี (Ignatius L. Donnelly)
ดอนเนลลีเชื่อว่า “สวนอีเดน (Garden of Eden)” ซึ่งเป็นอุทยานของพระเจ้า ที่พักอาศัยของ “อดัม (Adam)” และ “อีฟ (Eve)” มนุษย์คู่แรกที่พระเจ้าทรงสร้าง สวนแห่งนี้ก็อยู่ในแอตแลนติส และแอตแลนติสก็ถูกทำลายไปจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ซึ่งบรรยายไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ล
แนวคิดของดอนเนลลีนั้นโด่งดังมาก และเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตำนานแอตแลนติสยังคงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้
สวนอีเดน (Garden of Eden)
ในยุคค.ศ.1870 (พ.ศ.2413-2422) ได้มีนักปรัชญาชาวรัสเซียที่ชื่อว่า “เฮเลน่า บลาวัตสกี (Helena Blavatsky)” ได้เขียนหนังสือเรื่อง “The Secret Doctrine” โดยหนังสือได้กล่าวถึงชาวแอตแลนติสในฐานะของวีรบุรุษ และยังกล่าวว่า “ชาวอารยัน” นั้นก็เป็นเชื้อสายของแอตแลนติส
ทฤษฎีของบลาวัตสกีเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีแนวคิดเรื่องความบริสุทธิ์ สูงส่งของชาวอารยัน เป็นเผ่าพันธุ์ชั้นนำของโลก
เฮเลน่า บลาวัตสกี (Helena Blavatsky)
ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ทฤษฎีเกี่ยวกับแอตแลนติสก็เริ่มจะอิงจากหลักวิทยาศาสตร์มากขึ้น
เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 ทฤษฎีเกี่ยวกับแอตแลนติสก็ยังคงเป็นที่กล่าวขวัญ ได้มีภาพยนตร์และหนังสือเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้ออกมามากมาย เหล่าผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องลี้ลับ ทฤษฎีสมคบคิดก็ยังคงถกเถียงกันอยู่ว่าดินแดนนี้อยู่ที่ไหนกันแน่
ในหนังสือของดอนเนลลี ได้กล่าวอ้างว่าแอตแลนติสนั้นเป็นดินแดนที่อยู่บนทวีปๆ หนึ่ง ก่อนจะจมไปใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเนื่องจากเกิดน้ำท่วมใหญ่
สำหรับตำแหน่งที่แน่นอนนั้น เพลโตได้กล่าวว่าบริเวณที่แอตแลนติสจม คือบริเวณที่ปัจจุบันคือช่องแคบยิบรอลตาร์
หลายคนเชื่อมั่นในทฤษฎีนี้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน เทคโนโลยีการสำรวจทางภูมิศาสตร์จะได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคำกล่าวอ้างของเพลโตนั้นไม่ใช่เรื่องจริง
ช่องแคบยิบรอลตาร์
อีกทฤษฎีหนึ่งก็คือ แอตแลนติสนั้นตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก และสาเหตุที่แอตแลนติสจม ก็เนื่องมาจากสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าที่กลืนกินดินแดนนี้ให้จมอยู่ใต้ทะเล
อีกทฤษฎีหนึ่งก็คือ แอตแลนติสอาจจะมีความเกี่ยวพันกับอารยธรรมไมนวน (Minoan Civilization)
อารยธรรมไมนวน เป็นอารยธรรมที่เกิดขึ้นที่เกาะครีตเมื่อ 4,000 ปีก่อน และเป็นอารยธรรมที่รุ่งเรืองอารยธรรมแรกแห่งยุโรป
อารยธรรมไมนวนนั้นก้าวหน้าทางด้านการเดินทะเล และได้ทำการติดต่อค้าขายกับอาณาจักรต่างๆ ทั่วโลก
แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด อารยธรรมนี้ก็หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ และจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีใครตอบได้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
บางที นี่อาจจะเป็นแอตแลนติสที่เพลโตกล่าวถึง
อารยธรรมไมนวน (Minoan Civilization)
นักประวัติศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเมืองของชาวไมนวนได้ถูกทำลายจากแผ่นดินไหวและสึนามิ
บางที อารยธรรมนี้คือแอตแลนติสของเพลโต
นอกจากนั้น ทฤษฎีต่างๆ เกี่ยวกับแอตแลนติสก็มีอีกมากมาย ซึ่งไม่สามารถยกมาทั้งหมดได้
แต่อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์ส่วนมากเชื่อว่าแอตแลนติสตามคำกล่าวอ้างของเพลโตนั้น เป็นเพียงนิยาย ไม่ใช่เรื่องจริง
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าเพลโตแต่งเรื่องขึ้น เป็นนิทานเกี่ยวกับการที่พระเจ้าลงโทษมนุษย์ที่ทำผิดบาป จึงสาปให้น้ำท่วม กลืนกินดินแดนที่รุ่งเรืองให้จมอยู่ใต้ทะเล
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีหลักฐานที่แน่ชัดถึงการมีอยู่ของแอตแลนติส การสำรวจใต้มหาสมุทรก็ไม่พบร่องรอยของอารยธรรมโบราณที่เชื่อว่าเป็นแอตแลนติส
ที่สำคัญ เพลโตเองก็เคยแต่งเรื่องราวเพื่อสื่อถึงแนวคิดทางปรัชญาของตน จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าแอตแลนติส ก็เป็นเพียงนิทานเรื่องหนึ่งของเพลโตเท่านั้น
- 28
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
