1 มิ.ย. 2021 เวลา 22:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
จับตา “หุ้นโรงไฟฟ้า” ไทย
1
วันที่สดใสยังรออยู่...
สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิก หุ้นพอร์ตระเบิด ทุกท่าน เชื่อว่าหลายคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า “หุ้นโรงไฟฟ้า” นั้นถูกจัดอยู่ในหมวด Defensive stock หรือหุ้นที่มีความมั่นคง ปลอดภัยสูง
2
แต่หลังจากที่ Covid-19 ได้แพร่ระบาดก็เป็นเหตุให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจากผู้คนมีการลดลงไปมาก รวมไปถึงปัญหาความล่าช้าในการ COD โรงไฟฟ้าอีกหลายแห่ง
ทำให้พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ไม่ค่อยจะดีของหุ้นกลุ่มนี้สักเท่าไหร่ สะท้อนออกมาทางผลกำไรสุทธิรวมกันทั้งอุตสาหกรรมที่ลดลงไป 3.36% หรือราวๆ 5.2 หมื่นล้านบาท
ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นเองที่ทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ามีราคาร่วงลงมากันเกือบทั้งหมดในวิกฤติโควิด แต่ล่าสุดหุ้นกลุ่มนี้ก็กำลังกลับมาถูกพูดถึงกันอีกครั้ง จากประเด็นบวกที่เริ่มกลับเข้ามาในปีพ.ศ. 2564
ไม่ว่าจะเป็นทิศทางการกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ
ว่าภายในปีพ.ศ. 2565 จะมีรถยนต์ EV ภายในประเทศเป็นจำนวน 3 หมื่นคัน ต่อมาเพิ่มเป็น 4.4 แสนคันในปีพ.ศ. 2573 และ 1.15 ล้านคันให้ได้ภายในปีพ.ศ. 2578
2
ส่งผลให้หุ้นโรงไฟฟ้าอย่าง EA หรือบมจ. พลังงานบริสุทธิ์ ผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนชั้นนำของประเทศไทยและบริษัทผู้ริเริ่มโครงการแบตเตอรี่ Lithium-ion ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ & รถสาธารณะไฟฟ้าในประเทศไต้หวัน เป็นหุ้นตัวแรกที่ถูกตลาดจับตามอง
นอกจากนี้ EA ก็ยังกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในไทยซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถเปิดทำการได้ในช่วงไตรมาส 2/64 รวมไปถึงเรือเฟอร์รี่ไฟฟ้าที่ทางบริษัทได้เริ่มเปิดให้บริการ ณ แม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้ว
ในขณะที่บริษัทลูกของ PTT อย่าง GPSC หรือบมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หุ้นโรงไฟฟ้าที่มีจุดเด่นในด้าน IPP หรือโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่นั้นก็เป็นหุ้นอีกตัวหนึ่งที่กำลังมีข่าวเกี่ยวกับโครงการแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน
1
แต่ข้อแตกต่างระหว่างการใช้แบตเตอรี่ของหุ้นทั้งสองตัวนี้ก็คือแบตเตอรี่ของทาง EA จะเน้นไปที่การใช้งานร่วมกับยานพาหนะที่เป็นระบบไฟฟ้า ส่วนแบตเตอรี่ของ GPSC จะเน้นไปที่การกักเก็บพลังงานเพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกนั่นเอง
1
มาต่อกันที่สภาวะการปรับตัวขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินกันเลยครับ หากใครได้ติดตามมาก็น่าจะเห็นว่าสองตัวนี้กำลังมีราคาเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่ามันสำคัญกับแนวโน้มหุ้นโรงไฟฟ้า
1
เนื่องจากว่าโรงไฟฟ้าหลักๆในประเทศเรานั้นมีสัดส่วนของต้นทุนอย่างก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน อยู่ถึงราวๆ 70% - 75% แถมแนวโน้มก็ยังคงน่าจะมีการปรับเพิ่มไปอย่างต่อเนื่อง
2
สร้างผลกระทบให้กับหุ้นที่มีโรงไฟฟ้าแบบ SPP(โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก) เป็นสัดส่วนหลักอย่าง BGRIM และ GPSC เพราะนอกเหนือจากลูกค้าอย่าง EGAT หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฝผ.) แล้ว พวกเขาก็ยังมีลูกค้าที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมอยู่ด้วยซึ่งจะอ้างอิงราคาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ปรับราคาขายตามได้ช้า
แตกต่างกับกลุ่มหุ้นที่มีโรงไฟฟ้าแบบ IPP อย่าง RATCH & EGCO ที่มีสัญญาระยะยาวกับ EGAT แถมยังเป็นลูกค้าเพียงเจ้าเดียว ทำให้สามารถปรับราคาขึ้นได้ตามข้อกำหนดการซื้อขาย และไม่ได้รับผลกระทบอะไรกับราคาพลังงานที่สูงขึ้น
ส่วนความเสี่ยงอีกหนึ่งอย่างของหุ้นโรงไฟฟ้าก็คือ ความผันผวนของสกุลเงินต่างประเทศ เพราะผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่แล้วจะมีหนี้สินที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศอยู่มากนั่นเอง โดยเฉพาะหุ้นอย่าง EGCO BGRIM และGULF แต่ถึงอย่างไรแล้วประเด็นนี้ก็น่าจะเป็นเพียงปัจจัยกดดันในระยะสั้นเท่านั้น
ส่งผลให้หุ้นโรงไฟฟ้าผู้นำอย่าง GULF ค่อนข้างจะได้รับความสนใจจากเหล่านักวิเคราะห์มากเป็นพิเศษในปีนี้เนื่องจากว่า GULF หรือบมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ นั้นมีการบริหารสัดส่วนของโรงไฟฟ้าแบบ SPP & IPP ได้ค่อนข้างสมส่วน
1
แต่อาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าหรือ PDP ในประเทศเวียดนามที่อาจจะเกิดความล่าช้าได้ รวมไปถึงเรื่อง P/E ในปัจจุบันที่สูงซึ่งตรงนี้ก็จะต้องไปดูกันต่อว่า GULF จะสามารถสร้างผลกำไรให้เติบโตได้ตามแผนและทำให้ระดับ P/E ลดลงมาได้ในอนาคตหรือไม่
คล้ายๆกันกับ RATCH หรือบมจ. ราช กรุ๊ป Holding company ที่มีสัดส่วนโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นแบบ IPP ทำให้มีผลกระทบจากราคาต้นทุนที่สูงขึ้นต่ำ รวมถึงทางบริษัทนั้นก็มีพอร์ตการลงทุนเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมอยู่ที่ออสเตรเลียด้วยส่วนหนึ่ง
ทำให้ RATCH ไม่ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากค่าเงินที่ผันผวน และถึงแม้ว่าอายุโรงไฟฟ้าของ RATCH จะใกล้หมดสัญญาแล้วแต่ปัจจุบันก็ถือว่า RATCH ได้ดำเนินการหาโครงการใหม่ๆเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเข้ามาได้ตามแผน
ต่อมาเป็น GPSC หรือบมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ ที่กำลังถูกจับตามองจากแผนการขยับธุรกิจเข้าสู่พลังงานสะอาดของบริษัทแม่คือ PTT(ปตท.) กันทั้งองค์กรนั้นเองครับ โดยทาง GPSC ก็ได้คาดหวังว่าธุรกิจแบตเตอรี่จะเข้ามาเป็น S-Curve ใหม่ของบริษัทได้ในอนาคตอีกด้วย
แต่ถึงอย่างไรในช่วงแรกๆแบตเตอรี่ของ GPSC ก็จะยังเน้นไปที่การการติดตั้งเพื่อใช้กักเก็บพลังงาน (energy storage) ให้กับบริษัทในเครือ PTT เป็นหลักก่อน และหากว่ามีกระแสตอบที่ดีจึงจะทำการผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป
1
แตกต่างกับหุ้นอย่าง BGRIM หรือบมจ. บี.กริม เพาเวอร์ ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานที่แผนการหาโครงการเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงครึ่งปีหลังนั้นดูลดลงไปมาก จากปัญหาของ Covid-19 เพราะมีโครงการใหม่ๆของ BGRIM นั้นอยู่ในต่างประเทศอยู่มากพอสมควร
1
รวมไปถึงโครงการใหม่ๆที่เป็นการต่อยอดธุรกิจเพื่อสร้าง New S-Curve ของทาง BGRIM นั้นก็ยังไม่มีการประกาศอะไรออกมาสักเท่าไหร่นัก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาของ BGRIM ในช่วงนี้
เช่นเดียวกันกับ EGCO หรือบมจ. ผลิตไฟฟ้า ที่ยังต้องรอข่าวของโครงการใหม่ๆ นอกจากนี้ก็ยังคงมีประเด็นกดดันเกี่ยวกับเทรนด์การปรับตัวขึ้นของ Bond yield หรือพันธบัตรรัฐบาลด้วยนั่นเอง
1
และทั้งหมดนี้ก็คงจะเป็นข่าวคราวความเคลื่อนไหวอันน่าสนใจของ “หุ้นโรงไฟฟ้า” ตัวเด่นๆซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยที่พวกเรา หุ้นพอร์ตระเบิด อยากจะนำมาอัพเดทให้ได้ทราบกัน หลังจากที่ข่าวการสนับสนุนยานพาหานะไฟฟ้า EV ทั้งภายในไทยและทั่วโลกนั้นเริ่มมีความชัดขึ้น
สำหรับในวันนี้พวกเราก็คงจะต้องขอตัวลาเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านไปก่อน และยังเชื่อว่าวันที่สดใสของหุ้นกลุ่มนี้ยังคงรออยู่อย่างแน่นอน
สวัสดีครับ...
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.08 %
TFEX สัญญาละ 18-20
1
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
โฆษณา