เรียกได้ว่า WeWork กำลังอยู่ในเส้นทางที่สดใส ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก ซึ่งหลังจากนั้นมีการลงทุนในรอบ Series D ที่ทำให้ WeWork กลายเป็นหนึ่งใน Unicorn ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกแซงหน้า Spotify และตามหลัง Theranos เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
3
Adam และ Miguel ได้เก็บหุ้นของพวกเขาไว้ในนามนิติบุคคลที่เรียกว่า We Holdings ซึ่ง Adam เป็นคนคอยควบคุมอยู่ และได้ขายหุ้นมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์ออกไป ซึ่งต้องบอกว่า เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก ๆ ที่ Adam ได้ปล่อยหุ้นออกไปจำนวนมหาศาลขนาดนั้น ในขณะที่บริษัทกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด
เมื่อ Adam เข้าหานักลงทุนด้านเทคโนโลยี เขาเน้นย้ำถึงเงินที่สามารถทำได้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยในปี 2015 Adam ได้นำเสนอแนวทางใหม่ : WeWork จะเป็นบริษัทชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ sharing economy ซึ่ง WeWork ต้องการ Economy of scale เพื่อบีบให้มีผู้เช่าจ่ายเงินเงินมากขึ้นได้
แต่ปัญหามันได้เริ่มเกิดขึ้น ในปี 2015 เพียงไม่กี่เดือนหลังจาก WeWork ได้รับการลงทุนใน Series D ทีมการเงินเริ่มเข้าหานักลงทุนเกี่ยวกับการเพิ่มทุนอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้