#37 เล่ม 3 บทที่ 6 หน้า 170 ~ 175
...
N : แล้วคนที่ใช้สัมผัสพิเศษช่วยหาคนหาย อย่างเด็กที่ถูกลักพาตัว หรือวัยรุ่นที่หนีออกจากบ้านและหยิ่งในศักดิ์ศรีเสียจนไม่ยอมโทรกลับบ้านแม้ใจจริงอยากโทรใจจะขาดล่ะครับ❓ หรือในกรณีที่ช่วยหาคนร้าย (ไม่ว่าเป็นหรือตาย) แล้วแจ้งเบาะแสแก่ตำรวจ❓
...
...
...
G : คำถามเหล่านี้มันตอบตัวมันเองชัดอยู่แล้ว
📌 ผู้มีสัมผัสพิเศษที่แท้จริงจะไม่เอาเจตจำนงของตัวเองไปครอบใส่ชีวิตคนอื่น แต่จะคอยช่วยเหลือและทำประโยชน์ให้เพียงอย่างเดียว
N : มันโอเคมั้ยถ้าเราจะขอให้คนที่มีสัมผัสพิเศษติดต่อกับคนที่ตายไปแล้ว❓ มันสมควรมั้ยหากเราพยายามติดต่อวิญญาณของคนที่ "จากไปแล้ว"❓
G : ติดต่อเพื่ออะไรล่ะ❓
N : เพื่อจะได้รู้ว่าเขามีอะไรอยากพูดกับเรา หรือมีอะไรอยากบอกเราไหม
G : หากคนจาก "อีกฟากหนึ่ง" มีอะไรที่อยากให้เธอรู้ เขาจะมีวิธีทำให้เธอรู้เอง ไม่ต้องกังวล
ลุง ป้า พี่ชาย น้องสาว พ่อ แม่ คู่ชีวิต และคนรักที่ "จากไปก่อน" นี้ กำลังเดินทางต่อไปบนหนทางของตัวเอง กำลังเบิกบานอย่างเต็มเปี่ยม กำลังเคลื่อนสู่ความเข้าใจที่สมบูรณ์
ถ้าเรื่องหนึ่งที่พวกเขาอยากทำคือ การได้กลับมาหาเธอ เพื่อดูว่าเธอเป็นอย่างไร เพื่อให้เธอรู้ว่าพวกเขาสบายดี — ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม 🔸เธอวางใจได้ว่าพวกเขาจะหาทางทำจนได้🔸
จากนั้นให้เธอลองสังเกต "สัญญาณ" ที่เกิดขึ้นและลองทำความเข้าใจ อย่าปัดว่ามันเป็นแค่จินตนาการ หรือ "การคิดเพ้อเจ้อ" ไปเองของเธอ หรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญ 🔸แต่จงสังเกตสารที่ถูกส่งมาและรับไว้เสีย🔸
N : ผมรู้จักผู้หญิงคนนึงที่คอยพยาบาลดูแลสามีที่กำลังจะตาย และเธอก็ขอร้องสามีไว้ว่า : ถ้าเขาต้องจากไปจริงๆ ได้โปรดกลับมาหาเธอเพื่อให้เธอรู้ว่าเขาสบายดี สามีให้สัญญา และหลังจากนั้นสองวันเขาก็ตาย
ผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ คืนหนึ่งผู้หญิงคนนี้รู้สึกตัวตื่นขึ้นกลางดึกเพราะรู้สึกว่ามีคนนั่งลงบนเตียงข้างๆตัวเธอ พอลืมตาขึ้นมาเธอสาบานได้ว่าตัวเองเห็นสามีนั่งอยู่ตรงปลายเตียงกำลังส่งยิ้มมาให้ แต่พอกระพริบตาแล้วมองดูอีกทีเขาก็หายไปแล้ว เธอเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังหลังจากนั้น แล้วก็บอกว่าตัวเองต้องประสาทหลอนไปแน่ๆ
G : นั่นล่ะ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เธอได้รับสัญญาณ...สัญญาณที่ชัดเสียจนปฏิเสธไม่ได้ 💢แต่เธอก็ไม่สนใจ หรือไม่ก็ปัดให้เป็นเรื่องของการเล่นตลกของจิตใจ (คิดว่ามันเป็นความคิดฟุ้งซ่านของเธอเอง)💢
✴️เธออยู่ในจุดที่ต้องเลือกแบบเดียวกันนี้กับหนังสือเล่มนี้✴️
N : เราทำอย่างนั้นทำไมครับ❓ ทำไมเวลาที่เราร้องขอ (เช่น ร้องขอปัญญาและความเข้าใจที่อยู่ในหนังสือทั้งสามเล่มนี้) แล้วได้รับมันขึ้นมาจริงๆเรากลับไม่ยอมเชื่อ❓
G : 💢เพราะเธอสงสัยความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า💢 เธอเป็นแบบเดียวกับโทมัส★ ที่ต้องได้เห็น รู้สึก หรือจับต้องได้ก่อนถึงจะยอมเชื่อ
✴️แต่เธอเอ๋ย...สิ่งที่เธออยากรู้นั้นไม่อาจแลเห็น รู้สึก หรือจับต้องได้ เพราะว่ามันอยู่ในอีกระนาบหนึ่ง แล้วเธอก็ยังไม่เปิดรับระนาบนั้น ตอนนี้เธอยังไม่พร้อม แต่ไม่ต้องกังวล✴️
🌟นักเรียนพร้อมเมื่อไหร่เดี๋ยวครูจะปรากฏตัว🌟
★นักบุญโทมัส หนึ่งในอัครธรรมทูต ผู้เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นคนเชื่อยาก มีบันทึกไว้ว่า เมื่อครั้งที่พระเยซูปรากฏพระองค์แก่เหล่าสาวกหลังจากกลับคืนพระชนม์ชีพแล้ว เหล่าสาวกได้กล่าวกับโทมัสว่า "พวกเราได้พบกับเยซูเจ้าแล้ว" แต่โทมัสตอบว่า "ข้าพเจ้าไม่เชื่อ จนกว่าข้าพเจ้าจะได้เอานิ้วสอดเข้าไปในบาดแผลตะปู ที่พระหัตถ์และพระสีข้างของพระองค์" ~ ผู้แปล
N : จากคำถามข้างต้น (ที่เราจะขอให้คนที่มีสัมผัสพิเศษติดต่อกับคนที่ตายไปแล้ว) พระองค์กำลังจะบอกว่า เราไม่ควรไปหาผู้มีสัมผัสพิเศษหรือเข้าร่วมพิธีเรียกวิญญาณเพื่อติดต่อกับคนที่อยู่อีกฟากหนึ่ง❓
G : ฉันไม่ได้บอกว่าเธอควรทำ หรือ ไม่ควรทำอะไร
ฉันแค่จะสื่อว่า 🔸ทำแบบนั้นแล้วจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา🔸
N : อืม...ถ้าเกิดว่าเราเป็นฝ่ายที่มีอะไรอยากบอกกับคนที่ตายไปแล้ว ไม่ใช่อยากได้ยินจากพวกเขาล่ะครับ❓
G : เธอคิดหรือว่าพวกเขาจะไม่ได้ยินที่เธอพูด❓
แค่นึกถึงคนที่อยู่ "อีกฟากหนึ่ง" เพียงแวบเดียว เธอก็ทำให้ดวงวิญญาณ★ของเขามาอยู่ข้างๆตัวแล้ว
★วิญญาณสามารถอยู่ได้หลายที่พร้อมกันในเวลาเดียวกัน จะเรียกว่าแยกร่าง(วิญญาณ) มาก็ได้ - แอดมิน
เมื่อเธอเกิดความคิดหรือความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวกับคนที่เธอเรียกว่า "ตายแล้ว" แก่นแท้ (หรือวิญญาณ) ของคนๆนั้นจะรับรู้ได้อย่างชัดเจนในทันที ไม่จำเป็นต้องใช้สื่อกลางหรือตัวกลาง (ร่างทรง) ในการสื่อสาร
💖ความรักคือสื่อนำสารที่ดีที่สุด💖
N : โอ้...แต่ถ้าเป็นการสื่อสารสองทางล่ะครับ❓ ร่างทรงหรือสื่อนำวิญญาณจำเป็นมั้ย❓ หรืออาจต้องถามว่าการสื่อสารสองทางนี้เป็นไปได้มั้ย❓ ถือเป็นเรื่องไร้สาระหรือเปล่า❓ ถือเป็นเรื่องอันตรายไหม❓
G : ตอนนี้เธอกำลังพูดถึงเรื่องการสื่อสารกับวิญญาณ ใช่ การสื่อสารสองทางนั้นเป็นไปได้จริง ส่วนว่าอันตรายหรือเปล่า ต้องบอกอย่างนี้ว่า แทบทุกเรื่อง "เป็นอันตราย" ทั้งนั้นหากเธอ "กลัว" 💢อะไรที่เธอกลัวเธอจะสร้างมันขึ้นมา💢 แต่ในความเป็นจริงแล้ว ✨ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว✨
คนที่เธอรักไม่เคยไกลห่างจากเธอเลย ไม่มีวันห่างเกินแค่เสี้ยวคิดคำนึง ทั้งจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอหากเธอต้องการเขา พร้อมให้คำปรึกษา การปลอบโยน และคำแนะนำ หากเธอหมองหม่นทนทุกข์ในเรื่องว่าคนรักที่จากไปจะ "สบายดี" อยู่ไหม❓ เขาจะส่งสัญญาณ สัญลักษณ์ หรือ "ข้อความ" ถึงเธอ ให้เธอรู้ว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
เธอไม่แม้แต่จะต้องเรียกหาเขาด้วยซ้ำ เพราะวิญญาณที่มีความรักให้เธอในชีวิตนี้จะถูกดึงดูดเข้าหาเธอ ถูกเหนี่ยวนำมาอยู่ข้างตัวเธอ พุ่งมาหาเธอในวินาทีที่เขาสัมผัสได้ถึงปัญหาหรือความปั่นป่วนแม้เพียงนิดเดียวของสนามพลังงานออร่าของเธอ
หนึ่งในโอกาสแรกๆที่เขาจะได้รับ (ขณะที่กำลังเรียนรู้ถึงความเป็นไปได้ต่างๆของสภาวะใหม่ที่เขาเป็น) ก็คือการได้ช่วยเหลือและปลอบโยนคนที่เขารัก และเธอจะรู้สึกได้ว่าเขาเข้ามาปลอบโยนหากเธอเปิดรับเขาจริงๆ
N : ถ้าอย่างนั้น หลายๆเรื่องที่เราได้ยินจากคนที่ "สาบานได้ว่า" คนรักที่ตายไปแล้วมาอยู่ในห้อง ก็อาจเป็นเรื่องจริงได้เหมือนกัน
G :ส่วนใหญ่แล้วจริง บางคนอาจได้กลิ่นน้ำหอมหรือโคโลญจน์ของคนรัก หรือได้กลิ่นโชยของซิการ์ที่คนรักเคยสูบ หรือแว่วเสียงเพลงที่เขาชอบฮัม หรือจู่ๆข้าวของส่วนตัวบางชิ้นก็ปรากฏขึ้นแบบไม่มีที่มาที่ไป ผ้าเช็ดหน้า หรือกระเป๋าสตางค์ หรือกระดุมเสื้อบางเม็ด หรือเครื่องประดับบางชิ้น อยู่ดีๆก็ "โผล่ออกมา" แบบ "ไม่มีเหตุผล" เช่น อยู่ๆก็ "เจอ" ตรงเบาะเก้าอี้ หรือใต้กองนิตยสารเก่า
เจอภาพหรือรูปภ่ายจากช่วงเวลาพิเศษในเวลาที่เธอคิดถึงเขาขึ้นมาพอดี หรือไม่ก็คิดเรื่องที่เกี่ยวกับเขาและรู้สึกทรมานใจที่เขาตายจากไป ของพวกนี้ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ "เกิดขึ้นมาเอง" ข้าวของพวกนี้ไม่ได้จู่ๆก็ "ปรากฏขึ้น" ใน "เวลาที่เหมาะเหม็ง" โดยบังเอิญ
ฉันจะบอกกับเธอว่า : ✴️ไม่มีเรื่องบังเอิญในจักรวาลนี้✴️
นี่เป็นเรื่องที่ปรกติที่สุดและธรรมดามากๆ
ทีนี้กลับมาที่คำถามเธอ เธอจำเป็นต้องใช้ผู้ที่เรียกว่า "ร่างทรง" หรือ "ผู้สื่อวิญญาณ" เพื่อสื่อสารกับวิญญาณที่จากร่างไปแล้วไหม❓ ขอตอบว่า 🔸ไม่จำเป็น🔸
บางครั้งมันเป็นประโยชน์ไหม❓ บางทีก็ใช่ เหมือนกับที่บอกไปแล้วก่อนหน้านี้คือ ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจของผู้มีสัมผัสพิเศษหรือร่างทรงคนนั้น
ถ้าใครปฏิเสธที่จะทำเรื่องพวกนี้ให้เธอ หรือไม่ยอมใช้ "สัมผัสพิเศษ" หรือ "สื่อกับวิญญาณ" ให้จนกว่าเธอจะยอมจ่ายค่าตอบแทนก้อนโต ก็ขอให้เธอ 💢รีบเผ่น...ไม่ใช่แค่เดิน...แต่ให้วิ่งออกมาเลย💢
เขาทำหน้าที่นี้เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องแปลกใจถ้าเธอจะ "ถอนตัวไม่ขึ้น" จนต้องกลับไปใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นอาทิตย์ เป็นเดือน หรือแม้แต่เป็นปี หรือหลายๆปี เพราะพวกเขาเล่นกับความจำเป็นและความปรารถนาของเธอที่จะติดต่อกับ "โลกวิญญาณ" ไปเรื่อยๆ
ส่วนคนที่ "ทำเพื่อช่วย" (เหมือนที่วิญญาณทำเพื่อช่วย) ✨จะไม่เรียกร้องอะไรให้ตัวเองเว้นแต่ในสิ่งที่จำเป็น เพื่อจะได้ทำในสิ่งที่เขาทำอยู่นี้ต่อไปได้✨
📌 หากผู้มีสัมผัสพิเศษหรือร่างทรงคนใดที่ยอมช่วยเธอจากจุดยืนนี้ โปรดช่วยเหลือตอบแทนพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
📌 อย่าฉวยประโยชน์จากความเอื้อเฟื้อของวิญญาณดวงใดด้วยการตอบแทนที่น้อยเกินไปหรือไม่ให้เลย ถ้าเธอรู้แน่อยู่แก่ใจว่าตัวเองให้มากกว่านั้นได้
📌 สังเกตให้ดีว่าใครที่ทำประโยชน์อย่างแท้จริงให้แก่โลกใบนี้ คนที่ใส่ใจอย่างแท้จริงในการแบ่งปันปัญญา และความรู้ ความเห็นแจ้ง และความเข้าใจ ความเอื้ออาทร และความเมตตากรุณา
✴️จงเกื้อหนุนดูแลคนเหล่านี้ ดูแลพวกเขาให้ดี ตระหนักถึงคุณค่าของพวกเขาให้มาก จ่ายค่าตอบแทนพวกเขาให้สูง เพราะคนเหล่านี้คือผู้นำแสงสว่างมาให้...✴️
(จบ)(บทที่ 6)
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
