อัพเดทภาพรวมกลุ่ม Logistic
กับรอบของเศรษฐกิจที่กำลังกลับมา
ถือว่ากำลังมีความร้อนแรงสุดๆเลยทีเดียวครับกับหุ้น “Logistic” หรือกลุ่มธุรกิจขนส่งในช่วงนี้ หลังจากที่ภาพรวมของเศรษฐกิจนั้นกำลังส่งสัญญาณของการฟื้นตัวกลับมา
แต่ถ้าย้อนกลับไปในช่วงปีพ.ศ. 2563 ที่สถานการณ์ของ Covid-19 ยังมืดมน เราก็จะพบว่าหุ้นกลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์ไปด้วยซ้ำครับ เพราะเมื่อผู้คนออกจากบ้านหรือเดินทางยากลำบาก แน่นอนว่าบริการขนส่งคือคำตอบ
ซึ่งราคาของหุ้นในกลุ่ม Logistic ก็ได้มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากความผ่อนคลายของวิกฤติ รวมไปถึงข่าวการกระจายวัคซีนซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นทั่วโลก
โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งทางทะเลที่กำลังมีระวางเรือพุ่งสูงขึ้นจากปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ สวนทางกับราคาน้ำมันที่ตกต่ำจากผลกระทบของโควิดนั่นเอง
ส่งผลให้ตัวเลขกำไรของหุ้นในกลุ่มธุรกิจ Logistic ประจำงวดไตรมาส 1/64 ที่ประกาศออกมานั้นเติบโตกันยกกลุ่มนอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้ม & ภาพรวมสดใสอย่างชัดเจนอีกด้วย
นำโดย III หรือบมจ. ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ บริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรทั้งทางบก ทะเล อากาศ และทั้งภายในประเทศ & ระหว่างประเทศ ที่สามารถทำกำไรในไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2564 ไปได้ 77 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นมาถึง 244%
ด้วยสาเหตุหลักๆคือการใช้จุดแข็งเดิมจากการเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินแบบ Exclusive เพื่อเสนอให้สายการบินนำเครื่องบินที่ไม่ได้ใช้งานในช่วง Covid-19 มาขนส่งสินค้าในรูปแบบ Cargo Flight
หรือจะเข้าใจง่ายๆว่า III ได้ร่วมมือกับสายการบินเพื่อนำเครื่องบินขนส่งคนมาเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าแทนนั่นเองครับ
นอกจากนี้ III ยังได้เข้าไปลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 30% ของ Shipsmile ผู้ขายแฟรนไชส์จุดรวบรวมการขนส่งพัสดุภายในประเทศจากบริษัทขนส่งชั้นนํา เช่น แฟลช เอ็กซ์เพรส (Flash) ไปรษณีย์ไทย และ DHL เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติมอีกด้วย
ต่อมายัง SONIC หรือบมจ. โซนิค อินเตอร์เฟรท ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรที่มีรายได้หลักมาจากธุรกิจการขนส่งทางเรือจากตลาด mai ที่มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/64 พุ่งขึ้นมากว่า 206% กลายเป็น 41 ล้านบาทไปได้อย่างแข็งแกร่ง
ซึ่งก็เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าที่เริ่มคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ได้ดีขึ้น ค่าระวางเรือที่สูงขึ้น และปริมาณของการนำเข้า-ส่งออกที่มีการทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับธุรกิจใหม่อย่างการ “ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อหัวรถลาก” ให้กับพันธมิตรที่อยากขยับขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นจึงทำให้แนวโน้มของ SONIC นั้นยังคงสดใสอย่างต่อเนื่องจากทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจเสริมเลยทีเดียว
ตัวที่สามเป็น LEO หรือบมจ. ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ บริษัท Holding company ของธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรอีกเจ้าหนึ่งที่กำไรสุทธิประจำไตรมาสแรกมีการเติบโตขึ้นมากว่า 190%
เนื่องจากว่ารายได้หลักของ LEO ก็มาจากธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลด้วยเช่นกัน ดังนั้นจากผลของค่าระวางเรือตู้ที่ยังพุ่งขึ้นทำ New high อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งอาจจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยบวก
ในขณะเดียวกัน LEO ก็ได้มีการขยายบริการจากการจับมือกับพันธมิตรอย่าง China Post Group รวมไปถึงการเริ่มดำเนินโครงการขยายธุรกิจลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ และโครงการบริการห้องเก็บของส่วนบุคคลเพิ่มอีกด้วย จึงเชื่อว่าปีพ.ศ. 2564 ผลงานของทางบริษัทน่าจะยังคงเติบโตได้ต่อ
มาถึงคิวของ WICE หรือบมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ อีกหนึ่งหุ้นสุดร้อนแรงจากกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ที่ยังมีกำไรเติบโตขึ้นมานับ 169% เป็น 82 ล้านบาท และยังถือว่าเป็นการทุบสถิติกำไร New high อย่างต่อเนื่องติดกันถึงไตรมาสที่ 5 ของบริษัทอีกด้วย
เพราะในไตรมาสนี้ธุรกิจการขนส่งทางอากาศของ WICE นั้นมีการเติบโต 33% เช่นเดียวกันกับธุรกิจการขนส่งทางทะเลอีก 27% จาก Demand ของภาคการส่งออกที่ยังแข็งแกร่งโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์
ซึ่งในปีนี้ WICE ก็ยังมีความตั้งใจจะกลับมาโฟกัสที่ธุรกิจ Cross-border หรือการขนส่งสินค้าข้ามแดนทางบกให้มากขึ้น พร้อมกับการเพิ่มธุรกิจเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าใหม่จากจีน และการจัดหาซื้อตู้คอนเนอร์ให้ครบตามแผน ดังนั้นคาดว่าในไตรมาสต่อไปจึงมีโอกาสสูงมากที่ WICE จะทุบสถิติกำไร New high ได้ต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 6
ส่วนตัวสุดท้ายก็คงจะเป็น JWD หรือบมจ. เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีเส้นทางการขนส่งอยู่ 8 ประเทศคือไทย ลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย
โดยในไตรมาส 1/64 ถึงแม้ว่า JWD จะมีกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นมา 51% กลายเป็น 141 ล้านบาทซึ่งน้อยกว่าเพื่อนๆในกลุ่ม แต่ถ้ามองจากฐานของกำไรที่สูงแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ครับ
แต่ถีงอย่างไรแล้วในปีพ.ศ. 2564 ก็น่าจะยังคงเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของ JWD อีกทั้งยังมีโอกาสเติบโตขึ้นไปต่ออีกจากการขยายพอร์ตลงทุนเพิ่มไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจห้องเย็นไปสู่ภูมิภาค การทำ M& A ในธุรกิจขนส่งและโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงขยายตัวของธุรกิจที่ไปลงทุนในเวียดนาม
และด้วยสาเหตุเหล่านี้ครับที่ทำให้ “หุ้น Logistic” มีความร้อนแรงและถูกจับตามองเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมาแบบไม่สนใจสภาวะตลาดโดยรวมกันแล้วนั่นเอง
เพราะเรียกได้ว่าท่ามกลางการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ถือว่าเป็นวิกฤติที่ยากที่สุดอีกวิกฤติหนึ่งของผู้ทำธุรกิจในหลายๆอุตสาหกรรม แต่หุ้นโลจิสติกส์กลับยังเป็นกลุ่มธุรกิจซึ่งยังสามารถเติบโตและมีกำไร New high กันมาได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนการ Turn around อย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ของหุ้นกลุ่ม “Logistic” จะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ารอบของเศรษฐกิจกำลังกลับมาได้แล้วจริงหรือไม่ ?
เรื่องนี้ต้องมาติดตามกันต่อ
สำหรับพวกเรา หุ้นพอร์ตระเบิด ก็คงจะต้องขอตัวลาเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านไปก่อน
สวัสดีครับ...
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.08 %
TFEX สัญญาละ 18-20
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
- 22
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
