13 ก.ค. 2021 เวลา 12:20 • สุขภาพ
สรุปมาตรการเยียวยาหลังล็อกดาวน์รอบใหม่ ช่วยผู้ประกันตน-ฟรีแลนซ์ 1 เดือน ลดค่าไฟ-ค่าน้ำ 2 เดือน เตรียมหารือลดค่าเทอม
วันนี้ (13 กรกฎาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงรายละเอียดต่อมาตรการการเยียวยาประชาชนว่า เรียนพี่น้องประชาชนทุกท่าน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ต้องมีการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ที่ต้องปิดสถานที่และกิจการต่างๆ เพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อพี่น้องประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมได้รับรู้ปัญหาของพี่น้องกลุ่มต่างๆ และไม่เคยหยุดคิดที่จะหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด โดยมาตรการล็อกดาวน์ในครั้งนี้ ผมได้สั่งการให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจเสนอมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบให้ได้มากที่สุด ซึ่งได้มีการประชุมไปแล้วเมื่อวานนี้ (12 กรกฎาคม) และคณะรัฐมนตรีได้ให้การเห็นชอบมาตรการที่นำเสนอในวันนี้ (13 กรกฎาคม) โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ สำหรับลูกจ้างและกิจการใน 10 จังหวัดสีแดงเข้ม
 
1.1 ขอบเขตของกิจการที่ได้รับการเยียวยา
กลุ่มที่ 1: 9 หมวดกิจการ (เพิ่มเติมจากเดิม 4 หมวด) ประกอบด้วย
1. ก่อสร้าง
2. ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
3. ศิลปะ บันเทิงและนันทนาการ
4. กิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ
5. ขายส่งขายปลีกและซ่อมยานยนต์
6. ขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
7. กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุนกิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และกิจกรรมทางวิชาการ
9. ข้อมูลข่าวสารและสื่อสาร
กลุ่มที่ 2: 5 กิจการของถุงเงิน (เพิ่มเติมจากเฉพาะร้านอาหารและเครื่องดื่ม) ประกอบด้วย
1. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
2. ร้าน OTOP
3. ร้านค้าทั่วไป
4. ร้านค้าบริการ
5. กิจการขนส่งสาธารณะ (ไม่รวมกิจการขนาดใหญ่)
1.2 ระยะเวลาในการให้ความช่วยเหลือ: 1 เดือน (อาจมีการขยายต่อตามสถานการณ์)
1.3 รายละเอียดของการเยียวยา แบ่งตามกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ
1.ลูกจ้าง ม.33 ในกิจการ 9 หมวด รัฐจะจ่ายเงินเยียวยาให้ 50% ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) และจ่ายสมทบให้ลูกจ้างสัญชาติไทยอีก 2,500 บาทต่อคน รวมแล้วได้สูงสุด 10,000 บาท
2.นายจ้าง ม.33 ในกิจการ 9 หมวด รัฐจะจ่ายให้ตามจำนวนลูกจ้าง 3,000 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 200 คน
3.สำหรับผู้ประกันตนตาม ม.39 และ 40 รัฐบาลจะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้ 5,000 บาทต่อคน
4.ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Freelance) ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.40 ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท (ตามข้อ 3)
5.ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างแต่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.33 ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อรับเงินช่วยเหลือตามข้อ 1 และ 2
6.ผู้ประกอบการที่ไม่มีลูกจ้างและไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.40 ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท (ตามข้อ 3)
7.ผู้ประกอบการในระบบ ‘ถุงเงิน’ 5 หมวด ภายใต้โครงการ ‘คนละครึ่ง’ และโครงการ ‘เราชนะ’ ที่ ‘มีลูกจ้าง’ ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.33 ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อรับเงินช่วยเหลือตามข้อ 1 และ 2
8.ผู้ประกอบการในระบบ ‘ถุงเงิน’ 5 หมวด ภายใต้โครงการ ‘คนละครึ่ง’ และโครงการ ‘เราชนะ’ ที่ ‘ไม่มีลูกจ้าง’ ให้ขึ้นทะเบียนตาม ม.40 ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท (ตามข้อ 3)
รวมทั้งสิ้นภายใต้กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท
2.มาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน สำหรับประชาชนทั่วประเทศ
2.1 ค่าไฟฟ้า ให้มีการลดค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เฉพาะอย่าง องค์กรไม่แสวงหากำไร และการสูบน้ำเพื่อการเกษตร (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) เป็นเวลา 2 เดือน คือกรกฎาคมและสิงหาคม 2564
– สำหรับบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก
– สำหรับบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้คิดดังนี้
1. หากใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับค่าไฟเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ให้คิดค่าไฟฟ้าตามหน่วยการใช้จริง
2. หากใช้ไฟฟ้ามากกว่าค่าไฟเดือนกุมภาพันธ์ 2564 หากไม่เกิน 500 หน่วย ให้คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยของเดือนกุมภาพันธ์ 2564
3. หากใช้ 501-1,000 หน่วย ให้คิดค่าไฟเท่ากับหน่วยของเดือนกุมภาพันธ์ 2564 บวกด้วยหน่วยที่มากกว่าหน่วยของเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ในอัตราร้อยละ 50
4. หากใช้มากกว่า 1,000 หน่วย ให้คิดค่าไฟเท่ากับหน่วยของเดือนกุมภาพันธ์ 2564 บวกด้วยหน่วยที่มากกว่าหน่วยของเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ในอัตราร้อยละ 70 ทั้งนี้ให้เป็นส่วนลดก่อนการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม
– สำหรับกิจการขนาดเล็ก ให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 100 หน่วยแรก
– สำหรับกิจการขนาดกลาง ขนาดใหญ่ เฉพาะอย่าง องค์กรไม่แสวงหากำไร และการสูบน้ำเพื่อการเกษตร ให้ยกเว้นการเรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด (Minimum Charge) ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2564
2.2 ค่าน้ำประปา ลดร้อยละ 10 สำหรับบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก ระยะเวลา 2 เดือน (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) เป็นเวลา 2 เดือน คือกรกฎาคมและสิงหาคม 2564
โดยรวมทั้งสิ้นภายใต้กรอบวงเงิน 12,000 ล้านบาท
3.มาตรการความช่วยเหลือบรรเทาค่าใช้จ่ายของประชาชนด้านอื่นๆ
3.1 มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษา
ครม. เห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หารือกับสถานศึกษาในสังกัดเพื่อกำหนดแนวทางลดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมต่างๆ ในภาคเรียนที่ 1/2564 และให้จัดทำโครงการที่รัฐร่วมสมทบส่วนลดบางส่วนให้แก่สถานศึกษา ให้เสนอ ครม. ภายใน 1 สัปดาห์ รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือปัญหาทางการเงินแก่สถานศึกษาเอกชนด้วย
3.2 มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้
ครม. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย หารือกับธนาคารพาณิชย์ ดำเนินมาตรการผ่อนปรนการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย หรือเลื่อนงวดการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ให้แก่ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการอย่างจริงจัง และกำหนดมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนสำหรับผู้ให้บริการนอกระบบการกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย และกำหนดมาตรการจริงจังสำหรับผู้ทวงถามหนี้ที่ดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรมกับประชาชนด้วย และให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด
1
การเยียวยาในครั้งนี้ แม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณพอสมควร แต่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและมีความจำเป็น เพื่อช่วยให้พี่น้องประชาชนได้ผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ ผมขอให้พวกเราทุกคนไม่ยอมแพ้ต่อช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมและรัฐบาลจะหาทางช่วยทุกท่านให้ได้มากที่สุด และจะไม่มีวันยอมแพ้ต่อสงครามครั้งนี้ ไม่ลดละเลิกล้มความพยายาม ไม่ว่าจะมีอุปสรรคหรือปัญหาใดๆ และจะสู้จนกว่าเราจะเอาชนะได้
เรื่อง: THE STANDARD TEAM
โฆษณา