1 มิ.ย. 2021 เวลา 19:14 • สุขภาพ
บางที #Diary (ไดอารี่) อาจเป็นผู้ที่รับฟังเรื่องราวของเราได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดก็ได้
ไม่ว่าจะเป็น Moment ของความสุขหรือความทุกข์ ... #ไดอารี่ จะมี Free spaces ให้เราได้ระบายความรู้สึกในใจ บันทึกประสบการณ์ในอดีตหรือวางแผนอนาคตของเราได้อยู่เสมอ
หลายคนไม่ค่อยอินกับการเขียนไดอารี่ บ้างก็ด้วยเหตุผลที่ไม่ชอบการเขียนอะไรเยอะแยะมากมาย บ้างก็ด้วยเหตุผลเวรี่คลาสสิค เช่น ไม่มีเวลา ลืม ... เป็นต้น แต่มีเหตุผลหนึ่งที่คนจำนวนไม่น้อยคิดอยู่ในใจ นั่นก็คือ การไม่เห็นประโยชน์จากการมาใช้เวลานั่งเขียนไดอารี่ในทุกๆ วัน ... อาจจะใช่ ที่ว่า การเขียนไดอารี่นั้นเป็นการได้ระบายความในใจออกมา แต่เมื่อเวลาผ่านไป บันทึกหน้านั้น บันทึกเล่มนั้น จะกลายเป็นมีประโยชน์ที่นอกเหนือจากการที่เคยได้ระบายหรือไม่ ... คิดว่าหลายคนก็คงมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว
แต่ในโลกของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า หรือคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาชีวิตอันหนักหน่วงและหาทางออกบนโลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้ ... ไดอารี่ก็เปรียบเสมือนเพื่อนแท้ของพวกเขา เพื่อนที่รับฟังเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข เพื่อนที่มีพื้นที่คลีนๆ สะอาดๆ และกว้างมากพอที่จะให้เราได้สื่อสารความอัดอั้นตันใจออกมาได้มากที่สุด และที่นอกเหนือไปกว่านั้น หลายคนอาจเคยมองข้ามไปว่า ไดอารี่เป็นได้แค่เพียงพื้นที่ระบายความในใจ หรือถ้าจะเปรียบไปแล้ว ก็เป็นเพียงผู้รับฟังที่ดีคนหนึ่ง ... แต่ความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่จะไม่จากเราไปไหน จะมีเวลาให้เราเสมอ ให้เรากลับมาได้อ่าน ได้ทบทวน ความรู้สึกที่เคยเจ็บจริง ความรู้สึกที่เคยผิดหวังท้อแท้ หรือความรู้สึกผิดที่ได้ทำพลาดอะไรบางอย่างกับตัวเองหรือกับบุคคลอื่นก็ตาม ทำให้เราได้มีโอกาสสำรวจอุปสรรคที่อยู่ทั้งภายนอกและภายในจิตใจของตนเอง ให้เราได้มองเห็นหนทางในการสร้างประสบการณ์ที่อาจคล้ายคลึงกันกับในอดีต แต่ต้องไม่ผิดหวัง ไม่เดินกลับไปสู่ประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ตอบโจทย์ของความสุขและความสมหวังในชีวิต
ถึงแม้ว่า ไดอารี่ของคนที่ดูภายนอกแล้วไม่ได้มีการแสดงออกถึงสภาพปัญหาทางด้านจิตใจ แต่ก็ใช่ว่าเนื้อหาในไดอารี่นั้นก็จะเต็มไปด้วยความสุข ความสมหวัง และความพึงพอใจกับชีวิตในทุกๆ วัน ... ในทางกลับกัน ถึงแม้ไดอารี่ของผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะถูกใครหลายคนมองว่า ทุกๆ หน้าของไดอารี่คงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หม่นหมอง หดหู่ และความคิดที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป แต่ความเป็นจริง ในไดอารี่ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ยังอาจมีคีย์เวิร์ดบางตัวที่สามารถสร้างพลังใจให้กับผู้ที่ได้อ่าน ซึ่งอาจเป็นบุคคลรอบข้าง หรือแม้กระทั่งตัวพวกเขาเองที่อาจกลับมาอ่านสิ่งต่างๆ ที่ตนเองเคยเขียน และเป็นไปได้ว่า พวกเขาเองก็อาจเห็นข้อความที่ตนเองควรปรับปรุงและพัฒนาได้อย่างดีที่สุด
"DEPRESSION DIARY มันไม่ได้เศร้าอย่างที่คิดหรอก" เป็นหนังสืออีกเล่มที่ตีแผ่เนื้อหาของความรู้สึกในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ... ซึ่งไม่จำเป็นเลยว่า ไดอารี่ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะต้องมีแต่ความรู้สึกด้านลบบรรจุอยู่เท่านั้น มันอาจมีคำ ประโยค หรือข้อความใดๆ ที่เมื่อเอามันมาอธิบายความหมายได้นั้น เราอาจเห็นว่ามันสามารถแปรเป็นพลังใจในการต่อสู้ของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าได้อย่างน่าอัศจรรย์จริงๆ เพราะอย่างน้อยที่สุด ไดอารี่ก็เปรียบเสมือนเพื่อนแท้ที่คอยรับฟังปัญหาต่างๆ ของพวกเขา
เพิ่งเริ่มเข้าต้นเดือนใหม่ไม่นานมานี้เอง ... เราอาจลองเอาไดอารี่ที่เรามีหรือสมุดเปล่ามาลองเขียนไดอารี่เพื่อบันทึกความรู้สึกของเราในแต่ละวัน อย่างน้อยที่สุด เราก็มีพื้นที่ระบายความในใจ และมากไปกว่านั้น วันที่เราต้องการกำลังใจ เราก็อาจเรียกไดอารี่เพื่อนรักผู้นี้แหละ กลับมาให้กำลังใจ กลับมาให้ช่วงเวลาเราอย่างเต็มที่เพื่อให้เราทบทวนว่า เราผ่านอดีตมาได้อย่างไร และเราเคยวางอนาคตอย่างไร ...
#ReadingPsychologist
#นักจิตวิทยาการอ่าน
#HnoomBookWorm
#หนุ่มหนอนหนังสือ
โฆษณา