10 หลักบริหารคนให้รักงานตามแบบฉบับ Google
2
WEEKLY BOOK REVIEW ทุกวัน พฤหัส 20.30น. มาแล้วคับผม สัปดาห์ขอนำเสนอ
Work Rules!
By Laszlo Bock
#What_I_Get
 
ชีวิตเราทุกคนล้วนต้องมีการทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไม่มากก็น้อย การทำงานที่ดีย่อมช่วยให้เรามีความสุขในชีวิตมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่การทำงานมักเต็มไปด้วยอุปสรรคและปัญหามากมาย จนทำให้การทำงานของคนส่วนมากกลายเป็นความทุกข์ และทำเพียงเพราะว่ามันจำเป็นต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น
7
หนึ่งในปัญหาโลกแตกที่เราต้องเจอในการทำงานที่ทำให้เราต้องเหนื่อยใจมากที่สุดมักจะไม่ใช้ตัวเนื้อหาของงาน แต่กลับเป็นเรื่องของ “คน” หรือ “วัฒนธรรม” การทำงานมากกว่า ถึงแม้การบริหารทั้งสองเรื่องนี้จะเป็นเรื่องยากแต่ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้
3
บริษัท กูเกิล ถือเป็นหนึ่งบริษัทที่มีการบริหารด้านทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมองค์กรที่ยอดเยี่ยม จนได้รางวัลบริษัทที่คนอยากเข้าทำงานด้วยมากที่สุดมาแล้วหลายครั้ง
ภายในหนังสือเล่มนี้จะค่อย ๆ บรรยายถึงเรื่องราวการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลของกูเกิลที่ทำให้บริษัทที่มีคนทำงานเพียง 10 คน ไปสู่การมีพนักงานมากกว่า 100,000 คน โดยยังคงวัฒนธรรมที่ดีไว้ได้และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลาอย่างไร
โดยพื้นฐานของกูเกิลมาจาก วัฒนธรรมที่เชื่อว่าทุกคนล้วนเป็นคนดี เชื่อในการให้อิสระแก่พนักงาน การอำนวยความสะดวกให้พนักงานแสดงประสิทธิภาพได้สูงสุด และการให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม ซึ่งจะก่อให้เกิด “บริษัทที่มีอิสระสูง” ซึ่งมีแนวทางตามหลักการเบื้องต้น 10 ข้อต่อไปนี้
2
1.ทำให้งานมีความหมาย
การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพนักงานกับคนที่ได้รับผลประโยชน์จากงานที่พนักงานทำจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่พนักงาน และยังทำให้พนักงานรู้สึกมีความสุขมากขึ้นจากการได้ช่วยเหลือใครสักคนอยู่
โดยบริษัทสามารถกำหนดคุณค่าที่ยึดถือพร้อมเล่าเรื่องราวถึงผลกระทบจากการทำงานของบริษัทให้พนักงานเข้าใจจนเกิดเป็นความหมายของการทำงานที่ดี
1
2.ไว้ใจพนักงาน
ถ้าคุณเชื่อว่าพนักงานทุกคนเป็นคนดี จงโปร่งใส ตรงไปตรงมากับพนักงาน รวมถึงการให้สิทธิในการแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานต่าง ๆ ด้วย ผู้บริหารอาจต้องสละอำนาจของตัวเองบางส่วนเพื่อทำให้เกิดพื้นที่ให้พนักงานได้ปรับปรุงและพัฒนางานของตัวเอง
2
3.รับเฉพาะคนที่ดีกว่าคุณ
จงรับพนักงานใหม่เฉพาะคนที่มีมีความสามารถเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้เท่านั้น ถึงแม้วิธีการนี้จะทำให้เราได้ตัวพนักงานช้าลงและทำให้คนที่ทำงานอยู่มีงานมากขึ้นชั่วคราว แต่จะเป็นการคุ้มค่ากว่ามากถ้าคุณได้พนักงานที่ทำงานได้จริง และยังลดความเสี่ยงจากการรับพนักงานที่ไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมจนทำให้ทีมงานปั่นป่วนอีกด้วย
4
4.อย่าสับสนระหว่างการพัฒนา และการบริหารผลการทำงาน
จงทำให้การพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาการทำงานมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพด้วยการทำมันอย่างสม่ำเสมอ สร้างจังหวะเวลาที่พนักงานสามารถพูดคุยเรื่องการพัฒนาตนเองได้อย่างสบายใจ และทำมันแยกจากการประเมินผลการทำงานออกจากกันอย่างเด็ดขาด เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน และการประเมินผลการทำงานควรพูดถึงเฉพาะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและรางวัลหรือโทษที่เป็นไปตามผลลัพธ์นั้น
3
5.ให้ความสำคัญกับทั้งสองขั้ว
จงพิจารณาคนที่เก่งที่สุดของคุณอย่างละเอียด ว่าพวกเค้าทำผลงานออกมาอย่างยอดเยี่ยมได้อย่างไร มองหาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในตัวพนักงานเหล่านี้ และให้เค้าสอนความสามารถต่าง ๆ ให้กับคนอื่นในบริษัท เพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้การพัฒนาตัวเองขึ้น
3
นอกจากนี้คุณควรเห็นอกเห็นใจคนที่ทำงานได้แย่ที่สุดด้วย ถ้าคุณมีระบบรับคนเข้าทำงานที่ดี พวกเขาไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถ เพียงแต่พวกเขาอาจประสบปัญหาอยู่ คุณควรเข้าไปสอบถามและหาทางช่วยเหลือ แต่ถ้าไม่ได้ผลก็ควรให้เขาออกไป เพื่อไปเจอสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าเพื่อตัวเขาเอง
1
6.จงประหยัดและใจกว้าง
การประหยัดในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้คุณลดสวัสดิการต่าง ๆ ของพนักงานเพื่อประหยัดเงินของบริษัท แต่เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างสวัสดิการที่ใช้เงินไม่มากแต่สร้างความสุขให้กับพนักงานได้มาก อาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่พนักงานที่ได้รับจะรู้สึกดีเมื่อได้รับสิ่งที่ไม่เคยคาดหวังว่าจะได้
1
จงใจกว้างในการใช้เงินในเวลาที่พนักงานต้องการมันจริง ๆ ซึ่งก็คือช่วงเวลาที่กิดเรื่องน่าเศร้าที่สุดหรือน่าดีใจที่สุด ถ้าบริษัทมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือหรือร่วมยินดีกับโอกาสเหล่านี้พนักงานจะรู้สึกผูกพันธ์กับบริษัทมากขึ้น
1
7.จงให้ผลตอบแทนแบบไม่เป็นธรรม
การให้ผลตอบแทนอย่างเป็นธรรม เช่น คนที่ตำแหน่งเดียวกันจะได้ผลตอบแทนเท่ากันฟังดูดี แต่นั่นเป็นเหตผลที่ทำให้คนทำงานเก่งที่สุดต้องลาออกจากบริษัท ซึ่งนั่นไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย
9
บริษัทควรจ่ายผลตอบแทนที่มากกว่ากับความสามารถที่มากกว่าของพนักงานเหล่านี้ เพราะพนักงานที่เก่งที่สุด 10% จะสร้างผลงานให้คุณมากถึง 90% (นอกจากนี้ควรอธิบายเหตผลของผลตอบแทนที่มากกว่าและแนวทางการพัฒนาตนเองแก่พนักงานคนอื่น ๆ)
3
8.สะกิด
จงสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมที่บริษัทต้องการ เช่น ถ้าคุณอยากให้พนักงานร่วมมือกันพูดคุยกันระหว่างการทำงานก็ให้เอาคอกทำงานออกไป ถ้าคุณอยากให้พนักงานสุขภาพดีขึ้นคุณอาจจัดวางอาหารที่มีประโยชน์ไว้ในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าอาหารชนิดอื่น เป็นต้น
9.จัดการกับความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น
คุณอาจจะสะดุดบ้างระหว่างการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาระบบต่าง ๆ คุณต้องจะต้องถอยบ้าง เพื่อทดลองความเป็นไปได้ต่าง ๆ การเล่าเรื่องราวของการทดลองของคุณจะช่วยสร้างกลุ่มที่สนับสนุนคุณและทำให้คุณก้าวต่อไปได้
10.สนุกกับมัน! แล้วย้อนกลับไปทำข้อ 1 ใหม่
การสร้างวัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมในการทำงานไม่ใช่การทำแบบครั้งเดียวจบ คุณต้องเรียนรู้และทำการทบทวนอย่างต่อเนื่อง โดยทดลองปรับเปลี่ยนไปทีละอย่างเพื่อหาจุดสมดุลและค่อย ๆ พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
#How_I_Feel
หนังสือเล่มนี้ช่วยตอบความสงสัยว่ากูเกิลสามารถสร้างวัฒนธรรมที่ทำให้คนจากทั่วทั้งโลกอยากทำงานด้วยได้อย่างไร
1
นอกจากนั้นยังเป็นหนังสือที่เจาะลึกถึงทางเลือกต่าง ๆ ของการบริหารด้านทรัพยากรบุคคลในองค์กร ที่ผ่านการทดลองทำจริงและกลั่นกรองออกมาเป็นแนวทางที่กูเกิลใช้อยู่ในปัจจุบัน
ด้วยความที่ส่วนตัวไม่ได้อ่านหนังสือด้านบริหารบุคคลมากนัก หนังสือเล่มนี้ถือเป็นการเปิดมุมมองเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ของพนักงานและแนวทางความเชื่อพื้นฐานที่เราควรมีต่อพนักงานของบริษัท
ถึงแม้กูเกิลจะเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จด้วยการมีแนวทางที่เป็นบริษัทที่มีอิสระสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทที่มีระเบียบที่แตกต่างกันจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของบริษัทและค่านิยมที่บริษัทนั้นยึดถือด้วย
การมีอิสระสูงก็อาจต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และการใช้สิทธิเสรีภาพเกินพอดี แต่เราสามารถจะใช้บทลงโทษที่ชัดเจนเพื่อหยุดการกระทำนั้น ๆ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้จากความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานนั้นคุ้มค่ากว่ามาก
#Who_Should_Read
- ผู้บริหารและพนักงานด้านทรัพยากรบุคคล
- เจ้าของกิจการที่อยากสร้างวัฒนธรรมที่มีความอิสระสูง และก่อให้เกิดนวัตกรรมได้ง่าย
- ผู้ที่อยากสร้างบริษัทที่คนไปทำงานแล้วจะมีความสุข
Review by Another Book
WEEKLY BOOK REVIEW ทุกวัน พฤหัส 20.30 ครับผม
กดไลค์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
สำหรับวันนี้ Another Book สวัสดีครับ
91ถูกใจ
252แชร์
13Kรับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
    • กำลังนิยมในบล็อกดิต
      ผ่าขุมทรัพย์ "เจ เจตริน" นักร้องดังยุค Y2K ผ่าขุมทรัพย์ "เจ เจตริน วรรธนะสิน" นักร้องดังมากความสามารถ เเถมเป็นหนุ่มฮอต ขึ้นแท่นขวัญใจแฟนคลับใน ยุค Y2K หรือ ยุค 90
      นายกฯ ญี่ปุ่นทำเซอร์ไพรส์ ไปกรุงเคียฟ ประชัน สี จิ้นผิง เยือนรัสเซีย 'ฟูมิโอะ คิชิดะ' นายกฯ ญี่ปุ่นสร้างความประหลาดใจ ไปเยือนกรุงเคียฟ ประกาศสนับสนุนยูเครนสู้รัสเซียอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ สี จิ้นผิง ปธน.จีน กำลังเยือนกรุงมอสโก หารือกับปูติน
      เปิดราคาประเมินที่ดิน ย่านทองหล่อ หลัง"บี้ สุกฤษฎิ์" ประกาศขาย เปิดราคาประเมินที่ดิน ย่านทองหล่อ และราคาประเมินคอนโด "บี้ สุกฤษฎิ์" หลังประกาศขายผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว เช็คราคาประเมินที่นี่
      ทำไม หุ้นกู้เครดิตสวิส 6 แสนล้าน กลายเป็น 0 ในพริบตา ตามปกติแล้วถ้าเราลงทุนในหุ้นกู้ เราจะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย
      ดูทั้งหมด