ภาระกิจสำคัญที่จะต้องทำในการสะสาง ซากปรักหักพังไปทั่วอย่างนี้ พอจะสรุปได้ดังนี้
- หยุดเลือดให้ได้ คือหยุดภาวะตื่นตระหนก ให้สถาบันการเงินตั้งหลักได้ มีสเถียรภาพค่าเงิน (ซึ่งก็ทำไปแล้วในตอนก่อนๆ)
- ทำให้ economic asset ยังคงผลผลิตได้อยู่ เพื่อให้ไม่เกิดการหดตัวอย่างรุนแรง(ปี 40-41 GDP หดตัวรวมถึง 12% ต้องใช้เวลาถึงอีก4ปี กว่าจะกลับมาที่เดิม)ซึ่งจะส่งผลต่อการจ้างงานและการบริโภค ทำให้ประชาชน โดยเฉพาะคนจนเดือดร้อนมาก และพยายามให้economic value เสื่อมถอยน้อยที่สุด
- ต้องสะสางความเป็นเจ้าของ ว่าใครจะได้อะไรในซากปรักหักพังนี้บ้าง หรือพูดอีกมุมหนึ่งก็คือ แบ่งปันความเสียหาย ซึ่งเจ้าภาพที่ต้องรับก็หนีไม่พ้นว่าเป็น เจ้าของกิจการ เจ้าหนี้ทั้งหลาย ทั้งการเงินการค้า รัฐ(ซึ่งหมายถึงประชาชนทั้งหมดนะครับไม่ใช่เฉพาะพวกครม.) ส่วนพวกแรงงานกับผู้บริโภคก็จะได้รับผลไม่น้อย ทั้งๆที่แทบไม่มีบทบาทในเวทีต่อรองเลย
- ในการสะสางนั้นจะต้องยึดหลักให้ความเป็นธรรม ให้เป็นภาระรัฐน้อยที่สุด และไม่ให้เกิดภาวะ Moral Hazard (แปลง่ายๆว่าอย่าให้คนห่วยได้ดี เพราะมันจะส่งเสริมให้คนอยากห่วยอยากชุ่ยแล้วนำไปสู่วิกฤติอีก..ไม่รู้แปลถูกไหม ใครรู้ช่วยที)
- ที่สำคัญฝุดๆ จะต้องหาแหล่งทุนเพิ่มให้ได้ เพราะทุนเดิม(Equity)พังพินาศย่อยยับแทบสิ้น ถ้าไม่มีทุนถึงฟื้นก็อ่อนแอ เจ๊งอีกได้ง่ายๆ และไม่มีทางขยายตัวได้ ซึ่งแหล่งทุนในประเทศพังยับแทบทั้งสิ้น (แม้แต่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ก็ยับ) ตลาดทุนก็ยังไม่พัฒนา(และก็พึ่งพาต่างชาติกว่าครึ่งอยู่แล้ว) รัฐก็กระเป๋ากลวง จะให้ธปท.พิมพ์แบงค์ดื้อๆเหมือน QE ไอ้กัน ก็กำลังเจอวิกฤติศรัทธา ไม่น่าจะมีใครเชื่อถือ ค่าบาทน่าจะไหลลงไปแถวๆ 100บาทต่อเหรียญ ดังนั้นก็เลยเหลือทางเลือกเดียว คือต้องทำทุกวิถีทางที่จะอ้อนวอนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนให้ได้ (อ้อนวอนนะครับ ไม่ใช่อนุญาติ) และทุนจะสัญชาติใดไม่เห็นสำคัญ ขอให้ลงทุนในไทย จ้างงานไทย สร้างGDPไทย แก้ปัญหาในเมืองไทย พัฒนาเทคโนโลยี่ไทย ก็เป็นแต่ประโยชน์เท่านั้น ผู้ที่เสียหายก็มีแต่เจ้าของกิจการไทยที่ทำเจ๊ง เลยต้องสูญเสีย กับพวกห่วยที่ไม่ต้องการแข่งกับคนเก่ง ถ้าใครยังไม่get กรุณากลับไปอ่านเรื่องWimbledonที่postเมื่อวันจันทร์นะครับ
- สิ่งที่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด คือการยึดทรัพย์สินหรือกิจการมาเป็นของรัฐ แล้วรัฐเข้าดำเนินการเสียเอง ซึ่งผมขอประกาศความเชื่อมั่นเป็นครั้งที่100 ว่า "ถ้าให้รัฐทำ ก็มีแต่ ห่วย กับ หาย"