21 มิ.ย. 2021 เวลา 10:23 • ความคิดเห็น
ในวันที่ฮ่องกงใช้กฎหมายความมั่นคงปราบปรามสื่อที่เห็นต่าง
“ฉันคิดว่าคนทำงานสื่อในฮ่องกงทุกคนกังวล แต่เราจะยังคงตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ของเราพรุ่งนี้ เราจะยังตีพิมพ์พรุ่งนี้ ตอนนี้ เราจะทำอย่างดีที่สุดที่จะรักษาการดำเนินงานไว้”
ชาน ปุยหม่าน รองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ Apple Daily กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังศาลไม่ให้ประกันตัวหัวหน้าบรรณาธิการและผู้บริหาร ที่ถูกจับกุมไปพร้อมกับเธอเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ซึ่งเธอได้รับการประกันตัวออกมาตั้งแต่วันรุ่งขึ้น
 
ถ้าเอ่ยชื่อ Apple Daily เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน คงแทบไม่มีใครนอกฮ่องกงรู้จักมากนัก แม้จะอยู่ในวงการมาถึง 26 ปี แต่ตอนนี้ Apple Daily กลายเป็นข่าวดังทั่วโลกเสียเอง เมื่อทางการฮ่องกงบุกค้นห้องบรรณาธิการ พร้อมจับตัวผู้บริหาร ข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ ละเมิดกฎหมายความมั่นคง ผ่านบทความข่าวที่เรียกร้องให้ต่างชาติคว่ำบาตรฮ่องกงและจีนกว่า 30 ชิ้น ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ย้อนหลังไปถึงปี 2019
 
ขณะที่ กระทรวงต่างประเทศของจีนได้ออกมาให้การสนับสนุนตำรวจฮ่องกง พร้อมระบุว่า ไม่มีสิทธิและเสรีภาพใด แม้แต่ของสื่อ ที่จะอยู่เหนือความมั่นคงของชาติ
เมื่อสื่อกลายเป็นข่าวเสียเอง (ภาพจาก AFP)
ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนที่เผยแพร่ความคิดเห็นทางการเมืองถูกจับกุมและดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคง ที่เพิ่งบังคับใช้เมื่อปีที่ผ่านมา
 
ตั้งแต่ถูกบุกค้นเมื่อเช้าวันที่ 17 มิถุนายน Apple Daily ก็ถูกสื่อทั่วโลกเรียกคำนำหน้าว่า “สื่อประชาธิปไตย” ของฮ่องกง สื่ออื่นๆ และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมองว่าการบุกค้นและจับกุมครั้งนี้ เป็นการปรายปรามเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
 
นี่เป็นครั้งที่สองในรอบไม่ถึงหนึ่งปีที่ Apple Daily ถูกตำรวจบุก แต่คราวนี้ บ้านพักของบรรณาธิการ หรือแม้แต่พนักงานบริษัทก็ถูกตำรวจเข้ารื้อค้นไปด้วย นอกจากนี้ ทรัพย์สินบริษัทมูลค่านับล้านก็ถูกทางการอายัด ผู้บริหารถูกจับกุม ทั้งอุปกรณ์อย่าง laptop และ Harddisk ก็ถูกยึด
 
แต่บ่ายวันเดียวกัน นักข่าวยังคงเข้ามาสำนักงาน ตั้งหน้าตั้งตาเขียนข่าวและดำเนินงานที่ต้องบอกว่าไม่ใช่เหมือนวันทำงานอื่นๆ แต่ยิ่งเข้มข้นมากกว่าก่อน เชื่อมต่อโทรศัพท์กับคีย์บอร์ด ทำงานท่ามกลางการจับตามองและการรายงานข่าวโดยสื่ออื่น
 
และจากที่เคยพิมพ์จำหน่ายราว 80,000 ฉบับต่อวัน ตอนนี้ พิมพ์จำหน่ายถึง 5 แสนฉบับ คนเข้าแถวรอซื้อหน้าแผงหนังสือ บางคนซื้อไปแจก บางคนซื้อไปอ่าน บางคนซื้อเพียงเพราะต้องการสนับสนุนเสียงที่เห็นต่างจากรัฐบาล
แคนดี้ โฮ ชาวฮ่องกงวัย 30 ปี หนึ่งในคนที่รอซื้อหนังสือพิมพ์ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า พื้นที่ของเสรีภาพในการแสดงออกแคบลง คนฮ่องกงมากมายรู้สึกถึงความกดดันนี้ เธอคิดว่าความกดดันความกลัวของคนที่ทำงานที่ Appple Daily ยิ่งมากกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า เธออยากจะใช้เงินที่เธอมี แม้ไม่มากนัก ก็เป็นการสนับสนุนพวกเขา
หน้า 1 หนังสือพิมพ์ Apple Daily รายงานข่าวที่ถูกบุกค้นและจับกุม (ภาพจาก AFP)
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเอเชีย มหาวิทยาลัย Georgetown ของสหรัฐฯ ธอมัส เคลลอกก์ ระบุว่า กฎหมายพื้นฐานของเขตปกครองฮ่องกงเองนั้น จริงๆ แล้วปกป้องสิทธิมนุษยชนเพียงพอ และแทบจะไม่มีกฎหมายที่จะทำให้การแสดงออกทางความคิดเป็นเรื่องผิดทางอาญา เขามองว่า กรณี Apple Daily เหมือนเป็นการเตือนจากทางการ บอกให้สื่ออื่นๆ รู้ว่า การแตะหัวข้อคว่ำบาตร เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
 
ผู้เชี่ยวชาญในฮ่องกงเอง ก็ยอมรับว่า กรณีนี้ จะส่งแรงกระเพื่อมต่อเสรีภาพสื่อในฮ่องกงแน่นอน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ โรส หลู่ฉิว มหาวิทยาลัยฮ่องกงแบพติสต์ กล่าวว่า การบุกค้นครั้งนี้ จะส่งผลกระทบกับเสรีภาพสื่อในฮ่องกงแน่นอน เพราะอย่างแรกเลย มันจะสร้างความหวาดกลัว แม้ว่ารัฐบาลจะปฏิเสธ แต่ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเป็นนักข่าวทำงานสำนักข่าว คุณจะเกิดความกลัว เพราะตำรวจระบุว่า (สาเหตุคือ) บทความข่าวราว 30 ชิ้น ดังนั้น คุณก็ไม่แน่ใจว่านั่นคือข่าวที่รายงาน หรือคำสัมภาษณ์ หรือคอลัมน์ หรือบทบรรณาธิการ
ขณะที่ความกังวลของนายกสมาคมผู้สื่อข่าวฮ่องกง คริส เยือง คิมก็ไม่ได้ห่างไกลจากนักวิชาการ เขามองว่าปฏิบัติการของตำรวจครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณ∂ถึงผลกระทบที่จะเกิดกับเสรีภาพของสื่อ และจะยิ่งทำให้การเซนเซอร์ตัวเองของสื่อต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
 
ไม่ใช่แค่หนังสือพิมพ์เท่านั้น ตั้งแต่กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่บังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว ร้านหนังสือทั่วเกาะฮ่องกงต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย ที่หนังสือบางเล่มกลายเป็นห้ามวางจำหน่าย และยังไม่ชัดเจนว่าในฐานะผู้ขาย จะมีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีภายใต้กฎหมายนี้หรือไม่
 
Apple Daily ไม่ใช่สื่อเดียวที่แสดงออกถึงความเห็นต่างกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกับฮ่องกง ไม่ว่าการเข้าจับกุมและใช้กฎหมายความมั่นคงครั้งนี้ จะทำให้สื่ออื่นที่มักวิพากษ์วิจารณ์ฮ่องกงและจีนเงียบลงหรือไม่ แต่ที่เกิดขึ้นแน่นอนคือ คนฮ่องกงออกมาแสดงพลังสนับสนุนข้างสื่อที่ถูกปราบปรามอย่างชัดเจน
โฆษณา