15 ก.ค. 2021 เวลา 02:47 • ถ่ายภาพ
โลกของโรงละคร(หุ่นกระบอก) ณ พม่ารามัญ
ความศรัทธา เหนือกาลเวลา
เมืองแห่งประวัติศาสตร์ เมืองแห่งพุทธศาสนา เมืองแห่งกาลเวลา ประเทศนี้คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า หรือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประเทศเพื่อนบ้านของคุณๆที่เราเรียกว่า "พม่า" นั่นเองครับ
เมื่อก่อนโควิดจะระบาด ก่อนที่ประเทศนี้จะเกิดรัฐประหารไม่นาน ผมได้ไปเยือนประเทศนี้มาครับ แม้นจะเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ผมก็ไม่เคยได้ไปเยือนสักที จวบจนอายุเข้าไป 50 ปีกว่าๆจึงได้มีโอกาสไปเยือน บอกตามตรงว่าประเทศนี้มีความน่าสนใจกว่าในความคิดของผมเสียอีก
แสงยามเย็นทอดข้ามสะพานแห่งกาลเวลา
เพื่อนของผมทำงานที่นี่ครับ เขามีเวลาเลยชักชวนผมไปเที่ยวที่ประเทศนี้ และกำชับว่าให้เอากล้องมาเก็บภาพสวยๆไปด้วย เพื่อนผมเขาพาไปหลายสถานที่ครับ แต่ในครั้งนี้ผมอยากจะเสนอบางสิ่งให้ท่านผู้อ่านได้มีความอัศจรรย์ กับศิลปะของประเทศเพื่อนบ้านของเรา
หุ่นกระบอกพม่ารามัญ
โรงละครหุ่นกระบอก "พม่ารามัญ" ที่ประเทศนี้เขาได้สร้างงานศิลปกรรมอย่างหุ่นกระบอกไว้ได้อย่างงดงาม และดูเหมือนมีชีวิตและคงความเป็นพม่าไว้ได้อย่างสมบูรณ์
ความงดงาม
ผมได้ไปโรงละครที่พวกเราต้องจองเวลาและรายการไว้ล่วงหน้าครับ เพื่อนผมเขาบอกว่าโรงละครนี้เป็นที่นิยม และมีผู้คนสนใจ มีความนิยมทั้งชาวพม่าเองและชาวต่างชาติ หุ่นกระบอกนี้เป็นหุ่นชักมือครับ คือชักด้วยเชือกที่ผูกไว้หลายจุดของหุ่น เช่น มือ ขา ศรีษะ และลำตัว เวลาผู้ชักหุ่น (ซึ่งต้องมีความชำนาญมาก) ต้องใช้สมาธิมากเนื่องจากอากมีการพันกันของเส้นเชือกได้ง่ายมาก
บรรยากาศในโรงละครหุ่นกระบอก
ผู้คนมากมาย ทั้งชาวต่างชาติ(อย่างผม) และชาวพม่าเองต่างรอคอย เสียงปรบมือคละเคล้าเสียงดนตรีพื้นเมืองพม่าปนเปกัน จนมีหุ่นกระบอกตัวหนึ่ง (คล้ายๆเจ้าเงาะป่าบ้านเรา)ออกมาร่ายรำและรำพึงคำพูดเป็นภาษาพม่า ซึ่งผมก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่เพื่อนผมบอกว่าเป็นการเล่าเรื่อง คือเรื่องราววันนี้จะเป็นละครใน วรรณกรรมอมตะเรื่อง "รามเกียรติ์" ซึ่งจะเป็นตอนไหนขอโทษทีผมก็จำไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าเพราะผมตื่นตาและตื่นเต้นเมื่อผู้กำกับเวทีให้ผมไปถ่ายภาพด้านหน้าเวทีได้
การร่ายรำของหุ่นกระบอก
ถ้าถามผมว่าการแสดงประเภทนี้ เปรียบเทียบกับบ้านเราความงดงามนั้นใครสวยกว่ากัน โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่า ความงดงามนั้นคงไม่ได้แตกต่างกันเลย แต่ในมิติของศิลปะแล้วมีความโดดเด่นกันไปคนและแบบ ตามภูมิภาคครับ และของพม่านี้ออกจะงดงามและแข็งกร้าว กระโดดโลดเต้นเหมือนมีชีวิต แต่ของบ้านเราจะออกอ่อนช้อย แต่สดชื่น
ลีลาผมชักหุ่นกระบอก
โชคดีที่ผมเอาเลนส์ซูมพกติดตัวไปด้วย จึงมีโอกาศได้เก็บภาพผู้ชักหุ่นได้อย่างใกล้ชิด ผมสังเกตุได้ว่าผู้ชักหุ่นแต่ละคนนั้น เหมือนกับถ่ายทอดวิญญาณลงไปในหุ่น ซึ่งก่อนนหน้านี้ก็เหมือนหุ่นทั่วไป ไร้ซึ่งพลัง แต่เมื่อได้ผู้ชักหุ่นผู้มีความรู้ด้านการชักหุ่นแล้ว หุ่นตัวนั้นก็มีชีวิต ใช่ครับมันเหมือนมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
ผู้ให้ชีวิตแก่หุ่นกระบอก
เพื่อนผมเล่าว่า ศิลปะการแสดงชักหุ่นนี้มีมานานหลายร้อยปี มีการสือบทอดรุ่นสู่รุ่น และเกือบจะสูญหายไปเพราะไม่มีใครสืบทอดต่อ เนื่องจากประเทศพม่านี้ปิดประเทศมานาน การแสดงประเภทนี้จึงไม่ค่อยจะมีความนิยมเท่าใด(เพราะหารายได้ๆน้อยครับ) หุ่นกระบอกที่ทำขึ้นจึงเป็นแค่ของฝากของที่ระลึกเท่านั้น ต่อมาประเทศนี้ได้เปิดประเทศอีกครั้ง การแสดงนี้จึงกลับมาและได้ความนิยมชมชอบไปในวงกว้าง
หุ่นน้อยที่รอคอย
และไม่นานมานี่ประเทศนี้ก็เกิดรัฐประหาร มีความวุ่นวายอีกครั้ง จนเพื่อนผมต้องกลับมาประเทศไทย และได้เล่าว่าผู้คนต่างหวาดกลัว และชาวต่างชาติไม่มีใครกล้าที่จะไปเที่ยว การท่องเที่ยงซบเซา โรงละครที่ผมเคยได้ไปชมที่มีผู้คนมากมายรอคอย ก็ต้องปิดตัวลง ผมคงได้แต่คิดว่า "เจ้าหุ่นน้อยที่น่าสงสาร แล้ววันหนึ่งคงจะมีผู้ที่มีวิชาความรู้มาปลุกชีวิตเจ้าให้มีสีสรรค์ขึ้นอีกครั้ง เมื่อยามบ้านเมืองเจ้าสงบสุข แล้วเราคงจะได้พบกันอีกครั้ง"
โฆษณา