15 ก.ค. 2021 เวลา 14:28 • นิยาย เรื่องสั้น
นิวยอร์ก ห อกหัก
03 เมมเบอร์
“เฮ้ย พี่อย่าบอกนะว่า” ดุ่ยทำสีหน้าไม่เชื่อ
“ใช่ วิวนั่นแหละ คนที่พี่จะไปหาที่นิวยอร์ก”
จากภาพที่ปรากฏบนจอ ตำแหน่งของเราตอนนี้อยู่แถวๆ มหาสมุทรอินเดีย อีกไม่นานเครื่องจะแวะจอดที่สนามบินนานาชาติคูเวต และเป้าหมายต่อไปก็คือนิวยอร์ก ดุ่ยกับผมยังคงสนทนากันอยู่ ดูท่าทางมันจะสนใจเรื่องของผมมาก
“โอ้โห เรื่องพี่แม่งเจ๋งโคตรอ่ะ นี่มัน บุพเพชัดๆ แล้วหลังจากนั้นยังไงต่อ”
“นี่กะจะไม่นอนเลยใช่มั้ย”
“นอนทำไมพี่ เวลานอนเรามีอีกเยอะ พี่กับผมมีเวลาอยู่ด้วยกันแค่ยี่สิบกว่าชั่วโมงเองนะ”
“แค่เหรอ...พี่ว่าตั้งยี่สิบกว่าชั่วโมงมากกว่า ทำไมมันไกลจังวะนิวยอร์กเนี่ย”
“เอาน่าพี่ พี่ก็เล่ามาเถอะน่า อีกตั้งนาน ผมไม่รู้จะทำอะไร”
จริงๆ แล้วการที่จะให้ผมเล่าเรื่องระว่างผมกับวิว มันไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรเลย ตรงกันข้ามผมกับชอบด้วยซ้ำ เพราะไม่ว่าจะกี่ครั้งที่นึกย้อนกลับไป ผมรู้สึกมีความสุข และเผลออมยิ้มอยู่ทุกครั้ง
“เออๆ ก็ได้ เพื่อเอ็งเลยนะเนี่ย”
ดุ่ยยิ้ม แล้วตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ
...
ความทรงจำในคืนก่อนหน้านั้นของผมค่อยๆ ทยอยกลับมา
ผมเริ่มจำได้ว่าคืนนั้นพี่แอนยืมโทรศัพท์ของผมไป แล้วเขาบอกผมว่าอาจจะมีใครโทรกลับมา ซึ่งคนคนนั้นก็คือ “วิว”
 
พี่แอนมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า ตอนนั้นแกเห็นว่าผมกำลังเศร้า ประกอบกับว่าวิวก็ไม่มีใคร พี่แอนเลยสวมบทแม่สื่อ ชักพาให้ผมกับวิวได้รู้จักกัน เรื่องราวต่อจากนั้น ก็ดำเนินไปตามที่มันควรจะเป็น ในที่สุดผมกับวิวก็ได้เจอกัน
“อาร์ม นี่วิว เป็นน้องสาวของเพื่อนพี่...วิว นี่อาร์ม” พี่แอนแนะนำให้เรารู้จักกันอย่างเป็นทางการ
การพบกันครั้งนั้น ผมได้ข้อสรุปของความรู้สึกที่มีต่อวิวออกมา 3 ข้อ
1. วิว เป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาน่ารัก แต่แต่งหน้าจัดไปนิด ตัวเล็กไปหน่อย ซึ่งบอกเลยว่าไม่ตรงสเปคของผมซักเท่าไหร่ ผมชอบแบบหุ่นนางแบบมากกว่า
2. อีกอย่างตอนนั้นในใจของผมก็ยังมีแก้วอยู่ เลยไม่ได้คิดจะสานสัมพันธ์กับใครทั้งสิ้น
3. ที่สำคัญผมว่าวิวเค้าดูนิ่งๆ เหมือนไม่ค่อยสนใจผม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เธอจะคิดยังไงกับผม หากจะทุ่มสุดใจแล้วเกิดเธอไม่ชอบผม สุดท้ายเกรงว่าจะต้องเจ็บซ้ำอีก
และหลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกันแล้ว พี่แอนก็เสนอให้ผมกับวิวแลกเบอร์กันเผื่อว่ามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้
“ไม่เป็นไร วิวมีเบอร์อาร์มแล้ว” วิวหันมาบอกผม “ใช่เบอร์ที่เราโทรหาวันนั้นใช่มั้ย”
“ใช่ เบอร์นั้นแหละ เราก็มีเบอร์เธอแล้ว” วิวยิ้มตอบ
ผมเปิดค้นเบอร์โทรศัพท์ ย้อนกลับไปเมื่อเช้าวันนั้น เบอร์ที่ไม่คุ้นตานั้นยังอยู่ แล้วผมก็บันทึกเบอร์นั้นไว้ในชื่อ “วิว”
หลังจากที่พบกันครั้งนั้นไม่นาน เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ที่หน้าจอปรากฏชื่อของวิว ผมกดรับสาย
“สวัสดีครับวิว” ผมเอ่ยทักทาย
“ฮัลโหล โทรมาทำไม” เป็นเสียงของวิวที่ดังเข้ามา
“อ้าว เดี๋ยวนะ เธอโทรมาไม่ใช่เหรอ” ผมตอบกลับไป
“ก็เมื่อกี้เธอโทรหาเรา” วิวปฏิเสธ
“เราโทรหาเธอที่ไหน...เปล่าซักหน่อย” ผมยังยืนยัน
“อีกแล้วนะ อย่ามากวนนะ โทรมามีอะไร รีบๆ พูดเลยเสียเวลา” และเธอก็ยังยืนยันว่าผมเธอไป
“เฮ้ย เราไม่ได้โทรจริงๆ” ผมยังคงปฏิเสธ
“เฮ้อ น่ารำคาญจริงๆ...แล้วนี่ทำอะไรอยู่เหรอ” วิวถามผมกลับ
“ก็ไม่ได้ทำอะไร”
“ขี้เกียจจริงๆ เลยนะ”
“ก็วันนี้มันวันหยุดนะ แล้วเธอละทำอะไรอยู่”
“นั่งดูทีวีอยู่”
“เหรอ งั้นเราไม่กวนแล้วละกัน แค่นี้นะ” ถึงตอนนี้ผมเริ่มสับสน ตกลง เธอเป็นคนโทรหาผมไม่ใช่เหรอ
“ไม่เป็นไรคุยได้”
“เอ่อ...” นี่หมายความว่าผมต้องคุยต่อใช่มั้ยเนี่ย “อืม แล้วนี่ดูรายการอะไรอยู่” ผมถาม
“ไม่ได้ดูรายการอะไร ดูทีวีเฉยๆ ไม่ได้เปิดเครื่อง”
ผมเผลอหัวเราะออกมา
“ทำไม ก็ทีวีเราสวยดี ชอบดู มีอะไรรึเปล่า” วิวขึ้นเสียงสูง
“เปล่า ไม่มีอะไรครับ คือ ดูทีวีที่ไม่เปิดเครื่อง เราก็ชอบดู สนุกดี ยิ่งไม่เสียบปลั๊ก ยิ่งสนุก”
เสียงหัวเราะของวิวดังสวนมา แล้วเธอก็เล่าให้ฟังว่าเธอเพิ่งซื้อทีวีเครื่องใหม่เอามาไว้ในห้องนอน เพราะขี้เกียจคอยแย่งดูกับน้องชาย ตอนนี้ที่ห้างเขาจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษสุดๆ คนที่ห้างเยอะมาก เธอไปกินอาหารญี่ปุ่นมา รอคิวนานมากกว่าจะได้กิน เธอว่าวันนี้ปลาที่ร้านไม่ค่อยสด ออกมาจากร้านตอนแรกว่าจะไปดูหนังต่อ แต่คนต่อแถวยาวมากเลยขี้เกียจ ก็เลย...บลา... บลา... บลา...
สารพัดเรื่องราวที่เธอเล่าให้ฟัง แล้วการสนทนาของผมกับวิวในวันนั้นก็ลากยาวไปเกือบชั่วโมง
“แค่นี้ล่ะนะ” วิวพูด... “แล้วทีหลังโทรมาหาได้ แต่อย่ามายิงแล้วให้โทรกลับนะ มันเปลืองค่าโทรศัพท์ เข้าใจรึเปล่า”
วิวกดวางสายไป ส่วนผมยังงงอยู่ สรุปนี่ผมโทรไปหาเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมลองกดเข้าโทรศัพท์ไปดูสายที่ผมโทรออก ก็ไม่มีการโทรออกไปหาวิวเลยซักครั้ง สรุปแล้ว ผมโทรไปหาเธอเมื่อไหร่กันนะ
...
วันต่อมา และวันต่อๆ มา ผมกับวิวก็ได้มีการโทรหากันบ้าง ส่งข้อความหากันบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยจนเป็นกิจวัตร ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างนั้นไปทำไม ทั้งๆ ที่ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธอมากมาย หรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมเหงาก็ไม่รู้ การพูดคุยก็เป็นไปแบบฉันท์มิตร ธรรมดาทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษ
แต่ที่ผมสัมผัสได้ในเวลาคุยกับวิว นั่นคือความสบายใจ ซึ่งผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าผมหัวเราะบ่อยๆ เวลาที่คุยกับวิว การพูดคุยของเราดำเนินไปอย่างนั้น จนกระทั่งผ่านมาเกือบเดือน ใกล้จะถึงวันลอยกระทง จู่ๆ วิวก็ถามผมว่า
“เคยไปงานลอยกระทงที่ภูเขาทองรึเปล่า”
งานลอยกระทงภูเขาทองเหรอ ทำไมผมจะไม่เคยไป ผมต้องเคยไปสิ หลายครั้งด้วย แต่ว่าครั้งสุดท้ายที่ไปมันก็หลายปีแล้ว นั่นเป็นวันลอยกระทงครั้งสุดท้ายของผมกับแก้ว...
“ไม่...ไม่เคย”
ผมไม่ได้บอกความจริงกับวิว อาจจะเพราะหลังจากที่แก้วทิ้งผมไป ผมก็ไม่ได้งานลอยกระทงที่ภูเขาทองอีกเลย ใครหลายคนก็คงเคยรู้สึกเหมือนผม
ที่บางที่ ที่เราเคยมีอดีตอันหวานชื่น พอถึงเวลาที่ทุกอย่างมันจบลง ความหวานที่เคยมีก็จะเปลี่ยนกลายเป็นความขมขื่นที่โหดร้าย และงานลอยกระทงภูเขาทองก็ไม่ใช่สถานที่ที่ผมอยากไปอีกเลย
“เหรอ เราอยากไป ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยสิ”
“ได้ ไปสิ” ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมตอบเธอไปอย่างนั้น
...
(โปรดติดตามตอนต่อไป)​

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา