14 ก.ค. 2021 เวลา 04:30 • อาหาร
อะโวคาโด คืออะไร?
อะโวคาโด (Avocado) หรือ เรียกอีกชื่อว่า ลูกเนย เป็นต้นไม้พื้นเมืองของเม็กซิโกในรัฐปวยบลา ในประเทศไทยมีการนำมาปลูกครั้งแรกที่จังหวัดน่าน ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่วประเทศ เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากในสายสุขภาพ เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย แถมยัง ช่วยลดน้ำหนักได้ดีอีกด้วย
ลักษณะของอะโวคาโด
2
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีรูปร่างคล้ายสาลี่ หรือรูปไข่จนถึงรูปกลม มีผิวที่มีลักษณะขรุขระ เปลือกหนา มีสีเขียวเข้ม เมื่อสุกจัดจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงหรือดำ เนื้ออะโวคาโดจะมีลักษณะเป็นครีม อ่อนนุ่ม มีรสชาติคล้ายเนย ไม่มีรสหวาน และมีไขมันสูงทำให้บางคนไม่ชอบรับประทานอะโวคาโด และถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย
เก็บอะโวคาโดอย่างไร ไม่ให้ดำ!
อะโวคาโดก็เหมือนผลไม้หลาย ๆ ชนิด ที่ถึงแม้จะเก็บไว้ในตู้เย็น ก็อาจทำให้สีของเนื้อเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาล อย่างแรกเลยคือ บีบมะนาวลงไปบนเนื้ออะโวคาโดให้ทั่ว แล้วนำใส่กล่องหรือ ถุงเก็บสุญญากาศ แล้วนำไปแช่ตู้เย็น
ประโยชน์ของอะโวคาโด
1. ช่วยลดน้ำหนัก
เนื่องจากอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง แต่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลในปริมาณต่ำ รวมทั้งกรดโอเลอิกที่ช่วยกระตุ้นสมองให้อิ่มเร็ว ไม่หิวบ่อย อีกทั้งยังช่วยลดไขมันไม่ดีในเลือดให้ลดลง จึงส่งผลให้น้ำหนักลงได้
2. โปรตีนสูง
โปรตีนในอะโวคาโดนั้นเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ช่วยให้ขับถ่ายได้ดีจึงไม่ทำให้ท้องผูกจึงเกี่ยวโยงกับการช่วยลดน้ำหนัก
3. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
การรับประทานอะโวคาโดอย่างเป็นประจำก็จะช่วยลดไขมันที่ไม่ดี และคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งช่วยให้ไม่เกิดไขมันสะสมในเส้นเลือด สาเหตุที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ และหัวใจตีบ ทำให้เกิดการกระตุ้นให้หัวใจให้สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ลดน้ำตาล
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ จึงถูกนำไปใช้ในทางการแพทย์กับผู้ป่วยเบาหวานด้วยการรับประทานเพื่อช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือด
5. ป้องกันโรคปากนกกระจอกและลดอาการเหน็บชา
ในอะโวคาโดนั้นมีวิตามินบี ที่ช่วยลดการอักเสบให้กับร่างกายทั้งภายนอกและภายใน การทานอะโวคาโดเป็นประจำจึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคปากนกกระจอกหรือมีอาการเหน็บชาได้
6. บำรุงสายตา
ในอะโวคาโดจะมีวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา และมีสารที่เรียกว่าลูทีน และซีแซนทีน ที่มีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม
7. ต้านสารอนุมูลอิสระ
เป็นตัวช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากมลพิษรอบตัวจากภายในและภายนอก จึงทำให้ช่วยลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง สุขภาพร่างกายแข็งแรง
8. ป้องกันหวัด
อะโวคาโดมีวิตามินซี ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายไม่เจ็บป่วยเป็นหวัดได้ง่าย และยังช่วยลดอาการเลือดออกตามไรฟันด้วยเช่นกัน
9. คงความเยาว์วัย
ปัจจุบันอะโวคาโดถูกนำมาพัฒนาเป็นหนึ่งในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณมากมาย ส่วนหนึ่งนั้นคือเรื่องของการลดริ้วรอยแห่งวัย เนื่องจากอะโวคาโดนั้นเป็นผลไม้ที่ช่วยลดเรือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามกาลเวลาได้ดี จึงช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์ลงได้
10. บำรุงผิวและเส้นผม
อะโวคาโดมีไขมันดีที่สามารถสกัดออกมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและผิวพรรณได้ โดยมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมและผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#สาระจี๊ดจี๊ด
เราไม่ควรกินอะโวคาโดเกินครั้งละ 1 ผล เพราะอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง โดยทั่วไปแล้วอะโวคาโดครึ่งผลให้พลังงานมากถึง 160 แคลอรี ดังนั้น 1 ผล จะให้พลังงานเป็น 320 แคลอรี ซึ่งถือว่าเยอะเกินไปต่อการกิน 1 ครั้ง เพราะถ้าร่างกายเผาผลาญพลังงานส่วนนี้ไม่หมด จะถูกนำไปสะสมไว้ในรูปไขมัน ซึ่งอาจทำให้คุณเกิดอาการปวดศีรษะได้
1
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง
โฆษณา