15 ก.ค. 2021 เวลา 15:49 • คริปโทเคอร์เรนซี
Ep.1 : Defi ความโกลาหลที่งดงาม
เนื่องจากที่ผมได้บอกให้ทุกท่านทราบแล้วในถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำเพจนี้ของตัวผม ว่าจะมีเรื่องสุขภาพ หนัง และ Defi
- อนึ่งเรื่อง Defi ผมเคยคุยกับคนรอบตัวแล้ว
ไม่ค่อยมีคนเข้าใจผมเสียเท่าไหร่
- ดังนั้นเสียใจด้วยครับ ท่านคงได้อ่านเรื่องดังกล่าวควบคู่กับเรื่องอื่นๆ ที่ผมเพิ่มเติมลงในเพจด้วย
- คุณพลาดแล้ว ที่ติดตามผม ฮ่าๆๆๆๆ
สีหน้าผมตอนนี้
Defi คืออะไร มันเป็นศัพท์แสลงที่เค้าเรียกย่อๆ ในวงการ ซึ่งมันย่อมาจาก Decentralized Finance หรือก็คือ "การเงินแบบไร้ตัวกลาง"
- เข้าใจระบบการเงินแบบปกติก่อน ระบบที่เราใช้เงินในรูปแบบปกติ เช่น ดอลลาร์ บาท (หรือที่เราเรียกว่าเงิน Fiat) ซึ่งการที่มันมีค่าขึ้นมาได้ เพราะมีการนำ "ทองคำ" ไปค้ำ ซึ่งมันทำให้ค่าเงินมีค่า และมีอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามกลไกของ Demand และ Supply ส่วนหนึ่ง โดยที่มีรัฐบาลเป็นคนควบคุมกลไกของเศรษฐกิจ ให้ยึดโยงกับค่าเงินในเวลานั้นๆ แบบนี้เค้าเรียกว่า Centralized Finance
 
- Centralized Finance หาเงินยังไง? ก็คือรูปแบบธนาคารปกตินั่นแหล่ะครับ ค่าธรรมเนียม ปล่อยกู้ สินเชื่อ ปล่อยกู้เล่นมาจิ้น ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดมันคือรายได้ของระบบแบบเก่า ถูกไหม?
- แล้วทำไมต้องมี Defi ล่ะ? ถ้าคุณติดตามข่าวการเงิน คุณจะเห็นว่าปัจจุบันสหรัฐอเมริกา พิมพ์ดอลลาร์ออกมาแจกแบบเสี่ยคาเฟ่ โดยที่ไม่ได้ใช้ทองคำมาค้ำค่าเงินแบบเมื่อก่อน โดยให้เหตุผลว่าดอลล่า Usd มีค่าด้วย "ความน่าเชื่อถือ" ในขณะที่รัฐบาลอื่นๆ ยังต้องใช้ "ทองคำ" ในการค้ำประกัน
- มันค่อนข้างไม่ "แฟร์เพล" เอาซะเลย ในเมื่อประเทศอื่นอาจจะจบปัญหาด้วยการอยู่ในภาวะ "เฟล สเตท" ไปเลยก็ได้ ยิ่งในสภาวะวิกฤตเช่นนี้ ในเมื่อแต่ละประเทศต้องเป็นหนี้หัวโต โดยเฉพาะประเทศสารขัณฑ์ที่ทำมาหากินด้วยการท่องเที่ยวเป็นหลัก ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่จะมีบุคคล อีกกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เชื่อถือในเงิน Fiat ถูกไหม?
- ทั้งนี้ ผมไม่ได้ชอบจีนสักเท่าไหร่ เพราะผมไม่ค่อยชอบคอมมิวนิสต์แบบนี้ จริงๆ ผมว่ามันข้ามคำว่าคอมมิวนิสต์ไปแล้วนะ ผมมองว่ามันคือ "เผด็จการทุนนิยมมากกว่า ในสายตาผม ซึ่งไอ้ตอนนี้เค้าก็พัฒนาระบบสังคมไร้เงินสด หรือไอ้หยวนดิจิตอลที่เค้าออกข่าวกันนั่นแหล่ะ (ซึ่งมีของ Facebook ที่กำลังจะทำคือ Libra ผมขอตามข่าวอีกที แต่เป็นการแข่งขันที่น่าสนใจทางหนึ่ง)
- Centralized Finance ให้ผลประโยชน์เรายังไงล่ะ? มันให้ผลประโยชน์เรา ในรูปของ "ดอกเบี้ย" ไม่ว่าจะเงินฝาก หรือในรูปแบบกรมธรรม หวย การเก็งกำไร หรืออะไรก็แล้วแต่ พวกนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถให้ "เงิน" เราทำงานในระบบ Cefi (ขอเรียกแสลงแบบสั้นๆ นะครับ)
Centralized Finance (Cefi) ในรูปแบบเก่า
- แล้ว Cefi มันไม่ดียังไง? อย่างที่บอกว่าในเมื่อมันมีความมั่นคงสูง และมีรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง ถึงคุณจะคิดว่า "เงินกู กูจะเอามันไปทำอะไรก็ได้ ก็ไม่มีใครมาบังคับกูสักหน่อย" ถูกครับ แต่แค่ครึ่งเดียว
- รัฐสามารถ "ควบคุม" เงินของเราได้ ผ่านการควบคุม "ดอกเบี้ย" เงินฝาก และ "ดอกเบี้ย" เงินกู้ สมมุติว่าผมเป็นรัฐบาล ในปีนั้นผมรู้สึกว่าการลงทุนในภาคธุรกิจมันน้อย ผมอยากให้มีกิจการเยอะขึ้น ผมก็เลยลดอัตราการ "จ่าย" ดอกเบี้ยเงินฝากให้ลดลง แล้วก็ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สักหน่อย ประชาชนจะได้เอาเงินเก็บไปหารายได้ทางอื่น เพราะฝากแบงก์มันไม่คุ้ม แถมดอกเบี้ยกู้ก็ถูก น่าทำธุรกิจเพิ่ม
- ในขณะเดียวกัน อย่าลืมว่าเราต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะ "อัตราเงินเฟ้อ" ที่เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี กล่าวคือ ถ้าคุณเอา "เงิน" คุณไป "ทำงาน" ไม่พอ มันก็ไม่คุ้มกับค่าธรรมเนียมยิบย่อยรายปีไปอีก (นี่ยังไม่รวมภาษีอีกนะ เพราะดอกเบี้ยมันถือว่าเป็นรายได้)
สีหน้าผมที่ตังไม่เคยพอจ่ายค่ารักษาสถานภาพบัญชีเลยซักปี.......
- Defi มันเกิดขึ้นในโลกของ Cryptocurrency (หรือ Bitcoin นั่นแหล่ะ แต่ยุคนี้อย่าเรียก Bitcoin นะ อายเค้า) คือ การทำธุรกรรมมันเหมือนเดิมหมดแหล่ะ เอาเงินไปฝากเพื่อกินดอก แต่ทีนี้ข้อดีของมันคือในเมื่อมันไม่มีพนักงานแบงก์ มันไม่ต้องจ้าง รปภ. ไม่ต้องจ้างแม่บ้าน ไม่ต้องไปติดตั้งตู้เอทีเอ็ม ทำให้ในโลก Defi มันค่อนข้าง "แฟร์เพล" กับผู้เล่นในด้านนี้ คือกำไรจะแบ่งกันระหว่างเจ้าของแพลตฟอร์ม+ผู้ฝาก เต็มๆ แต่ผู้ฝาก ก็ต้องรับความเสี่ยงกับราคาที่ผันผวนของตลาดคริปโตให้ได้
- คือจริงๆ มันเหมือน "แชร์" วงใหญ่ ซึ่งไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ แชร์มันก็มีทั้งแบบดีและแบบไม่ดี พอพูดถึงแชร์ คนจะคิดถึงแชร์ลูกโซ่อ่ะนะ
- ระบบมันโปร่งใสแบบแน่นอน เพราะมันรันอยู่บน Smart contact ซึ่งเทคโนโลยีนี้มันมากับเหรียญอันดับสองบนกระดานเทรดอย่าง Eth (เดี๋ยวผมจะอธิบายเรื่อง Smart contact อีกครั้ง)
Smart contact กับ Eth
- ข้อเสียมันก็มี ก็ในเมื่อมันไม่มี "คนคุม" ดังนั้นมันก็ค่อนข้าง "สกปรก" ในแง่หนึ่ง หากคุณเข้ามาและความรู้ "แน่น" ไม่พอ คุณอาจต้อง Cutloss แบบขาดทุนยับเยิน เพราะFomo กับคำพูดไม่กี่คำของนักลงทุนที่มือ "เก๋า" กว่า
- ยังไม่รวมเรื่อง Rug pull (เดี๋ยวผมอธิบายเพิ่มเติมครับ) หรือเรื่องสร้างกลุ่มเพื่อลากคนไป "ทุบ" แบบหน้าด้านๆ
- ไม่มีคำปลอบใจในโลกของ Defi มีแต่คำสมน้ำหน้าและคำดูถูกเท่านั้น ถ้าคุณ "แพ้" ในโลกของการลงทุน Defi
- เวลา 1 วันในโลกของ Defi เหมือนผ่านไป 3 วัน.....แต่ถ้าคุณลงเหรียญ Gov (เดี๋ยวผมอธิบายเพิ่มเติม) เวลา 1 วันก็เหมือน 1 สัปดาห์
หน้าผมเมื่อเขียนมาถึงตรงนี้...
- ทั้งนี้ ถ้าคุณลงทุนในแพลตฟอร์มสายขาว และศึกษาระบบ Tokenomics (เหมือน Economic เดี๋ยวผมอธิบายครับ) ให้ดี อ่าน White paper วางแผนธุรกิจให้ชัดเจน คุณก็สามารถมีความสุขกับการลงทุน และสามารถพบความสุขเล็กๆ (?) ในโลกของ Defi ได้
- ไม่ใช่คำชักชวนการลงทุนแต่อย่างใด
- ถ้าเข้ามาโลกของ Defi ข้อเสียของมันคือ "เวลา" ที่มันช่างยาวนานเหลือเกิน......ลองคิดดูสิ ถ้าคุณ "คิดถึง" ใครสักคนในระหว่างที่คุณโลดแล่นอยู่ในโลก Defi แบบผม คุณจะรู้ว่ามัน "ยาวนาน" ขนาดไหน
🤫🤔
อยากกินเบียร์กับหม่าล่าจัง....ขอให้เหตุการณ์ปกติเร็วๆ ครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ฝากซีรี่ Critical Thinking : Defi ความโกลาหลที่งดงาม ด้วยครับ
ฝากกดติดตามด้วยครับ (เดี๋ยวผมมีไรจะเล่าให้ฟัง🤔🤫)🙏🙏🙏

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา