ประกาศจาก รพ. รามาฯ บุคลากรติดเชื้อโควิดสะสมกว่า 300 ราย เกินขีดความสามารถให้บริการประชาชน
โรงพยาบาลรามาธิบดี หนึ่งในโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ ออกประกาศสรุปได้ใจความสั้นๆว่าขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดจำนวนมาก เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บุคลากรการแพทย์ก็ติดเชื้อสะสมมากกว่า 300 ราย โรงพยาบาลจึงขาดแคลนบุคลากรที่จะดูแลผู้ป่วย จึงขอความร่วมมือ
▪️ งดเคสที่นัดผ่าตัดล่วงหน้า ยกเว้นกรณีเร่งด่วน
▪️ งดให้บริการห้องฉุกเฉิน เพราะมีผู้ป่วยโควิดรอค้างอยู่ที่ห้องฉุกเฉินจำนวนมาก ยกเว้นแต่จะเป็นเคสฉุกเฉินจริงๆเท่านั้น
▪️ ลดการตรวจผู้ป่วยนอก (OPD) เปลี่ยนเป็นนัดตรวจทางไกล (telemedicine) และรับยาทางไปรษณีย์
ส่วนมาตรการ DMHTT ที่โรงพยาบาลขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด คือ แนวทางการปฏิบัติตัวที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำเพื่อชะลอการระบาดของโควิด ได้แก่
D - distancing - การเว้นระยะห่าง อย่างน้อย 1-2 เมตร
M - mask wearing - ใส่หน้ากากอนามัย
H - hand washing - ล้างมือให้บ่อย รักษาความสะอาด
T - testing - ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายอย่างสม่ำเสมอ และ ตรวจหาเชื้อเมื่อมีความเสี่ยง
T - ThaiChana - ให้ใช้แอพไทยชนะและหมอชนะสแกนเข้าออกสถานที่ต่างๆ ถ้าเดินทางไปสถานที่เสี่ยงจะมี SMS แจ้ง เพื่อกักตัวหรือตรวจหาเชื้อต่อไป
facebook.com/ramathibodi
ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีประกาศจากโรงพยาบาลหลายแห่งทะยอยออกมาเรื่อยๆว่าบุคลากรภายของโรงพยาบาลติดเชื้อโควิด งดให้บริการบางอย่าง เช่น
🔺 ประกาศจากโรงพยาบาลราชวิถี
www.rajavithi.go.th
🔺 ประกาศจากโรงพยาบาลสมุทรปราการ
http://www.smpkhos.go.th/job.php
🔺 ประกาศจากโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
matichon.co.th
นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนที่ยกมาเท่านั้น ทั้งนี้โรงพยาบาลรามาธิบดีถือเป็นเป็นโรงพยาบาลที่มีขนาดใหญ่ แต่ยังออกมาประกาศว่าเกินขีดจำกัดแล้ว ประกอบกับเพื่อนที่ทำงานหน้าด่านหลายคน ทั้งบุคลากรการแพทย์, ทีมปฏิบัติงานในชุมชนคลองเตยและชุมชนต่างๆโดยรอบ, หน่วยประสานงานหาเตียง ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามีคนติดเชื้อตกค้างอยู่ตามบ้านเยอะมาก บางบ้านติดกันยกบ้าน บางบ้านต้องทิ้งเด็กหรือผู้สูงอายุไว้ บางบ้านตอนแรกยังไม่ติดเชื้อทั้งหมด แต่เพิ่งมาตรวจพบทีหลังว่าติดเชื้อเมื่ออาการหนักแล้ว
เพราะฉะนั้นในขณะที่ระบบสาธารณสุขกำลังจะรับไม่ไหว ช่วงนี้ห้ามป่วย ห้ามติดเชื้อเด็ดขาด เพราะเพื่อนที่เป็นผู้ป่วยอยู่ตอนนี้เล่าให้ฟังว่าโควิดไม่เพียงแต่ส่งผลต่อร่างกาย ยังส่งผลต่อจิตใจด้วย ยิ่งกรณีที่มีบุคคลอื่นในครอบครัวติดเชื้ออาการหนัก ซึ่งจะไปเยี่ยมก็ไม่ได้ ได้แต่รอว่าจะมีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลมาบอกว่าอาการทรุดลงหรือไม่ ทั้งที่ตัวเองก็ป่วยอยู่แต่เพราะเครียดมาก ทำให้ทานอะไรไม่ลง นอนไม่หลับ
สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ความเห็นส่วนตัวคิดว่าน่าจะยังคงพีคขึ้นเรื่อยๆ จากกราฟที่กำลังไต่ขี้นจุดสูงสุด ต้องรอลุ้นว่าการประกาศกึ่งล็อคดาวน์เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2021 จะช่วยอะไรบ้างหรือไม่ ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นผลเมื่อผ่านไปประมาณหนึ่งหรือสองอาทิตย์ แต่ถ้าเหตุการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ก็แสดงว่าไม่ได้ผล
worldometers.info
อีกทั้งอัตราการกระจายฉีดวัคซีนในประเทศก็ต่ำมาก ผ่านไป 1 เดือนตั้งแต่นายกประกาศว่าจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน เหลือเวลาอีก 3 เดือน กับวัคซีนที่ฉีดครบโดสไปได้ 4.8% และ ฉีดเข็มเดียวไปได้ 14.6% ของประชากรทั้งหมด สัญญาการส่งมอบ AstraZeneca ที่ขยายไปถึงพฤษภาคมปีหน้า กับ Sinovac ที่รับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ไม่ได้ และเชื้อเดลต้าก็น่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงอยากย้ำคำเดิมว่าช่วงนี้ห้ามป่วย ห้ามติดเชื้อเด็ดขาดนะคะ 💐
ourworldindata.org
📌 งานวิจัยจากมหิดลเผย ฉีด Sinovac ครบสองเข็มแทบป้องกันสายพันธุ์เดลต้าไม่ได้
ข้อมูลจาก >>
- 443
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
