Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ถนนเศรษฐกิจ
•
ติดตาม
7 ก.ค. 2021 เวลา 07:39 • ความคิดเห็น
ทฤษฎีสมคบคิด บิล เกตส์ วันที่ประชากรล้นโลก
ทฤษฎีสมคบคิดจะฟันธงว่าบิล เกตส์ต้องการฆ่าล้างคนจำนวนมาก เนื่องจากเคยพูดว่าไม่อยากให้ประชากรโลกเพิ่มเร็วเพราะทำให้คนยากจน ควรแก้ปัญหานี้ กลุ่มคนที่คิดเช่นนี้มักเป็นพวกที่เชื่ออยู่แล้วว่าเกตส์กับพวกกำลังควบคุมจำนวนประชากรโลกด้วยหลายวิธี ใช้มูลนิธิของตนเป็นเครื่องมือ บางคนถึงกับเชื่อว่าต้องการลดหรือกำจัดบางเผ่าพันธุ์ เช่น พวกผิวสี (ผิวดำ) ในขณะที่เกตส์ยืนยันว่ามูลนิธิของตนทำงานสนับสนุนการคุมกำเนิด ยึดหลักการว่ามีลูกมากจะยากจน ถ่วงรั้งการพัฒนา
เขาออกมาเตือนชาวโลกว่าเราต่างตั้งอยู่ในความประมาทมากเนื่องจากเราไม่พร้อมรับมือกับเชื้อโรคร้ายใหม่ๆ ซึ่งจะอุบัติขึ้นเมื่อไรก็ได้ ในการให้สัมภาษณ์หลังการบรรยายในการประชุมใหญ่เกี่ยวกับมาลาเรียที่นครลอนดอนเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2561 บิล เกตส์ เตือนว่าอีกไม่นาน โรคร้ายจะระบาดอย่างแพร่หลายไม่ต่างกับเหตุการณ์ระหว่างปี 2461-2463 ครั้งนี้มันจะทำให้ชาวโลกตายราว 30 ล้านคนภายใน 6 เดือน
บิล เกตส์ อ้างถึงเหตุการณ์ใหญ่เมื่อศตวรรษที่ผ่านมาซึ่งชาวโลกเรียกกันว่า “ไข้หวัดใหญ่สเปน” เพราะสเปนไม่ปกปิดความจริงของโรคระบาดครั้งนั้น ต่างกับมหาอำนาจที่สู้รบกันในสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งอำพรางความจริง เนื่องจากการเก็บข้อมูลในยุคนั้นไม่กว้างขวางและละเอียดดังในสมัยนี้ จึงยืนยันไม่ได้อย่างแน่นอนว่าไข้หวัดใหญ่ซึ่งระบาดไปทั่วโลกครั้งนั้นทำให้คนตายไปเท่าไร ตัวเลขที่ยอมรับกันโดยทั่วไปคือ 50-100 ล้านคน หรือราว 3-5% ของจำนวนประชากรโลก
บิล เกตส์มองว่าแม้เราจะก้าวหน้าเพียงไรในด้านแพทย์ แต่เราไม่สามารถคาดได้ว่าเชื้อโรคร้ายใหม่จะอุบัติขึ้นเมื่อไร สภาพไร้พรมแดนของโลกปัจจุบันและการขาดการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าอย่างเพียงพอจะเอื้อให้เชื้อโรคใหม่ระบาดไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและคร่าชีวิตคนได้จำนวนมากก่อนที่ชาวโลกจะไหวตัว เขาเน้นว่าเขามองโลกในแง่ดีที่คิดว่าโรคระบาดใหม่อาจทำให้ชาวโลกตาย 30 ล้านคนใน 6 เดือน แต่เขาไม่ได้บอกว่าถ้ามองในแง่ร้าย ผลจะออกมาอย่างไร หากลองคิดง่าย ๆ ตามอัตราการตาย 3-5% ของปราชากรโลกในการระบาดของไข้หวัดสเปน ผลจะออกมาว่าในยุคนี้ชาวโลกอาจตายถึง 200-350 ล้านคน จำนวนนี้ยากที่จะจินตนาการ ฉะนั้น จะฟังเพียงการมองได้แง่ดีของบิล เกตส์ ก็ได้ แต่ควรคิดต่อไปว่าควรจะทำอะไรกันบ้าง
ในวันที่ 17 กพ 61
เฟซบุ๊ก Bill Gates ของ นายบิลล์ เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ และมหาเศรษฐีเจ้าของมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ มูลนิธิเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเรื่อง การช่วยเหลือชีวิตคนเพิ่มขึ้นจะนำไปสู่ปัญหาประชากรล้นเกินหรือไม่? (Does saving more lives lead to Overpopulation?) โดยมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ ซึ่งจัดตั้งโดยบิล เกตส์ และภรรยาของเขา เมลินดา เกตส์ นั้น มีจุดมุ่งหมายหลัก คือ การปรับปรุงการบริหารสุขภาพและลดความยากจน ทั้งในสหรัฐอเมริกา และทั่วโลก เพื่อขยายโอกาสการศึกษาและการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ
1
คลิปวิดีโอซึ่งระบุว่าเป็นจดหมายประจำปี 2561 ความยาว 2.05 นาที เกตส์ออกมาตอบคำถามซึ่งมีผู้สอบถามเข้ามาเกี่ยวกับปัญหาประชากรล้นโลก
“มีข้อสงสัยมานานว่า หากประชากรในโลกสุขภาพแข็งแรงดี จะทำให้จำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้นมากจนทำให้การทำให้ทุกคนอิ่มท้อง หรือการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมจะมิอาจเป็นไปได้” ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ กล่าวและว่า จากตารางที่เก็บสถิติย้อนหลังเห็นว่าในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมาถึงปี 2558 (ค.ศ. 2015) ประชากรโลกได้เพิ่มขึ้นมาจากไม่ถึง 1 พันล้านคน กลายเป็น 7,400 ล้านคน ในปี 2558 และเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
“ผมกับเมลินดาสงสัยว่าการให้ยาใหม่ๆ และการช่วยเหลือเด็กเพิ่มขึ้น จะก่อให้เกิดปัญหาล้นโลกหรือไม่ แต่สิ่งที่เราค้นพบ ก็คือ เมื่อสภาวะทางสุขภาพของคนดีขึ้น ครอบครัวนั้นๆ ก็จะเลือกที่จะมีลูกน้อยลง และเรื่องนี้ส่งผลอย่างใหญ่หลวง เพราะเกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก เหมือนๆ กัน คือ จำนวนประชากรลดลง เมื่อสถานการณ์ด้านสาธารณสุขดีขึ้น” เกตส์ ชี้ให้เห็นกราฟที่ระบุว่า ประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นสูงถึงที่ราว 11,200 ล้านคน ในปี 2643 (ค.ศ. 2100) และจะไม่ค่อยเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
เกตส์ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า อัตราการเพิ่มของประชากรโลกพุ่งขึ้นสูงที่สุดในยุค ค.ศ. 1960 ที่ราวร้อยละ 2.1 ต่อปี ก่อนจะลดลงอย่างรวดเร็ว และจะเหลือเพียงไม่ถึงร้อยละ 0.2 ต่อปี ในปี 2643 ซึ่งเขาเห็นว่าการปรับปรุงด้านสาธารณสุขจะทำให้ประชากรไม่ล้นโลก เพราะเมื่อประชากรสุขภาพดี พวกเขาจะเลือกที่จะมีบุตรน้อยลงเอง
บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
The Conspiracy Theories ทฤษฎีสมคบคิด
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย