10 ก.ค. 2021 เวลา 10:08 • ความคิดเห็น
เราเคยเปน มันเกิดจาก เครียดสะสม มานาน ทีละเล็กละน้อย ทางวิทยาศาสตร วิจัยวาา สารserotoninในสมองลดลง เรามีอาการ ทุกข์ อยากได้ อยากมี แต่เราไม่ได้ดั่งใจ บวกกับอาการทร่มันถาโถมเข้ามา ..โชคดี ที่เราเปนโรคซึมเศร้า เราเรยได้ เจอ หนทางดับทุกข ที่มันมากกว่า อาการซึมเศร้าหลายร้อยหลายแสนเท่า ..
อาจจะเปนจากที่เราเคย ได้ทำบุญกับคนไข้มา เราเรยได้รับการช่วยเหลือและกำลังใจจากเพื่อน ..
แรกเรย ไปหาหมอ ๆให้ยา ลด อาการ พร้อมกันเราก้อพยามช่วยตัวเองโดยกานใช้พระธรรมช่วย จากที่เคย
อ้อ ก่อนอื่นเราเล่าอาการเราก่อน ลองดูว่าจะเหมือนเราไม๊
จากคนที่เคยเปนคนร่าเริงหัวเราะ เข้าสังคมแต่งตัว เราก้อเริ่ม เก็บตัว มีทุกข ทุกวันเวลาเช้า ที่ตื่นมาหาสาเหตไม่ได้ ในท้องเสียววาบเหมือนยืนยุ่ปากเหวแล้วจะหล่น ทุกวันตอนเย็น ใกล้ค่ำเราจะมีอาการมาก และมากที่สุดคือวันศุกร เพราะมันคือวันที่เรากับ แฟนเคย เจอกัน แต่ มันไม่สามารถเจอกัน ได้แต่เค้าก้อติดต่อมาด้วยความห่วงใย แต่เรายังไม่ดีขึ้น เคย วันหยุดปีใหม่ long weekend เราไม่ก้าวเท้าออกจากบ้าน เรย5วันเต็ม ๆ ทำอะไรก้อฝืนเพื่อ ทำให้คนรอบข้าง ไม่รุ้สึก ว่าเรา เปลี่ยนไป สงสารลูกกัวลูกห่วง เคยไม่กินไรเรย 24ชม นน.ลด จาก 60 เหลือ 50 ใน 2-3 เดือน ทรมานมาก ช่วงนั้น แต่ไม่เคยคิดฆ่าตัวตายนะ ส่วนนึงในร่างกายก้อ ทุกข ๆไม่หาย อีกส่วนนึงก้อต้องสู้ ...ทรมานมากคะช่วงนั้น
ทีนี้เล่าถึง หนทางที่เรา พยามสู้ เริ่มเรากินยา แก้โรคซึมเศร้า จิตแพทย มาทำ psycho test พบว่า เรา เปน major depressive disorder เรยต้องให้ยา เพราะมันจาช่วยดึง เราขึ้นมาจากหลุม ได้ระดับ นึง มันดีขึ้นจิงๆ พร้อมกันนั้นเราก้อ หาทางอื่นช่วย
ก้อไม่พ้น ศาสนา คือพระธรรม ของ พระพุทธเจ้า ซึ่งสมัยก่อน เรา แค่ฟังผ่านหู เชื่อแต่มันแค่ผ่านๆไป แต่ เพราะ ทุกข คราวนี้เราเริ่ม เดินทางจิงจัง เราฟัง พระที่ว่า ดังๆใรด้านการ ให้ เราดับทุกข.. แบบที่ไม่ใช่ ความเชื่อ ที่ไม่มีเหตผล เช่น รดน้ำมนต เปนต้น เราไม่ ทำ เรา จะฟังธรรมะแท้ จาก พระอาจารย ที่ ปฏิบัติ เริ่ม จาก พอจ.ไพศาล วิสาโล พอจ อำนาจ โอภาโส อ.ประเสริฐ อุทัย เฉลิม เราฟัง พระสูตร เกือบทุก พระสูตร เปิดวนไปวน มาตั้งแต่ตื่นเช้า พักเที่ยง และก่อนนอน เพราะถ้าไม่ฟัง จิต เราจะไปเกาะยุ่กับทุกข ที่เปน อยุ่ เชื่อ หรือ ป่าว ว่า บุญที่เรา ฟัง พระธรรม เราก้อ ค่อยๆดีขึ้น และดียิ่งกว่านั้น ความทุกข นี้แหละทำให้เรา หันมาสนใจพระธรรม ฟัง อย่างมี หลัก และปฏิบัตื ด้วยความเพียร .. ทุกวั้นนี้เราก้อยังฟัง พุทธวจน โดยการถ่ายทอดคำสอน ของพระพุทธเจ้า ไม่แต่งเติมหรือ ตัดทอน พร้อม ทำอานาปาณสติ และ ฝึก สติให้รู้เท่าทัน อารมณ ให้ไวที่สุด ไม่คิดต่อไปกับ ความคิด อดีต ที่เปนทุกข ทุกครั้ง ที่มีอะไรมากระทบ เราจาเริ่ม ทุกข วิตกกังวล แต่ พอมีสติรู้เท่าทัน เราก้อรู้อยุ่กับลมหายใจ ให้นานที่สุด มีบ้างที่มันหลุดไปคิดเรื่องทุกข สติที่ฝึก ก้อดึงกลับมา ที่ลมหายใจ ยื้อกันเบาแบบนี้จากที่เคยหลุดไปคิดเปนวันก้อ เปนครึ่ง วัน ลดลง มาเรื่อย ..ทุกวันนี้ก้อยังฝึก แต่ฝึกด้วย จิตที่เปน อุเบกขา ไม่เอนไปสุข มากไปไม่ทุกข มาก ขอบอก ว่า ยังไม่เก่ง เรย ทำสมาธิด้วย ก้อ ยัง ไม่เก่ง ขนาด นั่งได้ ฌาน 1 เลย แต่ เรารุ้วิธี ดับทุกข แล้วและ มีหนทาง แล้วคือ มรรคมีองค8 ปลายทางเรา คือ นิพพาน หลายคนอาจจะ ว่า เรา หวังสูง แต่ มันขึ้นยุ่กับ รู้จิง รุ้แจ้ง และความเพียร คือมันไม่ยาก และไม่ง่าย จิงๆ แต่พอเรามาศึกษา เรา ว่า เรา มีหวัง แน่นอน โดยเปนหวัง ที่ไม่มี ความโลภ ครอบงำ ไม่รุ้ ถูกใจ เทอ หรือป่าว แต่มันเปนประสบการ ที่ เคยเปนมาจริง และ มีหนทาง ที่เราดีขึ้นจิงๆ ..เราก้อขอเปนกำลังใจให้เทอ พ้นจากโรคนี้พ้นจากทุกข มันมีไรเที่ยง แท้ยั่งยืน มันมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แล้ว แต่ว่า การตั้งอยู่นั้นจานาน แค่ไหน ..จาช้าหรือ เร็ว เชื่อเรา มีพลังใจ ว่า สักวันมันต้องดับไป แน่นอน เหมือนกับ ที่คนชอบพูดว่า แล้วมันก้อจาผ่านไป จิงๆ
เวลา ที่เราหันหลังกลับไปมอง เราอาจจะมองด้วยความ ขบขัน ว่า เราช่างเปนไปได้ เพียงนี้
แต่ สำหรับเรา เราขอบคุณ ความทุกข จากโรคซึมเศร้า มันทำให้เราเข้าใจและมาเตือนว่าอย่า ประมาท กับชีวิต เราหนีไม่พ้น ...ความทุกข สุข แน่นอน มันเปน สัจธรรม ..ว่า ทุกสรรพสิ่ง มัน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อหนีไม่พ้น เราก้อ ต้องยอมรับ มัน และพร้อมรับ เมื่อมันมาถึง .. เราก้อจาทุกข น้อยลงๆ น้อยลง จนมัน หมดไป มันเปน ตถตา ..คือ มันเปนเช่นนั้น เอง ร่ายซะยาว เรย
2
โฆษณา