ชาวพุทธควรหันมาสนใจแก้ปัญหาให้สังคมชาวพุทธกันมากยิ่งขึ้น:
พระพุทธศาสนานี้แตกต่างจากศาสนาอื่น เช่น คริสต์หรืออิสลาม การแตกแยกเป็นนิกายต่างๆ ก็เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ทุกนิกายยังยึดมั่นในหลักอริยสัจจ์ ๔ มรรค ๘ (ศีล สมาธิและปัญญา) ไตรลักษณ์ ปฏิจจสมุปบาท กฎแห่งกรรม ฯลฯ เหมือนเดิม
พระพุทธศาสนาระยะหลังอย่างมหายานหรือมหายานระยะปลาย (วัชรยาน) อาจจะมีคำสอนแนวปรัชญาหรือพิธีกรรมที่เขียนขึ้นมาใหม่มาก แต่สาระเดิม ยังคงอยู่และในยุคนี้ ชาวพุทธทุกนิกายต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา มีองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (องค์การพ.ส.ล) เป็นศูนย์รวมกลางในการนัดประชุมพบปะกันเป็นประจำ
คลิปที่เห็นคือพระพุทธศาสนาในยูกันดาซึ่งเป็นเถรวาทสายเมียนมาร์ แต่ได้ทุนสนับสนุนจากองค์กรพุทธทางมหายานหลายมูลนิธิ ทำให้สามารถดำรงอยู่ได้มาจนบัดนี้ คลิปนี้ คณะกรรมการมูลนิธิ Huong To ซึ่งมีสำนักงานในสหรัฐอเมริกาได้เดินทางไปดูความคืบหน้าของพระพุทธศาสนาในยูกันดาและเข้าไปช่วยเหลือ
ชาวพุทธท่านไหนมีกำลังหมายถึงมีการศึกษา มีงานทำและครอบครัวมั่นคงแล้ว ควรจะพามิตรสหายมาก่อตั้งมูลนิธิ กำหนดวัตถุประสงค์ที่สอดคล้องกับความจำเป็นในสังคมไทยปัจจุบัน
เช่น เน้นอบรมสมาธิให้ชุมชน เน้นเปิดอบรมให้ความรู้ด้านพระไตรปิฎก เน้นให้ทุนการศึกษาแก่เด็กชาวพุทธที่ยากจนที่ไม่มีทุนเรียนหนังสือ (มีบางศาสนาเสนอให้ทุนเรียนแก่เด็กชาวพุทธแต่มีเงื่อนไขว่าต้องเปลี่ยนศาสนา) เน้นช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กในครอบครัวที่แตกแยก มีปัญหาการเงินหรือจัดหาวิทยากรให้คำปรึกษาด้านธรรมะแก่คนไทยที่เป็นโรคซึมเศร้า ป้องกันคนคิดฆ่าตัวตาย ฯลฯ
ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังขาดอยู่ สามารถทำได้และเป็นการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วย โปรดเข้าใจว่าวัตถุประสงค์ของมูลนิธินั่นแหละคือยุทธศาสตร์ ถ้ามูลนิธิไหนมียุทธศาสตร์คล้ายกัน ก็ทำ MOU กัน ร่วมกันวางแผนทำงานเพื่อให้เกิดผลดีแก่พระพุทธศาสนาในระดับที่กว้างขวางยิ่งขึ้น
ผมก็มีมูลนิธิที่ช่วยขับเคลื่อนอยู่เป็นประจำในแนวทางที่ผมสนใจและถนัดเพื่อความเจริญมั่นคงของพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกันครับ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
