TIMEOUT
The English Game (2020) - คนแรก ครั้งแรก ครั้งสำคัญ
โดย ธ.เจริญมิตร
*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์
หากติดกระดุมเม็ดแรกพลาด เม็ดอื่นก็พลอยผิดตามไปด้วย ที่วงการฟุตบอลเจริญเติบโต แข็งแรง ผู้ชมติดตามทั่วโลก ก็ด้วยเมื่อตอนแรกเริ่มติดตั้งระบบได้ผู้นำถูกคน ผู้มีน้ำใจนักกีฬาเต็มเปี่ยม หนัง The English Game บอกเอาไว้ว่าคนแรกนั้นเป็นใคร และครั้งแรกนั้นช่างสำคัญเหลือเกิน
ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงเส้นทางกีฬาฟุตบอลอังกฤษในยุคบุกเบิก ซึ่งทีมทั้งหลายยังเป็นเพียงทีมระดับสมัครเล่น สมาคมฟุตบอลก็เพิ่งจัดตั้งได้สิบกว่าปี งานจัดแข่งชิงถ้วยของสมาคมฯ (FA Cup) ปี 1882 มี 16 ทีมร่วมลงชิงชัย 4 ทีมเป็นทีมของชนชั้นสูงฐานะดี อีก 12 เป็นทีมชนชั้นแรงงานจากโรงงาน จากท่าเรือ และจากชุมชนท้องถิ่น
ทีมที่เคยเข้าชิงมากกว่าใครคือ โอลด์ อีโทเนียนส์ ทีมศิษย์เก่าโรงเรียนอีตัน ที่นักเตะในทีมส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารสมาคมฟุตบอล รวมทั้ง อาเธอร์ คินแนร์ด (เอ็ดเวิร์ด โฮลครอฟท์) เหรัญญิกของสมาคมฯ ที่ช่วยพ่อดูแลกิจการธนาคารของครอบครัว เขาเป็นกัปตันดาวซัลโวของทีมมาตลอด
เจมส์ วอลช์ เจ้าของทีมดาร์เวน เอฟซี ทีมโรงงานทอฝ้ายที่มีลุ้นเข้ารอบลึก แอบจ่ายเงินซื้อตัว เฟอร์กัส ซูเทอร์ (เควิน กัธรี) กับ จิมมี เลิฟ (เจมส์ ฮาร์กเนส) คู่หูนักเตะดาวเด่นจากทีมแพทริกในสกอตแลนด์มาร่วมทีมล่วงหน้า สองหนุ่มเก่งกาจพาทีมทะลุเข้าถึงรอบชิงฯได้ นัดแรกผลออกเสมอ 5-5 จนต้องแข่งใหม่ และพ่ายต่อโอลด์อีโทเนียนส์ไปในนัดตัดสิน
ฤดูถัดมาทีมแบล็คเบิร์นซึ่งเป็นทีมของชนชั้นแรงงาน จ่ายเงินให้ซูเทอร์ย้ายไปเล่นให้ ทว่าเลิฟไม่ได้ย้ายตามไปเพราะปักหลักแต่งงานกับสาวเมืองดาร์เวนลงตัวแล้ว ความรู้ไปถึงสมาคมฯ เข้า ทีมจึงถูกตัดสิทธิ์ตามกฎที่ว่าต้องใช้เพียงนักเตะสมัครเล่นเท่านั้น เจ้าของทีมแบล็คเบิร์นขอเข้าเจรจา อ้างว่ากฎเดิมไม่ยุติธรรม
ชนชั้นแรงงานทำงานหนักในโรงงาน ไม่ได้มีเวลาพักผ่อนเต็มที่เหมือนกับชนชั้นสูง และฟุตบอลก็เป็นความสุขเพียงอย่างเดียวของคนงานในวันหยุด หากตัดสิทธิ์นี้ไปก็เหมือนพวกเขาไม่เหลืออะไรเลย แถมวอลช์ยังขู่ว่าหากแบนทีมดาร์เวนกับแบล็คเบิร์นละก็ เป็นไปได้ว่าทีมทั้งหมดจากย่านแลงคาเชียร์จะขอถอนตัวในปีหน้า และจะตั้งสมาคมใหม่จัดแข่งกันเอง
อาเธอร์ คินแนร์ด เป็นหนึ่งเดียวในสมาคมฯ ที่เห็นว่าข้อเสนอนี้ถูกต้อง จึงคิดผ่อนปรน เขาโน้มน้าวอยู่นานจนคณะกรรมการเปลี่ยนแปลงกฎให้แบล็คเบิร์นส์เข้าแข่งรอบชิงฯ ได้ และในเกมนั้น เฟอร์กัส ซูเทอร์ ยิงประตูชัย เอาชนะโอลด์ อีโทเนียนส์ไปในที่สุด นับเป็นแชมป์เอฟเอ คัพครั้งแรกของทีมชนชั้นแรงงาน
ต่อมาในปี 1885 สมาคมฯ อนุญาตให้ทุกทีมใช้นักเตะอาชีพได้ หลังจากนั้นทีมสมัครเล่นไม่เคยครองถ้วยนี้อีกเลย เฟอร์กัส ซูเทอร์ กับ จิมมี เลิฟ จึงได้ชื่อว่าเป็นนักเตะอาชีพ 2 คนแรกของวงการกีฬาฟุตบอลบนโลกนี้
หลังจากนั้น อาเธอร์ คินแนร์ด ขึ้นนั่งตำแหน่งประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษต่อเนื่องถึง 33 ปี จวบจนสิ้นอายุขัยเมื่อปี 1923
โครงเรื่องและตัวละครหลักของหนังชุดเรื่องนี้อ้างอิงจากบุคคลที่มีตัวตนและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง สองนักแสดงหลักหนุ่มหล่อ เควิน กัทธรี รับบท เฟอร์กัส ซูเทอร์ และ เอ็ดเวิร์ด โฮลครอฟท์ ในบท อาเธอร์ คินแนร์ด สร้างสรรค์บุคลิกตัวละครออกมาน่าเชื่อถือ และไปด้วยกันได้ดีในบทของตน ชวนให้ผู้ชมเอาใจช่วยไปได้ตลอดเรื่อง แถมยังดูเท่ขึ้นอีกมากมายเมื่อถึงฉากท้ายสุด
ผู้กำกับเสริมเกร็ดประวัติศาสตร์แวดล้อมอื่นๆ ไว้ในฉากหลัง จึงได้เห็นเศรษฐกิจในท้องถิ่น สภาพบ้านเมือง ความเป็นอยู่ของผู้คนในวันนั้น ผ่านเรื่องวุ่นๆ ภายในโรงงานบ้าง ภายในบ้านบ้าง ตลอดจนศาสตร์ฟุตบอลยุคเริ่มแรกฉบับย่อ พร้อมด้วยตัวละครรองทั้งดีและร้ายอย่างเจ้าของสโมสรที่มีใจรักฟุตบอล เจ้าของโรงงาน หรือคนงานแฟนบอลระดับฮาร์ดคอร์ ที่เสริมแต่งเข้าไปเล็กน้อยเพื่อตอบสนองความบันเทิงและความสมจริง อย่างไรก็ตามใจความสำคัญว่าด้วยฟุตบอลแรกเริ่มในยุคเปลี่ยนผ่าน ไม่ได้ลดความเข้มข้นลงเลย
ตัวหนังส่งสารหลักไว้ว่า วันเวลาที่กีฬาฟุตบอลกำลังก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างเชิงธุรกิจ คนวงในหมายมั่นจะจัดสรรประโยชน์ให้ทั่วถึงและยุติธรรม วิน-วินกันทุกฝ่ายและยั่งยืน แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องผ่านขั้นตอนเจรจาสารพัด ถกเถียงกันให้รอบด้าน และพาโล่งใจที่ได้ อาเธอร์ คินแนร์ด เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ผู้นำชั้นดีเลิศที่เชื่อมต่ออนุรักษ์นิยมกับเสรีนิยมด้วยวิสัยทัศน์ชั้นเยี่ยม
จากเกมกีฬาของชนชั้นสูง มาแพร่หลายในหมู่ชนชั้นแรงงาน หลังเปิดใจกว้างให้ผู้คนทุกระดับมีส่วนร่วมกับเกมฟุตบอล ผู้เข้มแข็งต้องปกป้องผู้อ่อนแอกว่า ไม่เอารัดเอาเปรียบ ความเสมอภาคควบรวมกับน้ำใจนักกีฬาอันสวยงาม รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รากฐานอันมั่นคงจะนำไปสู่ความมั่งคั่ง และกลายเป็นธุรกิจชั้นนำสนับสนุนเศรษฐกิจของชาติต่อไปยาวไกลได้
เมื่อได้ผู้นำดีแล้ว ก็ยังได้ผู้ตามที่ดีแถมมาด้วยอีก ถึงซูเทอร์และเลิฟจะเป็นชนชั้นแรงงาน แต่พวกเขาก็ซื่อสัตย์กับผู้ว่าจ้าง ลงสนามแข่งขันอย่างมืออาชีพ สร้างสรรค์เกมเต็มสามารถ พิสูจน์ตัวเป็นนักกีฬามืออาชีพที่คู่ควรกับค่าตอบแทน รวมไปถึงเจ้าของทีมที่ยังดูแลเลิฟต่อ แม้จะบาดเจ็บสาหัสจนต้องปิดเทอมถาวรไป ทั้งนี้ก็เพราะแต่ละคนยึดถือการอยู่ร่วมกันอย่างมีมนุษยธรรมมากกว่าจะคำนึงถึงเม็ดเงินเพียงอย่างเดียว
บันไดขั้นแรกของวงการฟุตบอลอาชีพของอังกฤษในวันนั้น นับถึงวันนี้ก็ 136 ปีแล้ว จนก่อตั้งเป็นพรีเมียร์ลีก ธุรกิจกีฬาและบันเทิงมูลค่ามหาศาล เป็นลีกอันดับ 1 ของวงการ ออกอากาศแทบทุกสื่อทั่วโลก แฟนบอลติดตามล้นหลาม มือหนึ่งของวงการมาชุมนุมกันด้วยค่าตอบแทนเกินห้ามใจ นอกจากนี้ยังได้ระบบจัดการที่ดี คณะกรรมการอัพเดตกติกาให้เหมาะสมกับยุคสมัย อัพเกรดเทคโนโลยีสนับสนุนด้านต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
ส่วนทัวร์นาเมนต์สุดคลาสสิกอย่าง “เอฟเอ คัพ” ที่ใช้กติกาง่ายๆ คือ จับฉลากเลือกคู่ แข่งขันแบบแพ้คัดออก ใครชนะได้ไปต่อ หากเสมอแข่งใหม่จนกว่าจะรู้ตัวคนเข้ารอบ ไม่มียิงจุดโทษตัดสิน ยกเว้นแค่นัดชิงชนะเลิศเท่านั้น เริ่มการแข่งขันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ ค.ศ. 1872 ถ้วยรางวัลยังคงความขลัง ยืนเด่นเป็นสง่ารอให้ทีมทั้งหลายมาช่วงชิงไปครอง แค่ 1 ปีก็ภูมิใจได้แล้ว นักเตะใหญ่น้อยอยากชูถ้วยนี้ฉลองชัยสักครั้งในชีวิต ซึ่งแต่ละปีมีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมถึง 762 ทีม
ฟุตบอลไม่ใช่แค่เกมกีฬาประเภททีมธรรมดา มันมีเสน่ห์เฉพาะของมันเอง ทีมรองบ่อนมักเป็นขวัญใจผู้ชม โดยเฉพาะพวกที่ถูกข่มเหงจากผู้เหนือกว่า ยิ่งต้องสู้ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งผลักดันให้ผู้ชมฮึกเหิมมากเท่านั้น เมื่อถึงที่สุดพวกเขาผ่านพ้นมันได้ คว้าชัยมาครองแล้ว ผู้ชมก็ยิ่งซาบซึ้ง โห่ร้องยินดีเสมือนประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง
ชนชั้นล่างชนชั้นสูงอาจจะวัดกันที่ฐานะทางการเงิน ทว่าความป่าเถื่อนกับความเป็นสุภาพบุรุษนั้นวัดกันที่น้ำใจนักกีฬา ...ดั่งสุภาพบุรุษนักกีฬาหลายๆ คนในเรื่องได้แสดงตัวอย่างเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว
#PlayNowThailand #khelnow #TheEnglishGame #TIMEOUT #ฟุตบอล
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
