17 มิ.ย. 2021 เวลา 13:30 • หนังสือ
บริหารคนด้วย 3 ส่วนผสมอันทรงพลังของ Netflix
1
WEEKLY BOOK REVIEW ทุกวัน พฤหัส 20.30น. มาแล้วคับผม สัปดาห์นี้ขอนำเสนอ
4
Powerful
ทำไม Netflix ถึงมีแต่คนโคตรเก่ง
By แพตตี้ แมคคอร์ด
1
#Who_Should_Read
-ผู้ที่อยากเรียนรู้การบริหารคนเก่ง
-ผู้ที่อยากเข้าใจการบริหารบุคคลสมัยใหม่
-ผู้ที่อยากรู้ว่าคนเก่งมีผลต่องานมากแค่ไหน
#What_I_Get
บริษัทต่าง ๆ ล้วนถูกก่อตั้งมาด้วยจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผลกำไร การสร้างผลกระทบต่อส่วนรวม การกุศล หรือแม้แต่การสนองความต้องการของลูกค้า
แต่สิ่งที่ทุกบริษัทต้องเจอไม่แตกต่างกัน คือ ทุกบริษัทต้องมีการเติบโตไม่มากก็น้อย
1
การเติบโตของบริษัทย่อมก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ภายในบริษัท การรับมือความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อรองรับการเติบโตที่มากขึ้นถือเป็นความท้าทายที่บริษัทต่าง ๆ ต้องเจอ
นอกจากการเปลี่ยนแปลงด้านกลยุทธ์ ด้านบริหาร หรือด้านการเงินแล้ว อีกด้านหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ด้านการบริหารบุคคล
1
การบริหารบุคคลในองค์กรให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เป็นสิ่งที่เหล่าบริษัทที่เติบโตเร็วต้องการเป็นอย่างมาก
เพราะเมื่อบริษัทเติบโตเร็วความต้องการความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้น งานที่ซับซ้อนมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทต้องหาบุคลากรมารองรับงานเหล่านั้น
2
หนึ่งในบริษัทที่สร้างวัฒนธรรมและบริหารบุคคลในบริษัทเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดบริษัทหนึ่งก็คือ Netflix
โดยแกนกลางวัฒนธรรม Netflix มีอยู่ 5 ข้อต่อไปนี้
1.การสื่อสารกันอย่างเปิดเผย ชัดเจน และทันที ในเรื่องงานและปัญหาทั่วทั้งองค์กร
2
2.การพูดความจริงต่อกัน โดยยึดถือความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง
3.การยึดมั่นในหลักความเป็นจริง ถกเถียงกันอย่างตรงไปตรงมา และกล้าพิสูจน์
4.การเล็งถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและบริษัท ก่อนการสนองความคิดเพื่อเอาชนะของตัวเอง
5.การให้ผู้จัดการมีส่วนร่วมในการคัดสรรพนักงานเพื่อสร้างทีมที่มีความสามารถพาบริษัทไปในอนาคตที่บริษัทต้องการได้
1
แกนกลางนี้เป็นศูนย์กลางของปฏิบัติการต่าง ๆ ของบริษัทที่ช่วยให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มี
1.เพื่อนร่วมงานชั้นเลิศ
2.จุดหมายที่ชัดเจน
3.ผลลัพธ์ที่ต้องการที่ตรงไปตรงมา
สามสิ่งนี้ คือ ส่วนผสมอันทรงพลังของ Netflix
นอกจากนี้ภายในหนังสือยังได้นำเสนอแนวทางการบริหารบุคคลของ Netflix ภายใต้หัวข้อ 8 หัวข้อต่อไปนี้
1
1.การสร้างอิสระและความรับผิดชอบ
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับทีมที่มีอิสระในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และเข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริง
งานที่สำคัญที่สุดของผู้จัดการจึงเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมให้พนักงานที่เก่งสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวที่สุด รวมถึงการสร้างทีมที่ยอดเยี่ยม และไว้วางใจให้พวกเขารับผิดชอบงานของตัวเอง
2
2.จงบอกเล่าปัญหาที่บริษัทกำลังเจออยู่
พนักงานทุกระดับควรเข้าใจถึงเป้าหมายของภาพรวมของบริษัทว่าการดำเนินการต่าง ๆ มีจุดประสงค์เพื่ออะไร การให้ความรู้พนักงานเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทจะทำให้เกิดมุมมองเชิงกว้าง และเล็งเห็นถึงปัญหาและหนทางแก้ปัญหาได้จากมุมมองที่แตกต่างกันทั่วทั้งองค์กร
1
การให้ข้อมูลของบริษัทมากมายกับพนักงานอาจทำให้ผู้บริหารหวาดหวั่นอยู่บ้าง แต่ถ้าเทียบกับการที่พนักงานได้ยินข่าวลือแล้วไปพูดต่อกันผิด ๆ เกี่ยวกับบริษัทจะยิ่งทำให้เกิดผลร้ายมากกว่ามาก
1
3.การฝึกในทุกคนพูดด้วยความซื่อสัตย์ชัดเจน
ก่อนที่จะเริ่มให้ทุกคนพูดแสดงความคิดเห็น สิ่งที่ผู้บริหารต้องทำ คือ “การยอมรับฟังความจริงให้ได้” และสิ่งที่ทำให้พนักงานเริ่มพูดความจริงกับคุณ คือ “การพูดความจริงกับพนักงานก่อน” นอกจากนี้สิ่งคุณยังต้องยอมรับผิดถ้ามีการตัดสินใจที่ผิดพลาดไป และอธิบายว่าทำไมคุณถึงตัดสินใจแบบนั้น
1
เมื่อทั้งสองฝ่ายพูดความจริงต่อกันจะทำให้บริษัทเรียนรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้รวดเร็วที่สุด และยังช่วยกันหาทางออกของปัญหาได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
4.พูดคุยกันด้วยข้อเท็จจริงเท่านั้น
การถกเถียงใด ๆ ย่อมมีผู้แพ้ผู้ชนะ คุณต้องมั่นใจว่าผู้ชนะคือผู้ที่มีข้อเท็จจริงที่ดีที่สุด น่าเชื่อถือ และส่งผลดีต่อบริษัทมากที่สุด นอกจากนั้นยังต้องสำรวจการวิเคราะห์และการแปลความข้อมูลต่าง ๆ เพื่อกำจัดอคติที่มีอยู่
คุณต้องทำให้มั่นใจว่าข้อสรุปจากการอภิปรายใด ๆ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ได้จากการที่ฝั่งที่ชนะโน้มน้าวใจได้ดีกว่าโดยไม่มีข้อมูลใด ๆ มารองรับ
4
5.จงสร้างบริษัทที่คุณอยากจะอยู่ในอนาคต
1
จงหมั่นมองภาพอนาคตของธุรกิจของคุณ ว่าในปีข้างหน้า หรือหลายปีข้างหน้า จะเป็นอย่างไร และหาสิ่งที่คุณทำได้ในปัจจุบันเพื่อก้าวไปสู่อนาคตที่คุณคิดนั้น ด้วยการหาทีมงานเพื่อรองรับอนาคตตั้งแต่ตอนนี้ การหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการสร้างทีมจากคนเก่งที่พร้อมทำงานให้คุณ
6.มอบหมายงานให้ถูกคนถูกตำแหน่ง
ด้วยความที่บริษัท Netflix เป็นบริษัทที่มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างรวดเร็ว ขอบเขตของงานก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
1
แต่การบริหารบุคคลที่มีอยู่ให้ก้าวตามทันความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นเรื่องยากมาก
ด้วยความต้องการคนที่ทำงานได้ทันทีเพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์
ทางเลือกของ Netflix จึงเป็นการพยายามจ้างงานคนที่มีความสามารถสูงเทียบเท่ากับงานที่เราจะทำในอนาคต เพื่อให้พนักงานเหล่านั้นทำงานได้ทันทีและสามารถก้าวต่อไปได้อย่างดี
โดยการทำงานเปรียบเสมือนระบบของทีมกีฬา ที่คุณต้องจัดสรรค์ผู้เล่นให้ตรงกับตำแหน่งเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเมื่อผู้เล่นคนไหนที่ไม่อาจสร้างผลลัพธ์ได้อย่างที่คุณต้องการคุณก็ต้องเปลี่ยนผู้เล่นนั้นออกไป
ผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนออกไม่ใช่คนที่ไร้ความสามารถแต่เป็นเพราะบริบทที่เปลี่ยนไปทำให้คุณลักษณ์ที่มีไม่เหมาะสมอีกต่อไป ทางที่ดีคือการให้เขาเดินออกไปสู่ตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า
7.ผลตอบแทนที่แท้จริงควรขึ้นกับวิจารณญาณ
การจ้างงานส่วนมากเรามักจะอิงจากเกณฑ์มาตรฐานแรงงานว่าตำแหน่งนี้ควรได้ผลตอบแทนเท่าไร แต่การจ้างงานคนเก่ง ๆ ที่อยู่ระดับสูงของวงการนั้นต่างออกไป
คุณควรเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ว่าความสามารถของพนักงานที่คุณจะจ้างเข้ามาจะช่วยให้บริษัทก้าวหน้าและได้ผลประโยชน์จากการจ้างงานเค้าได้มากน้อยเท่าไร
ถ้าพนักงานคนที่เก่งมาก ๆ แล้วคุณรู้ว่าเขาสามารถทำประโยชน์ให้บริษัทมหาศาล การจะจ่ายผลตอบแทนให้เขามากกว่าทุกคนในวงการเพื่อแย่งตัวเขามาก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่า
8.ถ้าต้องเปลี่ยน จงเปลี่ยนให้ไว
หนึ่งในปัญหาของการเติบโต คือ การที่พนักงานชุดเดิมตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลง บางบริษัทอาจทุ่มเทกับการพัฒนาทักษะพนักงานเพื่อให้พวกเขาสามารถอยู่ต่อไปได้ แต่ความเป็นจริงแล้วมีคนเพียงส่วนน้อยที่ทำได้
2
การพูดคุยกับเขาโดยตรงว่าทักษะในปัจจุบันของเขาไม่เพียงพอต่อความต้องการของบริษัทแต่เนิ่น ๆ
เพื่อให้พนักงานรับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง และให้เขาเป็นคนตัดสินใจว่าต้องพัฒนาตัวเองหรือจะไปอยู่กับที่อื่นที่เหมาะสมกับเขาเป็น จะส่งผลดีต่อความรู้สึกของพนักงานมากกว่า
2
หลักการเหล่านี้รวมกันก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่มีเพื่อนร่วมงานชั้นเลิศ จุดหมายที่ชัดเจน และผลลัพธ์ที่ต้องการที่ตรงไปตรงมา สามสิ่งนี้ คือ ส่วนผสมอันทรงพลังของ Netflix
#How_I_Feel
 
Netflix เป็นบริษัทที่เต็มไปด้วยคนเก่งด้วยการสร้างทีมจากการมองไปสู่อนาคต เพื่อการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมบันเทิงออนไลน์
การบริหารบุคคลของ Netflix จึงตั้งอยู่บนความรวดเร็วของการหาพนักงานที่มีทักษะตามที่ต้องการมากกว่าการพัฒนาพนักงานที่มีอยู่ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า
การบริหารที่เน้นความโปร่งใส และซื่อสัตย์เป็นจุดที่ทำให้ทุกคนในบริษัทเข้าใจจุดหมายของบริษัทเป็นอย่างดี และก่อให้เกิดอิสระของการแสดงความคิดเห็นภายในบริษัท
โดยรวมถือว่าเป็นการบริหารบุคคลที่เน้นประสิทธิภาพเป็นหลัก และอาศัยการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อก้าวให้ทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปทุกวัน
ปล.ส่วนตัวคิดว่าแนวทางบริหารนี้ไม่ได้เหมาะสมกับธุรกิจทั่วไปมากนัก เนื่องจากหลักการค่อนข้างสุดโต่ง ถ้าบริษัทไม่ได้อยู่ในช่วงเติบโตอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอีกมาก
3
Review by Another Book
WEEKLY BOOK REVIEW ทุกวัน พฤหัส 20.30 ครับผม
กดไลค์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
สำหรับวันนี้ Another Book สวัสดีครับ
โฆษณา