21 มิ.ย. 2021 เวลา 13:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ
บทความดีๆมาอ่านก่อนลุยพรุ่งนี้‼️
กลยุทธ์เทรดหุ้น ตามสไตล์ Wyckoff
.
นักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์เทรดตามแนวโน้ม หรือ ที่เรียกว่า Trend Following นั้น แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่จะเข้าไปเทรดได้ จำเป็นที่ต้องรอโอกาสเหมาะๆ หรือ รอให้เกิดแนวโน้มก่อนเสมอ มิใช่เข้าไปเทรดสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะ จะทำให้ขาดทุนได้อย่างแน่นอน ดังนั้น จะดีกว่าไหมถ้าหากเราสามารถเรียนรู้ธรรมชาติหรือพฤติกรรมที่เกิดขึ้นของตลาด เพื่อจะได้รู้ว่าจังหวะไหน โอกาสไหน เป็นจังหวะที่ Trend Follower อย่างเราเหมาะสมที่จะเข้าไปทำกำไรในตลาดนั้น
บทความนี้จะกล่าวถึง ธรรมชาติของตลาดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า พร้อมกับ จังหวะและโอกาส ที่เทรดเดอร์ที่เทรดตามแนวโน้มนั้นไว้ใช้หาจังหวะเข้าซื้อ จะมีกี่จังหวะ และ โอกาสไหนบ้าง ตามไปดูกันครับ
.
Wyckoff Market and Stock Analysis (Guildline)
.
Richard D. Wyckoff เป็นนักลงทุนที่ใช้ Technical Analysis ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว และยุคเดียวกับนักเก็งกำไรระดับโลกอย่าง Jesse Livermore และเจ้าของทฤษฎีดาวที่เราใช้กันทุกวันนี้อย่าง Charles H. Dow แนวคิดของ Wyckoff พอจะสรุปได้หลักๆ ด้วยกัน 3 ข้อดังนี้
.
1.การระบุแนวโน้ม (Trend identification) : การระบุแนวโน้มตามหลักการของ Richard D. Wyckoff นั้นจะเหมือนกันกับ Dow Theory คือ มี 5 ระยะ ได้แก่ ระยะสะสม (accumulation), ระยะขาขึ้นครั้งใหญ่ (Uptrend Big move), ระยะแจกจ่าย (Distribution), ระยะขาลงครั้งใหญ่ (Downtrend Big move) และจะเกิดระยะสะสม (accumulation) อีกครั้งหนึ่ง ศึกษาเพิ่มเติมใน ทฤษฎีดาว
.
a. แนวโน้มขาขึ้นนั้น จะสังเกตได้จาก จุดสูงสุดและจุดต่ำสุด นั้นสูงขึ้นตลอด
b. แนวโน้มขาลงนั้น จะสังเกตได้จาก จุดสูงสุดและจุดต่ำสุด นั้นต่ำลงเรื่อยๆ
c. ภาวะไร้แนวโน้ม จะสังเกตได้จาก ทั้งจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด จะสูงขึ้น ต่ำลง หรือเท่ากัน ก็ได้
.
2.รูปแบบการกลับตัว (Reversal Pattern) : Wyckoff ได้บันทึกว่า การสร้างจุดสูงสุดกับจุดสูงสุดของตลาดนั้น จะแตกต่างกัน กล่าวคือ การเกิดจุดสูงสุดของตลาดจะใช้เวลาที่ยาวนาน ในขณะที่จุดต่ำสุดนั้นจะเกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรงกว่า (สังเกตจากภาพ) ถึงแม้เขาจะบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้เมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว แต่เหตุการณ์เหล่านั้นก็ยังคงพบเห็บได้อยู่ในปัจจุบัน
.
3.ตำแหน่งของแนวโน้ม (Trend Position) : Wyckoff กล่าวว่า “หากเรารู้ตำแหน่งที่ถูกต้องของแนวโน้มก็เท่ากับว่าเรามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว” ข้อนี้เป็นการอธิบายรูปแบบของแนวโน้มที่เกิดขึ้นเพื่อทำการระบุตำแหน่งของตลาดและประยุกต์ในการหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นได้ ซึ่งมีดังนี้
.
Uptrend
.
Wyckoff กล่าวว่า หากนักลงทุนใช้กลยุทธ์แบบเทรดไปตามแนวโน้ม (Trend Following) นั้นจะมีโอกาสเข้าซื้อได้ 5 ครั้งในแนวโน้มขาขึ้น ได้แก่
.
1.Spring ช่วงนี้จะเป็นจังหวะเข้าของนักลงทุนที่กล้ารับความเสี่ยง เพราะ อาจไม่แน่ว่า ณ จุดนี้จะทำให้เปลี่ยนเป็น แนวโน้มขาขึ้น โดย จุด Spring นั้นจะสังเกตได้จากราคาเกิด Selling Peak จนหลุดแนวรับ พร้อมกับ Volume จะสูงมาก และจะสังเกตว่า แท่งเทียนเป็นแท่งเขียว (ปิดสูงกว่าราคาเปิด)
.
2.Breakout ช่วงนี้เป็นช่วงที่ Trend Follower เริ่มเข้า สังเกตได้จากราคาทะลุแนวต้านในระยะ Accumulation พร้อมกับ Volume ที่สูงขึ้น (ซึ่ง Wyckoff นั้นจะค่อนข้างสนใจ Volume เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า มีแรงซื้อและความสนใจมุ่งมาที่หุ้นดังกล่าว)
.
3.Pullback ช่วงนี้ราคาจะย่อกลับมาบริเวณแนวรับ (ที่เคยเป็นแนวต้าน) แต่จะไม่ทำ New Low
.
4.Re- Accumulation ช่วงนี้เป็นช่วงพักตัวของการขึ้นมาสักระยะ สังเกตได้จากราคาจะวิ่ง Sideway แต่จะไม่หลุดแนวรับ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่เข้าเก็บได้ หรือ ถ้าให้แน่ใจอาจเก็บบริเวณ Breakout อีกครั้งหนึ่ง
.
5.Pullback หลังจากราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปแล้วย่อลงมาไม่หลุดแนวรับ จะเป็นจังหวะเข้าซื้อได้อีกครั้งหนึ่งเช่นกัน
.
1
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้การปั้นพอร์ทให้โตระเบิดไปกับเรา
โฆษณา